เวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า การขยายตัวในปี 2019 จะบรรลุร้อยละ 6.6-6.8

(VOVWORLD) -แม้ยังมีข้อจำกัดและความท้าทายต่างๆ รวมถึงสถานการณ์โลกและภูมิภาคมีความผันผวนเป็นอย่างมากแต่ในเวลาที่ผ่านมา ประเทศเวียดนามสามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อและรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัว เน้นชี้นำเพื่อพัฒนาหน่วยงานและภาคส่วนที่มีศัยภาพและเป็นจุดแข็ง พร้อมทั้งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อกระตุ้นผลิตภาพ คุณภาพ ประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจตลอดจนตั้งเป้าหมายใหม่สำหรับการขยายตัวของประเทศในปี 2019
เวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า การขยายตัวในปี 2019 จะบรรลุร้อยละ 6.6-6.8 - ảnh 1ภาพประกอบ

 

ในการประชุมครั้งที่ 6 สภาแห่งชาติสมัยที่ 12 นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ – สังคมในปี 2018 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในปี 2019 รวมทั้งการประเมินผลการปฏิบัติงานในกึ่งวาระของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมระยะ 5 ปีในระหว่างปี 2016-2020 โดยยืนยันว่า การขยายตัวของจีดีพีในปี 2018 จะบรรลุกว่าร้อยละ 6.7 อัตราการขยายตัวของเวียดนามสูงกว่าระยะปี 2010-2015 การขยายตัวของเศรษฐกิจมีคุณภาพและยั่งยืนมากขึ้น

การขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2018 จะบรรลุกว่าร้อยละ 6.7

ต่อจากผลสำเร็จในปี 2017 สถานการณ์เศรษฐกิจ - สังคมของเวียดนามใน 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2018 บรรลุผลงานที่น่ายินดีต่างๆ โดยการขยายตัวของจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 6.98 ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 โดยเฉพาะหน่วยงานอุตสาหกรรม การเกษตร การบริการ การนำเข้าและส่งออกมีการขยายตัวในระดับสูง จีดีพีของเวียดนามในปี 2018 จะบรรลุร้อยละ 6.7 และบรรลุทั้งหมด 12 เป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะมี 8 เป้าหมายที่สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เศรษฐกิจมีการขยายขอบเขตมากกว่า 1.3 เท่า จีดีพีเฉลี่ยต่อหัวประชากรได้เพิ่มขึ้น 440 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเที่ยวกับช่วงเริ่มต้นของวาระ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการยกระดับให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กยังคาดการณ์ว่า เวียดนามจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 2016-2020 ตามมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 และมติของสภาแห่งชาติ ซึ่งในนั้นมี 11 เป้าหมายสามารถบรรลุในระดับสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้            “บรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ส่วนเป้าหมายที่ลดขั้นตอนระเบียบราชการให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 50 นั้น ก็สามารถลดได้กว่าร้อยละ 60 ด้านการตรวจสอบเงื่อนไขการประกอบธุรกิจและการตรวจสอบการนำเข้าและส่งออก  ทำการตรวจสอบและลดค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ เวียดนามได้รับประเมินให้เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ให้คำมั่นอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะในการปฏิรูปด้านภาษี โดยตลอดปีมีสถานประกอบการเกิดใหม่ประมาณ 130,000 แห่ง ผลประกอบการมีกำไรสูงขึ้นและแรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้น มาตรการเชิงยุทธศาสตร์และการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจได้รับการชี้นำอย่างรอบคอบเพื่อให้ประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ การปฏิบัติมติส่วนกลางเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ระบบเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยมให้สมบูรณ์ ปฏิรูปสถานประกอบการภาครัฐและพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน”

รัฐบาลตั้งเป้าไว้ว่า การขยายตัวของจีดีพีในปี 2019 จะบรรลุร้อยละ6.6-6.8 โดยดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 4 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 7-8 อัตราการเสียเปรียบดุลการค้าต่ำกว่าร้อยละ 3 ส่วนยอดเงินลงทุนเพื่อการพัฒนาในทุกด้านของสังคมอยู่ที่ร้อยละ 33-34 ของจีดีพี

ปฏิบัติหน้าที่และมาตรการแก้ไขอย่างเคร่งครัด พร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพต่อไป

นอกจากผลสำเร็จ รายงานยังระบุอย่างตรงไปตรงมาว่า อัตราการพัฒนาของเศรษฐกิจและสังคมยังมีข้อจำกัดเนื่องจากสาเหตุต่างๆ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊กย้ำว่า ในเวลาที่เหลือของปี 2018 จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่และมาตรการแก้ไขอย่างเคร่งครัด พร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เกาะติดสถานการณ์ภายในประเทศและระหว่างประเทศเพื่อวางนโยบายให้เหมาะสม ทันการณ์และทำการปฏิรูประเบียบราชการอย่างเคร่งครัดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การผลิตและประกอบธุรกิจมากขึ้น รับมือกับภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและผลักดันการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย รักษาความมั่นคงทางการเมืองและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม เป็นต้น เพื่อพยายามบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2018 และเป็นพื้นฐานให้แก่ปีต่อๆไป            “ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ส่งเสริมพลังภายในและการพึ่งพาตนเองของเศรษฐกิจ เน้นปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ ผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ ปฏิบัติก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ต่างๆ ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัว เพิ่มผลผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ มีความคิดสร้างสรรค์ เปลี่ยนแปลงใหม่และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย โดยเฉพาะใช้โอกาสจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 อย่างเต็มที่ เน้นส่งเสริมวัฒนธรรม สังคม ค้ำประกันสวัสดิการ ยกระดับทั้งชีวิตทางวัตถุและจิตใจของประชาชนให้ดีขึ้น เพิ่มการบริหารทรัพยากร สิ่งแวดล้อม เป็นฝ่ายรุกในการรับมือกับภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”

นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก ยังกำชับให้ผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการ หน่วยงานตุลการและเพิ่มความกระทัดรัดให้แก่สำนักงานภาครัฐ แก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยอย่างเคร่งครัด ส่งเสริมศักยภาพด้านกลาโหม ความมั่นคงและการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม ยกระดับประสิทธิภาพของงานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก พร้อมทั้งยืนยันว่า หน้าที่ต่างๆยังคงมีความหนักหน่วง ดังนั้น รัฐบาลเวียดนามต้องเน้นชี้นำทางการและหน่วยงานทุกระดับให้ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด พยายามแก้ไขจุดอ่อนและข้อจำกัดเพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2019 ในระดับสูงที่สุดเพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมระยะ 5 ปี ระยะปี 2016-2020 ให้ลุล่วงไปด้วยดี.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด