( VOVworld )-สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนกำลังมุ่งสู่หลักหมายใหม่ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์คือ การก่อตั้งประชาคมอาเซียนในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๐๑๕ นี้  ซึ่งประชาคมการเมืองกับความมั่นคงอาเซียนถือเป็นเสาหลักที่สำคัญพิเศษในขณะที่สถานการณ์ความมั่นคงและการเมืองในภูมิภาคเป็นไปอย่างซับซ้อนโดยเฉพาะสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลตะวันออก สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนกำลังเสริมสร้างความสามัคคีเพื่อยกระดับบทบาทเป็นศูนย์กลางและสถานะของตนในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในภูมิภาคและโลก  ส่วนเวียดนามในฐานะเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นของอาเซียนก็กำลังมีส่วนร่วมต่อกระบวนการดังกล่าว

การสร้างสรรค์ประชาคมการเมืองกับความมั่นคงเพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศสมาชิกและการมีส่วนร่วมของหุ้นส่วนอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนอยู่ด้วยกันในบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความยุติธรรม มีประชาธิปไตยและการปรองดอง  ประชมคมการเมืองกับความมั่นคงจะผลักดันการเข้าถึงความมั่นคงในทุกด้านได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อม  การขยายความร่วมมือด้านการเมือง การสร้างสรรค์และเรียนรู้มาตรฐานการปฏิบัติต่อกัน  การผลักดันปฏิบัติตามแนวโน้มไม่ใช้กำลังและการแก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการสันติ การป้องกันและแก้ไขการพิพาท การขยายความสัมพันธุ์กับหุ้นส่วนนอกองค์การตลอดจนการรักษาบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในองค์ประกอบของภูมิภาค

บทบาทของอาเซียนในองค์ประกอบความมั่นคงของภูมิภาค

ใน ๔๓ ปีที่ผ่านมา  สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดทั้งในด้านคุณภาพ จำนวนประเทศสมาชิก รูปแบบและเนื้อหาความร่วมมือ โดยปัจจุบันองค์การอาเซียนได้กลายเป็นองค์การร่วมมือของภูมิภาครวมประเทศสมาชิก ๑๐ ประเทศเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค อันเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประเทศสมาชิกขยายความร่วมมือกับต่างประเทศและผสมผสานเข้ากับโลก   ปัจจุบัน อาเซียนมีบทบทในองค์ประกอบความมั่นคงของภูมิภาคมากขึ้น โดยอาเซียนมีความร่วมมือไม่เพียงแต่ภายในกลุ่มเท่านั้น หากยังในกระบวนการต่างๆที่อาเซียนเป็นแกนนำได้แก่ อาเซียนบวกหนึ่ง อาเซียนบวกสาม การประชุมผู้นำเอเชียตะวันออกหรืออีเอเอสและฟอรั่มภูมิภาคอาเซียนหรือเออาร์เอฟ

อย่างไรก็ตาม อาเซียนกำลังเผชิญกับความท้ายทายต่างๆซึ่งที่เห็นได้ชัดคือ การพิพาทอธิปไตยทางดินแดน ทั้งนี้ทำให้อาเซียนต้องเดินหน้าในการขยายความร่วมมือในภูมิภาคและการร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว การเคารพกฎหมายสากล การรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค  ในการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ ๒๖ เมื่อเร็วๆนี้ นายนาจิบ ตุน อับดุล ราซัคนายกฯมาเลเซียและประธานอาเซียนปี ๒๐๑๕ได้ย้ำอีกครั้งถึงความสามัคคีในองค์การอาเซียนเพื่อแก้ไขความท้าทายด้านความมั่นคงที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาค โดยกล่าวว่า  “ ในขณะที่พวกเราให้คำมั่นที่จะมีความใกล้ชิดกันและร่วมมือกับประเทศนอกกลุ่มต่อไปนั้น อาเซียนก็ต้องแก้ไขปัญหาความแตกต่างในภูมิภาคอย่างสันติรวมทั้งการประกาศอธิปไตยในพื้นที่ทะเลทับซ้อนแต่ไม่ทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดมากขึ้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกและเส้นทางเดินเรือในทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญต่อการค้าขายระหว่างประเทศ  ด้วยเหตุนี้ อาเซียนต้องเดินหน้าแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวในเชิงสร้างสรรค์โดยยึดการปฏิบัติตามกฎหมายสากลรวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทะเลปี ๑๙๘๒เป็นหลัก เคารพหลักการแห่งความร่วมมือและการเคลื่อนไหวในทะเลตะวันออก ”

เวียดนามมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ประชาคมการเมืองกับความมั่นคงของอาเซียนอย่างกระตือรือร้น

เวียดนามเป็นส่วนหนึ่งที่เหนียวแน่นและเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของอาเซียนมาเกือบ ๒๐ ปี และเวียดนามจะมีความผูกพันกับอาเซียนต่อไปเพื่อการพัฒนา ประชมคมอาเซียนที่เข้มแข็งและการร่วมสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดคือเป้าหมายที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของเวียดนามและก็เป็นผลประโยชน์ที่เวียดนามกำลังมุ่งหมาย

จากสถานการณ์การปรับปรุงและก่อสร้างเกาะเทียมในทะเลตะวันออกที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความเชื่อมั่นและความไว้วางใจระหว่างประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้อง ส่งผลกระทบในทางลบต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค เวียดนามเป็นประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงจึงได้ถือความสามัคคีในกลุ่มอาเซียนเป็นหลัก ยืนหยัดปฏิบัติตามหลักการแห่งความอดทนอดกลั้น ไม่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนมากขึ้น การแก้ไขการพิพาทด้วยมาตรการอย่างสันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากลรวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลปี๑๙๘๒ การปฏิบัติแถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและการลงนามร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว  ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเมื่อเร็วๆนี้ นายฝ่ามบิ่นห์มินห์รองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้เปิดเผยว่า  “ ประเทศสมาชิกอาเซี่ยนเห็นพ้องกันว่า ควรผลักดันกระบวนการร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีระหว่างอาเซียนกับจีนโดยเร็ว ซีโอซีจะเป็นเครื่องมือรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือตลอดจนความมีเสถียรภาพในทะเลตะวันออก  ซึ่งเป็นความสนใจไม่เพียงแต่ของเวียดนามเท่านั้น หากยังเป็นความสนใจของประเทศในภูมิภาคและนอกภูมิภาคอีกด้วย จากการเป็นประเทศสมาชิกของอาเซียนอย่างกระตือรือร้น เวียดนามได้มีข้อเสนอต่างๆเช่น ข้อเสนอเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ความไว้วางใจและเสนอมาตรฐานของอาเซียนเหมือนแถลงการณ์ว่าด้วยสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมืออาเซียน ซึ่งเป็นมาตรฐานไม่เฉพาะสำหรับอาเซียนเท่านั้น หากยังเป็นมาตรฐานของภูมิภาคอีกด้วยเพื่อเป้าหมายสร้างสรรค์ภูมิภาคที่สันติภาพและความมีเสถียรภาพต่อจากปี ๒๐๑๕ ”

สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังส่งเสริมบทบาทเป็นศูนย์กลางและมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันต่อสันติภาพ ความมีเสถียรภาพและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในภูมิภาค  เวียดนามกำลังร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนในการผลักดันความสามัคคีและขยายความร่วมมือเพื่อแปรวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนที่ผนึกแน่นกันในด้านการเมือง ร่วมสัมพันธ์ในด้านเศรษฐกิจและมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ประชาชนในองค์การอาเซียนได้อยู่ในสันติภาพ ความมั่นคงและมีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน เศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างยาวนานและเจริญรุ่งเรืองตลอดจนมีความก้าวหน้าทางสังคม ./.