(VOVWORLD) - วันที่ 16 กรกฎาคม ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุกได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำของฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปกอย่างไม่เป็นทางการผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ การเข้าร่วมการประชุมของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก มีเป้าหมายเพื่อยืนยันเสียงพูดและบทบาทของเวียดนามในเอเปก ส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและโลกในการรับมือการแพร่ระบาด การฟื้นฟูเศรษฐกิจและใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังของประเทศสมาชิกและชุมชนสถานประกอบการเอเปกในการปฏิบัติยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจและสังคมใหม่ของแต่ละประเทศ
ภายใต้หัวข้อ “การรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 โอกาสที่เอเชีย-แปซิฟิกจะร่วมมือ เพื่อฟันฝ่าวิกฤตด้านสาธารณสุข เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและวางพื้นฐานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า” การประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำเอเปกเน้นอภิปรายเกี่ยวกับมาตรการเพื่อผลักดันความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อฟันฝ่าวิกฤตด้านสาธารณสุขและเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก
ความพยายามระดับโลกเพื่อรับมือการแพร่ระบาด
การประชุมมีขึ้นในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องมีการผลักดันความพยายามระดับโลกในการรับมือการแพร่ระบาด โดยเฉพาะการผลิตและการจำหน่ายวัคซีน และการเร่งทำการฉีดวัคซีนในชุมชน ทุกประเทศให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 โดยเน้นเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจหมุนเวียน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสูงและพลังงานหมุนเวียน
สำหรับหัวข้อของปีนี้คือ "ร่วมมือประสานงาน ปฏิบัติการและขยายตัว" ความร่วมมือเอเปก 2021 เน้นถึงเนื้อหาหลัก 3 ประเด็น นั่นคือนโยบายเศรษฐกิจและการค้าเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลักดันการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนและครอบคลุม ผลักดันนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บรรดาประเทศสมาชิกยังคงให้ความสำคัญต่อความร่วมมือของเอเปกและได้ยืนยันถึงบทบาทเป็นผู้เดินหน้าในการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและเป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญในการธำรงความร่วมมือ แต่อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือเอเปกยังต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย การเพิ่มการแข่งขันระหว่างประเทศมหาอำนาจ การพัฒนาที่เข้มแข็งของกรอบความร่วมมือใหม่ ๆ ในภูมิภาค การระดมกองกำลังใหม่ในอินโด-แปซิฟิกได้สร้างอุปสรรคในการบรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และส่งเสริมพันธกรณีเชิงก้าวกระโดดจึงทำให้เอเปกต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ ยกระดับประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานเพื่อธำรงความร่วมมือ
ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุกเข้าร่วมการประชุมผู้นำของฟอรัมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปกอย่างไม่เป็นทางการผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (vietnamplus) |
เวียดนามสนับสนุนความคิดริเริ่มที่เป็นรูปธรรม
เอเปกเป็นกลไกความร่วมมือทางเศรษฐกิจชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้าและเทคโนโลยีระดับโลก มีประชากรคิดเป็นร้อยละ 39 ของโลก มีส่วนร่วมร้อยละ 59 ต่อจีดีพีและกว่าร้อยละ 49 ของการค้าโลก เอเปกได้ใช้ประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนมากมาย มีส่วนร่วมต่อการผลักดันการพัฒนาในทุกด้านของเวียดนาม
ปัจจุบัน เอเปกมีหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์และหุ้นส่วนในทุกด้าน 15 จาก 31 รายและเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการค้าชั้นนำของเวียดนาม เวียดนามได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ13 ฉบับจากจำนวนทั้งหมด 17 ฉบับกับประเทศสมาชิกเอเปก จนถึงขณะนี้ 17 จาก 20 ประเทศสมาชิกเอเปกเป็นหุ้นส่วนเอฟทีเอของเวียดนาม
ในตลอดกว่า 22 ปีของการเข้าเป็นสมาชิกเอเปก เวียดนามได้สนับสนุนฟอรั่มนี้อย่างเข้มแข็งในเชิงรุก มีส่วนร่วมต่อการผลักดันสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ธำรงบทบาทของเอเปกในฐานะเป็นกลไกเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่น่าสนใจคือเวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศสมาชิกที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก 2 ครั้งคือเมื่อปี 2006 และปี 2017
เวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกที่กระตือรือร้นที่สุดในการเสนอความคิดริเริ่มและโครงการต่างๆ โดยมีกว่า 100 โครงการ ความคิดริเริ่มหลายข้อที่เวียดนามเป็นผู้เสนอได้รับการประเมินว่า สามารถปฏิบัติได้จริง ตอบสนองความสนใจทั่วไป โดยเฉพาะการพัฒนาอย่างครอบคลุม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในยุคดิจิทัล การอำนวยความสะดวกให้แก่การใช้อีคอมเมิร์ซ สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนและนวัตกรรม ความมั่นคงด้านอาหาร การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาชนบทและตัวเมือง ในฐานะรองประธานกลุ่มจัดทำวิสัยทัศน์เอเปก เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการเป็นผู้นำและประสานงานกระบวนการจัดทำรายงานคำแนะนำของกลุ่มวิสัยทัศน์เอเปกภายใต้หัวข้อ “ประชาชนและความเจริญรุ่งเรือง: วิสัยทัศน์เอเปกถึงปี 2040”
ในสภาวการณ์ที่โรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างซับซ้อนและส่งผลกระทบต่อทุกด้านของเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมในเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งความร่วมมือเอเปก เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกและมีความกระตือรือร้นในการประสานงานกับสมาชิกเอเปกเพื่อธำรงความร่วมมือของฟอรั่มผ่านการมีข้อเสนอแนะ จัดทำและส่งเสริมมาตรการ คำมั่นต่อความร่วมมือของเอเปกในการรับมือการแพร่ระบาดและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและครอบคลุม อีกทั้งเข้าร่วมการส่งเสริมการพัฒนายุทธศาสตร์ความร่วมมือในระยะยาวของเอเปกอย่างเข้มแข็ง เช่น แผนปฏิบัติการวิสัยทัศน์เอเปกถึงปี 2040.