ประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติประกาศผลการเลือกตั้ง

ผลสำเร็จด้านสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับ
แม้จะเป็นประเทศกำลังพัฒนาและประสบความยากลำบากต่างๆแต่ทั้งระบบการเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนเวียดนามทั่วประเทศต่างพยายามอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อสร้างสรรค์ประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ มีความก้าวหน้าและความยุติธรรมทางสังคม รวมไปถึงการปกป้องสิทธิมนุษยชน
สำหรับนโยบายนั้น นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับแรกเมื่อปี 1946 จนมาถึงร่างรัฐธรรมนูญปี 1992 ฉบับแก้ไขที่จะได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาในเร็วๆนี้ต่างก็ระบุถึงสิทธิต่างๆของมนุษย์อย่างสมบูรณ์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคม การเมืองและพลเรือน นอกจากนี้ เนื้อหาต่างๆของสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ก็ได้ถูกระบุอย่างชัดเจนและเสริมเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องผ่านเอกสารกฎหมายและบทบัญญัติซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์และมาตรฐานของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและอนุสัญญาสากลของสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ระเบียบการปกป้องและส่งเสริมสิทธิของมนุษย์ในเวียดนามได้รับการจัดทำภายใต้หลักการรัฐบริหารด้วยอำนาจกฎหมาย เป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน
ในความเป็นจริง ในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวทางเศรษฐกิจและจีดีพีของเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ 6 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงของภูมิภาคสร้างงานทำ 8 ล้านตำแหน่ง ลดอัตราครอบครัวที่ยากจนลงเหลือเพียงร้อยละ 9.5 สวัสดิการสังคม การเข้าถึงบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะเด็กๆ คนจนและชนกลุ่มน้อยได้รับการปกป้อง ซึ่งทำให้ดัชนีการพัฒนาของมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เวียดนามได้เสร็จสิ้นเป้าหมายการพัฒนาสแห่งหัสวรรษหลายเป้าหมายก่อนกำหนดและกลายเป็นตัวอย่างของสหประชาชาติในการแก้ปัญหาความยากจน
นอกจากนี้ เวียดนามยังเป็นตัวอย่างในการปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยมีจำนวนผู้ใช้บริการอิเตอร์เนตได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา  ความเชื่อและศาสนาในเวียดนามนับวันยิ่งมีความหลายหลายและคึกคักโดยเฉพาะการพัฒนาของศาสนาสำคัญของโลกรวมทั้งศาสนาและความเชื่อภายในประเทศในด้านจำนวนองค์กร ผู้นับถือ ศาสนาสถาน การฝึกอบรมและเอกสารพิมพ์จำหน่าย

            ความพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง
เวียดนามเป็นผู้สังเกตุการณ์ของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาตินับตั้งแต่ที่องค์การนี้ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 2006 มาจนถึงปัจจุบัน ตลอดระยะเวลาดังกล่าว เวียดนามเน้นให้ความสำคัญและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของสภาสิทธิมนุษยชนอย่างเข้มแข็ง พร้อมทั้งชื่นชมระเบียบการตรวจสอบทั่วไปเป็นประจำหรือ UPRโดยถือเป็นระเบียบที่มีประสิทธิภาพเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ประสบการณ์และส่งเสริมความเข้าใจกันระหว่างประเทศเพื่อผลักดันและปกป้องสิทธิต่างๆของมนุษย์ให้ดีขึ้น
เวียดนามได้อ่านรายงานของ UPR ครั้งแรกเมื่อปี 2009 และได้รับคำชื่นชมจากสภาสิทธิมนุษยชนและทุกประเทศ  เวียดนามยังขยายการสนทนา ความร่วมมือและตอบคำถามอย่างสมบูรณ์และตรงเวลาต่อจดหมายประท้วงของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งปฏิบัติตามระเบียบพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชน
การที่เวียดนามได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติครั้งนี้ถือเป็นการยอมรับของประชาคมระหว่างประเทศและเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงผลสำเร็จในการปกป้องสิทธิมนุษยชนของเวียดนาม ดังนั้นคำกล่าวหาของฝ่ายที่เป็นอริที่ว่า เวียดนามมีปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนจึงเป็นสิ่งที่ไร้คุณค่า

            เวียดนามจะมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในการปกป้องสิทธิมนุษยชนของโลก

เวียดนามจะเป็นหนึ่งในตัวแทนของเอเชียในสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระ 3 ปี ดังนั้น เวียดนามจะมีเสียงพูดที่มีลักษณะของเอเชียในการเสนอความคิดริเริ่มหรือเข้าร่วมการร่างมติเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
แน่นอนว่า เวียดนามจะขยายมาตรการ นโยบายและแหล่งพลังเพื่อให้การปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆของมนุษย์ดีขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม พลเรือนและการเมืองตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนของโลก พร้อมทั้งทำการปรับปรุงระบบกฎหมาย ระบบตุลาการ สร้างสรรค์ประเทศที่บริหารด้วยอำนาจกฎหมาย เพิ่มระเบียบการระดับชาติเพื่อปกป้องสิทธิต่างๆของมนุษย์ ซึ่งรวมไปถึงการพิจารณาก่อตั้งองค์การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ดังนั้น การเข้าเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติถือเป็นโอกาสให้เวียดนามแลกเปลี่ยนและขยายผลผลสำเร็จที่ได้รับในความพยายามปกป้องสิทธิมนุษยชนของประเทศตนต่อเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ./.