(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง วันที่ 20 กรกฎาคม นาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและภริยาจะเดินทางมาเยือนเวียดนามเป็นเวลา 2 วัน นี่คือการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว การเยือนครั้งนี้มีความหมายสำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากปีนี้ครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-มาเลเซียซึ่งตรงกับวันที่ 30 มีนาคม ซึ่งเป็นโอกาสเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง ผลักดันความร่วมมือในทุกด้านและส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีพัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง พบปะกับนาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 ณ ประเทศอินโดนีเซีย |
ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์พัฒนาอย่างดีงาม
นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 30 มีนาคมปี 1973 ความสัมพันธ์เวียดนาม-มาเลเซียได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยนิมิตหมายที่สำคัญคือการลงนามแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมปี 2015 โดยทั้งสองฝ่ายได้ธำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนและการพบปะในทุกระดับผ่านหลายช่องทางทั้งด้านองค์กรพรรค รัฐ รัฐบาล สภาแห่งชาติและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ที่น่าสนใจคือการเยือนเวียดนามของดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคอฟ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว
ทั้งสองประเทศได้ธำรงกลไกความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศเป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนาม-มาเลเซียครั้งที่ 6 ผ่านรูปแบบออนไลน์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2011 และผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศเป็นประธานร่วมในการสนทนาเชิงยุทธศาสตร์ของเจ้าหน้าที่อาวุโสครั้งที่ 2 เมื่อเดือนเมษายนปี 2021 ผ่านรูปแบบออนไลน์เช่นกัน นาง เหงียนถิหงอกแอง อุปทูตเวียดนามประจำมาเลเซียได้ประเมินความสัมพันธ์ทวิภาคีว่า
“หนึ่งในนิมิตหมายที่สำคัญคือการที่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี 2015 และพิเศษกว่าคือ ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ประเทศเดียวของมาเลเซียในอาเซียน การสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างกว้างลึกของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ตลอดจนความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูง อีกทั้งเปิดระยะใหม่แห่งการพัฒนาความร่วมมือที่กว้างขวางและครอบคลุมในทุกด้าน”
ในด้านเศรษฐกิจและสังคม เวียดนามเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดที่สุดของมาเลเซีย โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้นถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญ ปัจจุบัน มาเลเซียเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนามในอาเซียน โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเมื่อปีที่แล้วบรรลุ 1 หมื่น 4 พัน 8 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มาเลเซียเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศที่ลงทุนมากที่สุดในเวียดนามโดยมีโครงการที่มีผลบังคับใช้กว่า 700 โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียน 1 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เวียดนามมีโครงการลงทุนในมาเลเซีย 24 โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนบรรลุเกือบ 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่อันดับที่ 9 จาก 80 ประเทศและดินแดนที่เวียดนามลงทุน ผลงานดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองประเทศกำลังมีแนวทางด้านการค้าที่ถูกต้อง
ทั้งสองประเทศยังได้ปฏิบัติตามบันทึกช่วยจำเพื่อความร่วมมือเกี่ยวกับการจ้างงานและการส่งแรงงานกลับประเทศอย่างเข้มแข็ง ซึ่งได้ลงนามเมื่อเดือนมีนาคมเมื่อปีที่แล้ว ส่วนในด้านความมั่นคง ทั้งสองประเทศได้ทำการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ที่น่าสนใจคือการเยือนมาเลเซียของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป โตเลิม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้าย อาชญากรรมทางไซเบอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ
 (VOV Bangkok) |
ศักยภาพความร่วมมือทวิภาคี
ในกรอบการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม สองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับการผลักดันความร่วมมือที่มีอยู่ เช่น การเมือง ความมั่นคง-กลาโหม เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน แรงงาน การท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน อีกทั้งแสวงหามาตรการขยายความร่วมมือในด้านอื่นๆ ที่มีศักยภาพ เช่น อุตสาหกรรมอาหารฮาลาล การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล และการเกษตรไฮเทค เพื่อมีส่วนร่วมสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การปฏิบัติแผนปฏิบัติการความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-มาเลเซียในช่วงปี 2021-2025
นอกจากนั้น ผู้นำทั้งสองประเทศยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ รวมถึงปัญหาทะเลตะวันออก และความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล อีกทั้งเห็นพ้องที่จะส่งเสริมแนวทางสำคัญๆเพื่อประสานงานในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะ ในกรอบอาเซียนเพื่อมีส่วนร่วมต่อการส่งเสริมกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติภายในกลุ่มและส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับมาเลเซียเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ นาย ซัมบรี อับดุล กาดีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียได้ยืนยันว่า มาเลเซียพอใจกับความสัมพันธ์ที่ดีงามกับเวียดนาม มาเลเซียให้คำมั่นที่จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในทั้งสองประเทศ
การเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะแปรคำมั่นดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมในภาคปฏิบัติ เพื่อร่วมนำความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับมาเลเซียพัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพยิ่งๆขึ้น.