เวียดนามพยายามยกเลิก “ใบเหลือง” ของอีซีและพัฒนาอาชีพประมงอย่างยั่งยืน

(VOVWORLD) - การแก้ปัญหาและยุติสถานการณ์เรือประมงรุกล้ำเขตทะเลของประเทศอื่นคือเนื้อหาที่เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆเพื่อหาทางยกเลิก “ใบเหลือง” ของคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซีต่อการทำประมงที่ไม่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน ซึ่งหน่วยงานสัตว์น้ำและทางการของ 28 จังหวัดและนครในเขตริมฝั่งทะเลของเวียดนามกำลังพยายามปฏิบัติอย่างเต็มที่
เวียดนามพยายามยกเลิก “ใบเหลือง” ของอีซีและพัฒนาอาชีพประมงอย่างยั่งยืน - ảnh 1เวียดนามพยายามยกเลิก “ใบเหลือง” ของอีซีและพัฒนาอาชีพประมงอย่างยั่งยืน (นิตยสารการเงิน) 

การที่อีซีให้ “ใบเหลือง” ต่อสัตว์น้ำเวียดนามไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการกำหนดแนวทางและเป็นการเรียกร้องที่ชัดเจนเพื่อให้เวียดนามเปลี่ยนแปลง พัฒนาอาชีพประมงอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบโดยเวียดนามได้มีการปรับปรุงกรอบทางนิตินัยที่เกี่ยวข้องครั้งใหญ่คือการประกาศใช้กฎหมายสัตว์น้ำที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคมปี 2019 ควบคู่กับการปฏิบัติคำมั่นต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายและไม่รายงาน

ชาวประมงเวียดนามร่วมมือและมีความรับผิดชอบ

ภายหลังกว่า 1 เดือนที่ออกทะเลจับปลา เรือประมงของนาย ลา วัน แซ้ง ในอำเภอ หว่ายเญิน จังหวัดบิ่งดิ่งห์สามารถจับปลาทูน่าได้ 3 ตัน เมื่อเรือเข้าเทียบท่าเรือ กวีเญิน นาย แซ้ง ต้องตรวจสอบข้อมูลการออกเรือจับปลาและปริมาณสัตว์น้ำที่ได้จับในแต่ละวันอีกรอบ นาย แซ้ง เผยว่า ในตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา เมื่อได้รับใบเหลืองจากอีซี การทำประมงได้มีการเปลี่ยนแปลง ทุกวัน นาย แซ้งและชาวประมงคนอื่นๆต้องเขียนบันทึกเกี่ยวกับเวลา พิกัดของเรือประมงในขณะที่จับปลากลางทะเล ปริมาณและชนิดของปลาที่จับได้ นาย แซ้ง ยังเขียนบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ แรงลม คลื่นทะเลขณะที่จับปลาเพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับการทำประมงครั้งต่อไป นาย ลาวันแซ้ง เผยว่า “การเขียนบันทึกเกี่ยวกับการจับปลาเป็นสิ่งที่ไม่ยาก เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำประมงครั้งต่อไป โดยใช้เพื่อเป็นข้อมูลประมาณการเกี่ยวกับปริมาณปลาเพื่อให้การจับปลามีประสิทธิผลมากขึ้น”

เพื่อควบคุมเรือประมงเข้าออกท่าเรือและแหล่งที่มาของสัตว์น้ำ ท้องถิ่นต่างๆได้จัดตั้งสำนักงานตรวจสอบการทำประมงตามท่าเรือต่างๆโดยมีตัวแทนของกองกำลังทหารชายแดน คณะกรรมการบริหารท่าเรือและกรมสัตว์น้ำดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบเรือประมงที่เข้าออก นาย ห่าเวียน ผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารท่าเรือประมงจังหวัดฟู้เอียนได้เผยว่า “พวกเราประสานกับทหารชายแดนและกรมสัตว์น้ำโดยเน้นตรวจสอบและติดตามเรือประมงในระยะไกลกว่า 15 เมตร ตรวจสอบเอกสารและอุปกรณ์ ก่อนออกทะเลจับปลา แนะนำให้เจ้าของเรือประมงแสดงสมุดบันทึกการทำประมงก่อนออกทะเลจับปลา เมื่อเรือประมงเข้าเทียบท่า เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลจับปลาและส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเอกสารเพื่อออกใบรับรองให้แก่เจ้าของเรือประมงที่ทำตามข้อกำหนดอย่างถูกต้อง”

หน้าที่สำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและท้องถิ่นคือยุติปัญหาเรือประมงทำผิดกฎหมายในเขตทะเลของประเทศอื่น ประสานกับด่านป้องกันจุดผ่านแดนเพื่อให้คำแนะนำและประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงทราบข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปและกฎหมายสัตว์น้ำปี 2017 และป้องกันไม่ให้เรือประมงละเมิดเขตน่านน้ำของประเทศอื่น คณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่งดิงห์ได้เสนอมาตรการขั้นเด็ดขาดคือท้องถิ่นใดปล่อยให้เรือประมงละเมิดเขตทะเลของประเทศอื่น ผู้บริหารท้องถิ่นนั้นจะต้องรับผิดชอบด้วย นาย โห่ก๊วกหยุง ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่งดิ่งห์ได้เผยว่า “พวกเราไม่ได้มีเป้าหมายลงโทษผู้กระทำผิด แต่ต้องการให้ทราบว่า พวกเขากำลังทำผิดกฎหมายเพื่อยกระดับจิตสำนึกและไม่ทำผิดกฎหมายอีก ทำให้พวกเขาทราบว่า การกระทำของพวกเขาได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อชื่อเสียงของประเทศ ตลอดจนเศรษฐกิจ ถ้าต่างชาติออกคำเตือนและไม่นำเข้าสินค้าของเราอีก เราจะประอุปสรรคในการขายสินค้าในขณะที่พวกเรากำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลก”

ผลักดันการบริหารและตรวจสอบ

หนึ่งในมาตรการขั้นพื้นฐานเพื่อบริหาร ตรวจสอบและแก้ปัญหาเรือประมงละเมิดเขตทะเลของประเทศอื่นคือการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบการเดินเรือ นาย เหงียนตังบิ๊ง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างหงายได้แสดงความเห็นว่า จากการบริหารเรือประมงอย่างเข้มงวดและการลงโทษขั้นเด็ดขาด สถานการณ์เรือประมงละเมิดเขตทะเลของประเทศอื่นได้ลดลง “สำหรับเรือที่ละเมิดการทำประมงในเขตทะเลของประเทศอื่น ต้องลงโทษอย่างเด็ดขาดตามมติ 103 ของรัฐบาล นั่นคือการถอนใบอนุญาตทำประมง ระงับใบประกอบอาชีพของกัปตันเรือชั่วคราว ถ้าหากมีการกระทำผิดอีกก็จะไม่ออกใบอนุญาตต่อเรือใหม่ ซื้อเรือใหม่หรือปรับปรุงเรือประมงที่ทำผิดกฎหมาย”

ปี 2018 กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้ออกใบรับรองสัตว์น้ำเกือบ 4 พัน 6 ร้อยใบและสัตว์น้ำส่งออกไปยังอียู 7 หมื่น 5 พันตัน โดยเฉพาะไม่มีสถานการณ์เรือประมงและชาวประมงละเมิดเขตทะเลของประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นผลงานของหน่วยงานการเกษตรที่ได้บรรลุในความพยายามยกเลิกใบเหลืองของอีซีต่อสัตว์น้ำเวียดนาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด