เนื้อหาของความร่วมมืออาเซียนได้ถูกระบุว่า มีบทบาทสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงและการพัฒนาของเวียดนาม โดยเฉพาะในสภาวการณ์ปัจจุบันที่เวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก จากเจตนารมณ์ดังกล่าว ในปี 2014 เวียดนามได้เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพต่อกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคม เสริมสร้างความสามัคคี ส่งเสริมความรับผิดชอบและเสียงพูดเดียวกันของอาเซียนต่อปัญหายุทธศาสตร์ของภูมิภาคและมีส่วนร่วมต่อการวางแนวทางใหญ่ๆของอาเซียนหลังปี 2015

ภายหลัง 5 ปีที่ปฏิบัติแผนการสร้างสรรค์ประชาคม ขณะนี้ อาเซียนได้ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์บน 3 เสาหลักคือ การเมือง – ความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม – สังคมถึงร้อยละ 85 โดยเฉพาะเวียดนาม แผนการนี้ก็ได้รับการผลักดันตาม 3 เสาหลักอย่างกว้างขวาง ในด้านความมั่นคง เวียดนามมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการร่าง การแลกเปลี่ยนและการปฏิบัติมาตรฐานการปฏิบัติต่อกันและระเบียบความร่วมมือที่มีอยู่ของภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ ที่น่าสนใจคือในด้านเศรษฐกิจ เวียดนามอยู่อันดับที่ 2 รองจากสิงคโปร์ที่บรรลุอัตราการปฏิบัติสูงที่สุด โดยคิดเป็นประมาณร้อยละ 90 นายฟามกวางวิงห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า “เวียดนามเป็นประเทศเดินหน้าในการปฏิบัติมาตราฐานและกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากคณะเลขาธิการอาเซียน ในเวลาข้างหน้า เวียดนามจะต้องปฏิบัติภารกิจหลายอย่างต่อไปโดยเฉพาะในภารกิจที่ต้องมีความเชื่อมโยงในระดับที่สูงกว่า”

ในปีที่ผ่านมา ความรับผิดชอบและบทบาทเป็นแกนนำในการรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคของอาเซียนได้รับการยกระดับต่อไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนจากสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลตะวันออกโดยได้ยึดหลักจากผลประโยชน์แห่งการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน เวียดนามได้ยืนหยัดตามหลักของกฎหมายสากล ข้อตกลงที่อาเซียนได้ลงนามกับจีนและพยายามร่วมมือกับสมาชิกอื่นๆของอาเซียนปกป้องความสามัคคีภายในกลุ่ม ท่านฝามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเผยว่า การที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนออกแถลงการณ์ร่วมครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมปี 2014 เกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออกและการออกประกาศร่วมเอเอ็มเอ็ม 47 ที่ยืนยันคำมั่นของทุกประเทศอาเซียนในการปฏิบัติแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นว่า อาเซียนได้พัฒนาความสามัคคีอย่างเข้มแข็ง มีเสียงพูดเดียวกันและเห็นพ้องกันในปัญหายุทธศาสตร์ของภูมิภาค ท่านฝามบิ่งมิงห์เผยว่า “ทุกประเทศสมาชิกอาเซียนต่างให้ความสนใจถึงปัญหาทะเลตะวันออก ซึ่งมีความเห็นพ้องกันในระดับสูงและให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหานี้ด้วยสันติวิธี ย้ำถึงความอดกลั้น ไม่ใช้อาวุธ ข่มขู่ที่จะใช้อาวุธและปฏิบัติตามกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982แถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี โดยเฉพาะทุกประเทศได้เห็นพ้องว่าควรเร่งรัดการจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีระหว่างอาเซียนกับจีนให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว”

แน่นอนว่า อาเซียนจะสามารถจัดตั้งประชาคมได้ในปี 2015 ตามเวลาที่กำหนด ปัจจุบัน อาเซียนได้สร้างสรรค์วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนหลังปี 2015 และผลักดันการจัดตั้งกลุ่มเฉพาะกิจระดับสูงเพื่อร่างแผนการปฏิบัติ ซึ่งกำหนดจะเริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2015 โดยวิสัยทัศน์ได้เน้นถึงแนวทางใหญ่ของอาเซียน เช่น การเสริมสร้างประชาคมอาเซียนต่อไปและสร้างความเชื่อมโยงกันใน 3 เสาหลักในระดับที่สูงขึ้น ผลักดันการปฏิบัติเป้าหมายต่างๆที่มุ่งสู่มนุษย์และถือมนุษย์เป็นศูนย์กลางของอาเซียนต่อไป สร้างสรรค์ประชาคมที่พึ่งพาตนเองและสามารถแก้ไขความท้าทายใหม่ๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับหน้าที่ของเวียดนามในเวลาข้างหน้า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟามกวางวิงห์เผยว่า “หลังปี 2015 อาเซียนต้องร่างวิสัยทัศน์ในระดับที่สูงขึ้นเพื่อนำประชาคมพัฒนาอย่างมั่นคง เวียดนามจะมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการเสริมสร้างความสามัคคีอาเซียน ทำให้สมาชิกอาเซียนพยายามร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมทั้งร่วมมือกับอาเซียนสร้างบรรยากาศสันติภาพ เสถียรภาพและพัฒนาบทบาทที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียนในขณะที่อาเซียนจะมีความร่วมมืออย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับหุ้นส่วนต่างๆ ตลอดจนการสร้างสรรค์มาตรฐานการปฏิบัติต่อกันในภูมิภาคและโครงสร้างของภูมิภาคที่กำลังก่อตั้ง”

ปี 2015 เป็นช่วงเวลาเปิดตัวประชาคมอาเซียนและครบรอบ 20 ปีที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียน ซึ่งจะเป็นนิมิตหมายสำคัญและเป็นโอกาสให้เวียดนามทบทวนประวัติศาสตร์และพัฒนาต่อไป ซึ่งในระยะต่อไปนี้ เวียดนามจะพัฒนาบทบาทการเป็นสมาชิกที่คล่องตัว เป็นฝ่ายรุกและมีความรับผิดชอบสูงต่อไปเพื่อร่วมมือกับประเทศต่างๆในภูมิภาคนำอาเซียนฟันฝ่าความท้าทายเพื่อกลายเป็นประชาคมที่เข้มแข็ง มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดและมีการพัฒนาอย่างเข้มแข็งหลังปี 2015./.