เวียดนามมีเป้าหมายร่วมในการแลกเปลี่ยนและร่วมมือเพื่อโลกที่สันติภาพ

(VOVWORLD) - ความสำเร็จของงานด้านการต่างประเทศในปี 2021 โดยเฉพาะการต่างประเทศพหุภาคียังคงยืนยันถึงสถานะและชื่อเสียงของเวียดนาม โดยไม่เพียงแต่เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆโดยตรง ร่วมแสดงความคิดเห็น มีข้อเสนอแนะและให้คำมั่นในฟอรั่มทั้งในระดับภูมิภาคและโลกเท่านั้น หากเวียดนามยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบ มีความประสงค์ที่จะแลกเปลี่ยนและร่วมมือเพื่อเป้าหมายสร้างสรรค์โลกที่สันติภาพอีกด้วย



เวียดนามมีเป้าหมายร่วมในการแลกเปลี่ยนและร่วมมือเพื่อโลกที่สันติภาพ - ảnh 1อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามกวางวิง (danviet.vn)

ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความท้าทายด้านความมั่นคงแบบใหม่ได้ส่งผลกระทบต่อทุกด้านของชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ในปี 2021 เวียดนามยังคงเป็นฝ่ายรุก มีความกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมในการบริหารการดำเนินการความพยายามร่วมของประชาคมโลกในการฟันฝ่าความท้าทายต่างๆ

ดำรงตำแหน่งสำคัญๆในกลไกระดับโลก

ในปี 2021 เวียดนามได้รับข่าวดีมากมายด้านการทูตพหุภาคี นั่นคือนอกจากทำหน้าที่สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต่อไปแล้ว เวียดนามยังได้รับเลือก หรือแต่งตั้งและเข้าร่วมกลไกและเวทีการประชุมของสหประชาชาติ เช่น การได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกของคณะกรรมการกฎหมายระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2027 อีกครั้ง ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาบริหารของยูเนสโกวาระปี 2021-2025 และได้รับเลือกเป็นสมาชิกของสภาผู้ว่าการสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือ IAEA เป็นต้น และนี่เป็นนิมิตหมายสำคัญที่ยืนยันถึงสถานะและบทบาทของเวียดนามบนเวทีระหว่างประเทศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามกวางวิงได้แสดงความเห็นว่า

“เราก้าวหน้าไปทีละขั้น โดยตั้งแต่เริ่มแรกเราได้เข้าร่วมอย่างเข้มแข็ง แล้วส่งเสริมการเข้าร่วมในเชิงรุกและมีความกระตือรือร้น และจนถึงปัจจุบันคือการเข้าร่วมอย่างแข็งขัน กระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบในเชิงรุก  เวียดนามมีความรับผิดชอบ มีความสามารถและมีพลังที่เข้มแข็งสำหรับการมีส่วนร่วมต่อกิจกรรมการทูตพหุภาคี ในสภาวการณ์ที่ทั้งภูมิภาคและโลกต้องเผชิญกับความยากลำบากและการแพร่ระบาด ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจกรรมที่เร่งด่วนและเวียดนามต้องมีความรับผิดชอบสูง”

ปี 2021 เป็นปีที่สองที่เวียดนามเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงวาระปี 2020-2021 โดยในช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ดำรงตำแหน่งประธาน เวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทเป็นสะพานเชื่อมที่ช่วยโลกแก้ไขความขัดแย้ง สร้างบรรยากาศแห่งการไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศใหญ่ๆ โดยเนื้อหาการสนทนาและเอกสารที่ได้รับการอนุมัติในช่วงที่เวียดนามปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้นำองค์กรต่างมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง ธำรงสันติภาพและถือประชาชนเป็นศูนย์กลางเพื่อปกป้องจากปัญหาสงครามการสู้รบ มติ 2573 เกี่ยวกับการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการสงครามก็ได้รับการอนุมัติจากสมาชิกทั้งหมดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และทำให้มติฉบับนี้เป็นหนึ่งในมติประมาณร้อยละ 1 มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ได้รับการอนุมัติจากประเทศสมาชิกทั้งหมด

เวียดนามยังส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ โดยแนะนำเนื้อหาในการแก้ไขความท้าทายระดับภูมิภาค เช่น แถลงการณ์ว่าด้วย ฉันทามติ 5 ข้อเกี่ยวกับเมียนมาร์โดยยืนยันถึงบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการแก้ไขสถานการณ์ความไร้เสถียรภาพในภูมิภาค นาย Saadi Salami เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำเวียดนามได้แสดงความเห็นว่าว่า

“ในทางเป็นจริง เวียดนามมีพื้นฐานที่มั่นคงในการแก้ไขทุกปัญหา ผมมองว่า จุดยืนของเวียดนามในปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลกเป็นจุดยืนในเชิงบวกและมีความสร้างสรรค์ ผมคิดว่า เมื่อมีจุดยืนดังกล่าวจะช่วยให้ทุกฝ่ายแสวงหามาตรการแก้ไขบนเจตนารมณ์แห่งผลประโยชน์ร่วมกัน”

เวียดนามมีเป้าหมายร่วมในการแลกเปลี่ยนและร่วมมือเพื่อโลกที่สันติภาพ - ảnh 2ปี 2021 เป็นปีที่ 3 ที่เวียดนามส่งโรงพยาบาลภาคสนามเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพระหว่างประเทศในซูดานใต้ (hanoimoi.com.vn)

สมาชิกที่มีความรับผิดชอบ มีส่วนร่วมต่อการแก้ไขความท้าทายระดับโลก

ปี 2021 ยังเป็นปีที่สามที่เวียดนามทำการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามสังกัดกองกำลังรักษาสันติภาพระหว่างประเทศในซูดานใต้ นอกจากนั้น เวียดนามยังสนับสนุนเงิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐให้แก่โครงการ COVAX ประสบความสำเร็จในการรับและรักษาเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ตามมกลไก MEDEVAC การส่งกองกำลังแพทย์และการจัดตั้งโรงพยาบาลเพื่อสนับสนุนการรับมือการแพร่ระบาดในประเทศลาว มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนมากให้แก่ประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า เวียดนามพร้อมที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดอย่างทันท่วงทีถึงแม้จะมีแหล่งพลังจำกัด อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามกวางวิง ยืนยันว่า

“เวียดนามแสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งการช่วยเหลือจุนเจือกันและมีความรับผิดชอบต่อประชาคมระหว่างประเทศในระดับสูง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าเวียดนามมีความสามารถในการเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพ หรือเรื่องราวการช่วยเหลือประเทศต่างๆในด้านสาธารณสุขและการป้องกันโรคระบาดในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในช่วงที่เริ่มเกิดการแพร่ระบาด แม้เวียดนามจะเผชิญความยากลำบาก แต่ก็ยังคงแบ่งเบาช่วยเหลือประชาคมโลก ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและสร้างชื่อเสียงใหม่ให้แก่เวียดนาม และสถานะของเวียดนามก็ได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น”

ส่วนในปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนนับพันล้านคนทั่วโลก ในการประชุมของรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือCOP26  เวียดนามได้เป็นประเทศเดินหน้าในการปฏิบัติคำมั่นที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็น 0 ภายในปี 2050 เพื่อโลกแห่งสีเขียวและปลอดภัย คำมั่นและการมีส่วนร่วมที่มีความรับผิดชอบของเวียดนามได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศ นาง Caitlin Wiesen หัวหน้าสำนักงานตัวแทนของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติในเวียดนามได้กล่าวว่า

“เวียดนามยืนยันคำมั่นที่เข้มแข็งในการเพิ่มความมุ่งมั่นและมีส่วนร่วมในความพยายามระดับโลกเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศถึงแม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย เวียดนามเป็นประเทศเดินหน้าในความร่วมมือพหุภาคีและในการปฏิบัติแนวทางที่ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง การเติบโตที่ครอบคลุมและการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก”

กิจกรรมการทูตพหุภาคีที่คึกคักในปี 2021 ไม่เพียงแต่ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามเท่านั้น หากยังสร้างแหล่งพลังสำคัญที่ เป็นพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสบการณ์และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศในระยะใหม่ ส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศต่างๆ ที่มีบทบาทสำคัญในระดับภูมิภาคและโลก เพื่อมีส่วนร่วมต่อสันติภาพและการพัฒนาร่วมกันของมนุษยชาติ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด