(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี Yoon Suk Yeol ประธานประเทศเวียดนาม เหงียนซวนฟุ๊ก พร้อมคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้เดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 4-6 ธันวาคม หลังการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตมาเป็นเวลา 30 ปี และ 13 ปีการเป็นหุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลีได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง กลายเป็นตัวอย่างแห่งความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อระยะแห่งความความร่วมมือที่เข้มแข็งและรวดเร็วมากขึ้นของทั้งสองประเทศ
ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก เดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการ |
ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก คือผู้นำประเทศคนแรกในระดับรัฐที่ประธานาธิบดี Yoon Suk-yeol เชิญมาเยือนหลังขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2022 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการที่สาธารณรัฐเกาหลีให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ร่วมมือกับเวียดนาม โดยพิธีต้อนรับได้มีขึ้นอย่างสมเกียรติตามแบบรัฐพิธี
จุดเด่นของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
นับตั้งแต่ที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมปี 1992 เวียดนามและสาธารณรัฐเกาหลีต่างตระหนักได้ดีเกี่ยวกับบทบาทสำคัญที่มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยการพัฒนาที่คล่องตัวและความมีเสถียรภาพของทั้งเวียดนามและสาธารณรัฐเกาหลีถือเป็นเงื่อนไขที่อำนวยความสะดวกให้ทั้งสองประเทศขยายและกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคีให้นันวันแน่นแฟ้นมากขึ้น ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – สาธารณรัฐเกาหลีมีขึ้นบนพื้นฐานของความไว้วางใจอย่างแท้จริง นี่คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศสามารถก้าวฟันฝ่าอุปสรรค์ต่างๆเพื่อก้าวรุดหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็งในสภาวการณ์ที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อน ควบคู่กันนั้น ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่คล่องตัว ยั่งยืนและเดินหน้าท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมก็ถือเป็นเสาหลักและจุดเด่นที่น่ายินดีในความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ
ปัจจุบันนี้ สาธารณรัฐเกาหลีเป็นหุ้นส่วนด้านการค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนามและเป็นผู้อุปถัมภ์โอดีเอรายใหญ่อันดับที่ 2 ของเวียดนาม พร้อมทั้งนำหน้าในการลงทุนที่เวียดนาม รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนเกือบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ่งที่น่ายินดีคือ อัตราการลงทุนของสาธารณรัฐเกาหลีในเวียดนามยังคงได้รับการธำรงและเพิ่มขึ้นถึงแม้ประสบความยากลำบากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ก็ตาม โดยโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอของสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีกว่า 9,200 แห่งกำลังประกอบธุรกิจในด้านอุตสาหกรรม การก่อสร้าง การเกษตร การท่องเที่ยว การให้บริการและการส่งออก เป็นต้น สำหรับศักยภาพของการลงทุนในเวียดนาม นาย Hong Sun รองนายกสมาคมสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีประจำเวียดนามหรือ Kocharm กล่าวว่า
“บรรยากาศการลงทุนในเวียดนามในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เป็นหนึ่งในประเทศที่น่าลงทุนมาก ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับความสนใจจากสาธารณรัฐเกาหลีเท่านั้น หากยังได้รับความสนใจจากประเทศอื่นๆด้วย ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เนื่องจากการชี้นำของรัฐบาลและความสามัคคีของประชาชนเวียดนาม ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขเป็นอย่างดี ดังนั้น นักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนสาธารณรัฐเกาหลีจึงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ยังคงลงทุนและจะขยายการประกอบธุรกิจในเวียดนามต่อไป เราหวังว่า เวียดนามและสาธารณรัฐเกาหลีจะร่วมกันเพื่อเขียนเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับความสำเร็จด้านความร่วมมือ”
ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก ให้การต้อนรับกลุ่มผู้ที่มีชื่อเสียงในสาธารณรัฐเกาหลี |
หน้าใหม่ของความสัมพันธ์เวียดนาม – สาธารณรัฐเกาหลี
สถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีได้ช่วยสร้างงานทำกว่า 700,000 ตำแหน่งให้แก่แรงงานเวียดนามและมีแรงงานเวียดนามประมาณ 48,000 คน กำลังทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี ดังนั้น เพื่อปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของแรงงานทั้งสองประเทศในสภาวการณ์ที่จำนวนแรงงานกลุ่มนี้นับวันเพิ่มสูงขึ้น เมื่อปี 2021 เวียดนามและสาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามข้อตกลงประกันสังคมทวิภาคี ซึ่งเป็นข้อตกลงที่รอบด้านและเป็นนิมิตหมายใหม่ของความร่วมมือเกี่ยวกับการรักษาสวัสดิการสังคมระหว่างสองประเทศ นาย เหงียนบ๊าฮวาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมเวียดนาม ได้เผยว่า
“เวียดนามและสาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามข้อตกลงร่วมมือเกี่ยวกับแรงงานหลายครั้ง โดยกระทรวงแรงงานของทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในระยะกลางและระยะยาว และกระชับเป็นความร่วมมืออย่างสมบูรณ์ในด้านแรงงาน งานทำและสวัสดิการสังคม ทั้งสองฝ่ายขยายความร่วมมือในโครงการต่างๆ โดยเน้นถึงเนื้อหาที่สำคัญ เช่น การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและความร่วมมือในด้านการเงินและเทคนิก ปฏิบัติโครงการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง ขยายขอบเขตและรูปแบบความร่วมมือด้านแรงงาน รวมทั้งกลไกการมอบใบอนุญาต แรงงานชั่วคราวและแรงงานในด้านเฉพาะต่างๆ ธำรงกิจกรรมเพื่อผลักดันสวัสดิการสังคมและค้ำประกันเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
นอกจากนั้น จุดเด่นที่น่าสนใจของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศคือประชาชนเวียดนามและสาธารณรัฐเกาหลีมีความรักต่อวัฒนธรรมของกัน ซึ่งนำไปสู่การผลักดันการท่องเที่ยวและการพบปะในระดับประชาชน มีความเข้าใจใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยในแต่ละเดือนมีเที่ยวบินตรงระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลีกว่า 1,000 เที่ยว ช่วยฟื้นฟูนักท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศหลังวิกฤตโควิด -19 บนพื้นฐานแห่งความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพดังกล่าว จำนวนชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศสาธารณรัฐเกาหลีและชาวสาธารณรัฐเกาหลีที่กำลังอยู่ในเวียดนามนับวันเพิ่มสูงขึ้น โดยที่สาธารณรัฐเกาหลีมีชาวเวียดนามอาศัยอยู่กว่า 216,000 คน ส่วนชาวสาธารณรัฐเกาหลีกำลังอาศัยอยู่ในเวียดนามกว่า 180,000 คนและส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ ซึ่งเอื้ออำนวยให้แก่การจัดการพบปะสังสรรค์มิตรภาพระหว่างกัน มีส่วนร่วมเพิ่มความเข้าใจและความไว้วางใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
ปี 2022 นี้ไม่เพียงแต่เป็นปีรำลึกครบรอบ 30 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเท่านั้น หากยังเป็นนิมิตหมายที่สำคัญเปิดยุคแห่งการพัฒนาใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอีกด้วย ดังนั้น การเยือนสาธารณรัฐเกาหลีของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก ถือเป็นการสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ระยะใหม่แห่งความร่วมมือระหว่างสองประเทศ.