ดัชนีการพัฒนามนุษย์หรือ HDI ของเวียดนามอยู่ที่ 0.704 อยู่อันดับที่  117จาก 189ประเทศและดินแดน

นอกจากเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นตัวอย่างในการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษและเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติแล้ว เวียดนามยังได้รับความไว้วางใจและการชื่นชมจากประชาคมโลกเนื่องจากมีความรับผิดชอบต่อประชาชนในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สร้างนิมิตหมายผ่านความสำเร็จต่างๆ

ตามรายงานการพัฒนามนุษย์ทั่วโลกประจำปี 2020 โดยโครงการพัฒนาของสหประชาชาติ หรือ UNDP ประสานกับกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนามประกาศเมื่อกลางเดือนธันวาคมปี2020 ปรากฎว่า เวียดนามติดกลุ่มประเทศที่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์หรือ HDI ในระดับสูงสุดในโลก โดยดัชนี HDI ของเวียดนามอยู่ที่ 0.704 อยู่อันดับที่  117จาก 189ประเทศและดินแดน เวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ปฏิบัติความเสมอภาคทางเพศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยดัชนีการพัฒนาที่คำนึงถึงเพศ หรือ GDI อยู่ที่ 0.997 อยู่อันดับที่ 65 จาก162 ประเทศและติดกลุ่มประเทศที่มีดัชนี GDI ในระดับสูงสุดในโลก ซึ่งในช่วงปี 1990 – 2020 ค่าดัชนี HDI ของเวียดนามได้เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 46 ติดกลุ่มประเทศที่มีการขยายตัวของดัชนีการพัฒนามนุษย์สูงที่สุดในโลก โดย UNDP ได้ประเมินว่า ในด้านคุณภาพของการพัฒนามนุษย์เวียดนามได้ปฏิบัติดัชนีชีวัดทางสุขภาพ การศึกษา งานทำและการพัฒนาชนบทอย่างมีประสิทธิภาพ

ในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลเวียดนามได้มีนโยบายช่วยเหลือประชาชน 13ล้านคนที่ได้รับผลกระทบ ผลสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของเวียดนามเป็นการพิสูจน์อย่างมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับจิตใจที่ทำเพื่อประชาชนและการสานต่อผลสำเร็จในการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน นาง Caitlin Wiesen หัวหน้าสำนักงานตัวแทน UNDP ในเวียดนามได้ยืนยันว่า “ความสำเร็จของเวียดนามในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  เป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ประชาคมโลก” โดยประชาคมโลกถือเวียดนามเป็นจุดเด่นและเป็นตัวอย่างเกี่ยวกับการรับมือการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ หนังสือพิมพ์ต่างๆของประเทศตะวันตกได้รายงานว่า “จากทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายที่พร้อมเสียสละผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจเพื่อปกป้องความปลอดภัยให้แก่ประชาชน รัฐบาลเวียดนามได้ยึดหลักมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดผ่านการตรวจหาเชื้อในเชิงรุก การแบ่งเขต การแยกตัวและการรักษาผู้ติดเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์ภายในประเทศ” ส่วนนักข่าว David Hutt ของสำนักข่าว BBC News ได้ให้ข้อสังเกตว่า “พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้มีปฏิบัติการที่มีความรับผิดชอบและให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อความปลอดภัยของประชาชน” ส่วนเว็บไซต์ liberationnews.org ของสหรัฐได้รายงานว่า “รัฐบาลแห่งสังคมนิยมเวียดนามได้ถือประชาชนเหนือกว่าผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ”

นาง Caitlin Wiesen หัวหน้าสำนักงานตัวแทน UNDP ในเวียดนาม (VNA)

ความสำเร็จที่สร้างแรงบันดาลใจ

ความสำเร็จในการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนในเวียดนามได้รับการชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการที่เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นตัวย่างในการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษและเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยจากเศรษฐกิจที่เน้นการผลิตเกษตรที่ล้าสมัย มีจีดีพีอยู่ที่ 1หมื่น 4พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี1985 ภายหลัง 35ปีจีดีพีของเวียดนามได้เพิ่มขึ้นเกือบ19 เท่า อยู่ที่ 2 แสน 6หมื่น 2พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นหนึ่งใน16 เศรษฐกิจที่เพิ่งโดดเด่นที่ประสบความสำเร็จในโลก ซึ่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจคือพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อให้รัฐบาลเวียดนามปฏิบัตินโยบายด้านสวัสดิการสังคม วัฒนธรรม ปกป้องและค้ำประกันสิทธิขั้นพื้นฐานให้แก่กลุ่มเสี่ยง จนถึงปัจจุบัน พรรคและรัฐเวียดนามได้ประกาศนโยบาย 118ฉบับเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจน การพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่และค้ำประกันสวัสดิการสังคมให้แก่ประชาชนชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ ถึงแม้จะขาดแคลนงบประมาณสำหรับด้านต่างๆ แต่สภาแห่งชาติและรัฐบาลเวียดนามได้เพิ่มงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาความยากจนขึ้นเป็น2 เท่าและจัดสรรค์งบประมาณร้อยละ 21เพื่อสวัสดิการสังคม ซึ่งสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

จากการปฏิบัตินโยบายทางสังคมอย่างพร้อมเพรียง ในช่วงปี2016-2020 อัตราครอบครัวยากจนตามแนวทางการเข้าถึงหลายมิติได้ลดลงจากร้อยละ 9.88 เมื่อปี2015 เป็นร้อยละ3.75 ในปี2019 และต่ำกว่าร้อยละ 3ในปี2020 ทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่บรรลุเป้าหมายแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติในการแก้ปัญหาความยากจน จนถึงขณะนี้ ตำบลทุกแห่งมีถนนไปสู่ตัวตำบล ตำบลร้อยละ 99และหมู่บ้านร้อยละ80 มีไฟฟ้าใช้ ประชาชนชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆและผู้ที่มีฐานะยากจนเกือบ 3ล้านคนได้รับบัตรประกันสุขภาพฟรี

ทั้งนี้ นโยบาย ความพยายามและความสำเร็จของเวียดนามในการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจและค้ำประกันสวัสดิการสังคมเป็นการพิสูจน์อย่างมีชีวิตชีวาและเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการพัฒนามนุษย์ของเวียดนาม.