(VOVworld) – วันที่ 24 มีนาคม คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 ณ เนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นกิจกรรมต่างประเทศสำคัญของเวียดนามในปี 2014 และเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามยืนยันถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายในการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อเป้าหมายสันติภาพและค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ ตลอดจนการสนับสนุนสิทธิของประเทศต่างๆในการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อเป้าหมายสันติภาพ สนับสนุนการไม่เผยแพร่และปลอดอาวุธนิวเคลียร์

โรงงานไฟฟ้านิวเึคลียร์นิงถ่วน

นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่สอง ณ สาธารณรัฐเกาหลีเมื่อปี 2012 ปัญหาความมั่นคงและความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ได้รับความสนใจจากทุกประเทศ รวมทั้งประเทศที่ยังไม่มีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ดังนั้น การประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งนี้จึงมีบรรดาผู้นำจากประเทศต่างๆเข้าร่วมโดยต่างมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันคือแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการปฏิบัติคำมั่นทางการเมืองที่ถูกเสนอในการประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่2และกำหนดแนวทางการปฏิบัติให้แก่ระเบียบการประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์
พยายามปฏิบัติคำมั่นด้านการเมืองเกี่ยวกับความมั่นคงและความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์
นับตั้งแต่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งแรก เวียดนามได้เข้าร่วมและพยายามปฏิบัติเนื้อหาและมาตรการในแถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดอย่างเข้มแข็ง ยืนยันความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องถึงหน้าที่ของตนในการธำรงความมั่นคงอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประจำต่ออุปกรณ์ด้านนิวเคลียร์และสารกัมมันตรังสีอื่นๆ ดังนั้น การที่นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงนำคณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่3 ณ เนเธอร์แลนด์จึงเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นของตนต่อปัญหาที่โลกให้ความสนใจคือ อาวุธนิวเคลียร์ ท่าน เลหายบิ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ชี้ชัดว่า“คณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันถึงนโยบายของเวียดนามเกี่ยวกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อเป้าหมายสันติภาพ ค้ำประกันความปลอดภัยและความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ ประกาศมาตรการที่เวียดนามได้ปฏิบัติในกรอบการประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์เพื่อมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อความพยายามร่วมของประชาคมโลก”
ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในการรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์
ปัจจุบัน เวียดนามกำลังเพิ่มความสมบูรณ์ให้แก่กรอบทางนิตินัยเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัย ความมั่นคงและการตรวจสอบนิวเคลียร์ให้สอดคล้องกับความต้องการใหม่ของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือ IAEA
จากความร่วมมือของ IAEA เวียดนามกำลังปฏิบัติแผนการช่วยเหลือความมั่นคงด้านนิวเคลียร์แบบบูรณาการ มาตรการประเมินความเสี่ยงเพื่อเป็นพื้นฐานในการออกแบบและเข้าร่วมเครือข่ายศูนย์ให้การช่วยเหลือด้านเทคนิคเกี่ยวกับความมั่นคงด้านนิวเคลียร์นานาชาติ เตรียมแผนการสร้างศูนย์ให้การช่วยเหลือด้านเทคนิคเกี่ยวกับความมั่นคงและการตรวจสอบด้านนิวเคลียร์ของเวียดนาม ควบคู่กับการผลักดันการตรวจสอบแหล่งกัมมันตรังสี เวียดนามได้จัดทำฐานข้อมูลแห่งชาติเกี่ยวกับแหล่งกัมมันตรังสีและข้อมูลสถานที่ที่มีแหล่งกัมมันตรังสีอย่างละเอียด
เวียดนามยังแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการค้าขายอุปกรณ์นิวเคลียร์และสารกัมมันตรังสีอย่างผิดกฎหมาย ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ IAEA ผ่านการเข้าร่วมฐานข้อมูลขององค์การนี้โดยเมื่อปี 2013 เวียดนามได้ติดตั้งและเปิดใช้เครื่องค้นหาสารกัมมันตรังสี ณ สนามบินนานาชาติโหน่ยบ่ายและท่าเรือ ก๊ายแมบ-ถี่หวายในจังหวัดบ่าเหรียหวูงเต่า ส่วนเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เวียดนาม สาธารณรัฐเกาหลีและ IAEA ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการทดลองระบบค้นหาแหล่งสารกัมมันตรังสี หรือ RADLOT ณ เวียดนามเพื่อช่วยตรวจสอบแหล่งกัมมันตรังสีซึ่งเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งในการปฏิบัติตามคำมั่นของนายกรัฐมนตรีเวียดนามและประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีในการประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่สอง ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีเมื่อเดือนมีนาคมปี2012

นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เดินทางถึงเนเธอร์แลนด์แล้ว

ในกระบวนการมุ่งสู่ประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในปี 2020 เวียดนามได้กำหนดว่า การพัฒนาพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์คือโครงการสำคัญแห่งชาติ แต่ในกระบวนการดังกล่าว เวียดนามได้ร่วมมือกับประเทศต่างๆอย่างใกล้ชิด เลือกเทคโนโลยีที่เหมะสมเพื่อค้ำประกันความมั่นคงด้านพลังงาน สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมประกอบ ตลอดจนการค้ำประกันความปลอดภัยด้านพลังงานนิวเคลียร์ ท่าน เลดิ่งเตี๊ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนามได้ย้ำว่า“หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการวิจัยที่มีความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติคือต้องเลือกเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการที่ได้วางไว้คือค้ำประกันความปลอดภัย ความมั่นคง ประสิทธิภาพและทันสมัยที่สุด อีกทั้งค้ำประกันความปลอดภัยในระดับสูงสุดเมื่อมีการเดินเครื่อง ปัจจุบัน บนพื้นฐานการแนะนำมาตรฐานด้านความปลอดภัยและความมั่นคง บรรดาผู้เชี่ยวชาญเวียดนามจะวิจัยเพื่อเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการที่ได้วางไว้”
จากผลการประชุมสุดยอดครั้งต่างๆ ในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งนี้ ณ เนเธอร์แลนด์ เวียดนามจะยืนยันอีกครั้งถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายเกี่ยวกับการปลอดอาวุธนิวเคลียร์และไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์ ส่งเสริมการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อเป้าหมายสันติภาพ พร้อมทั้งยืนยันถึงการเข้าร่วมที่มีความรับผิดชอบของเวียดนามในประชาคมโลก โดยเฉพาะในฐานะประธานสภาผู้ว่าการ IAEA ช่วงปี 2013-2014./.