(VOVworld) –  นับตั้งแต่วันที่๕ตุลาคมปี๒๐๑๔ กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้ดำเนินมาตรการต่อต้านการขายทุ่มตลาดต่อเหล็กแผ่นปลอดสนิมรีดเย็นที่นำเข้าจากจีน มาเลเซีย อินโดนีเซียและไต้หวัน ประเทศจีนโดยอัตราภาษีต่ำที่สุดคือร้อยละ๓.๐๗และสูงที่สุดคือร้อยละ๓๗.๒๙ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เวียดนามเปิดประเทศและผสมผสานเข้ากับตลาดโลกในการกำหนดภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาดเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

นับตั้งแต่วันที่๕ตุลาคมปี๒๐๑๔ กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ดำเนินมาตรการต่อต้านการขายทุ่มตลาดต่อเหล็กแผ่นปลอดสนิมรีดเย็นที่นำเข้าจากบางประเทศ(Photo: Baomoi.com )

เหล็กปลอดสนิมหรือสแตนเลสเป็นเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือน ชิ้นส่วนรถยนต์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ในครัวและแท็งค์น้ำ เมื่อปี๒๐๑๓ บริษัทโปสโก วีเอสทีและInox Hòa Bình เสนอให้กรมบริหารการแข่งขันของกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์สอบสวนการขายทุ่มตลาดต่อสแตนเลสที่นำเข้าจากประเทศและดินแดนต่างๆประกอบด้วย จีน มาเลเซีย อินโดนีเซียและใต้หวันประเทศจีนโดยได้ขายในราคาต่ำสุดซึ่งทำให้สถานประกอบการเวียดนามได้รับความเสียหาย ภายหลังกว่า๑ปีที่ทำการสอบสวนและประสานกับประเทศที่๓เพื่อเปรียบเทียบราคา ทางกรมได้มีข้อสรุปว่า สถานประกอบการของ๔ประเทศและดินแดนดังกล่าวได้ขายผลิตภัณฑ์ในราคาต่ำเกินไปและทำการแข่งขันอย่างไม่ยุติธรรมกับสถานประกอบการภายในประเทศ

การตัดสินใจกำหนดภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาดของเวียดนามสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

            ปัจจุบัน บริษัทโปสโก วีเอสทีและInoxหว่าบิ่งผลิตสแตนเลสได้๓แสน๗หมื่นตันคิดเป็นร้อยละ๘๐ของส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศซึ่งเมื่อเทียบกับความต้องการภายใน ประเทศคือ๔แสนตันต่อปี กำลังการผลิตสแตนเลสดังกล่าวสามารถตอบสนอความต้องการภายในประเทศได้ แต่อย่างไรก็ดี ในทางเป็นจริง การผลิตของสถานประกอบการต่างๆยังไม่สามารถบรรลุกำลังผลิตที่กำหนดไว้ได้เนื่องจากต้องแข่งขันกับสแตนเลสที่นำเข้าจากประเทศและดินแดนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การที่กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้กำหนดภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาดถือว่าเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายขององค์การการค้าโลกหรือดับเบิลยูทีโอเพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของผู้ผลิตของประเทศตน เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของดับเบิลยูทีโอ เมื่อปี๒๐๐๗ และจนถึงปัจจุบัน เวียดนามถูกสอบสวนในการฟ้องร้องการต่อต้านการขายทุ่มตลาดในโลกเกือบ๑๐๐ครั้งแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เวียดนามกำหนดภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาดต่อสินค้าที่นำเข้า นายโห่เหงวียหยุง นายกสมาคมเหล็กกล้าเวียดนามกล่าวว่า การตัดสินใจของกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล“ทัศนะของสมาคมคือ นี่เป็นงานที่จำเป็นตามแนวทางปฏิบัติสากลเพื่อปกป้องการผลิตภายในประเทศ โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าที่ผลิตภายในประเทศ ดังนั้นจำเป็นต้องมีนโยบายภาษีที่เหมาะสมต่อนักลงทุนภายในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามเพราะ ถ้านำเข้าในราคาที่เหมาะสม นี่จะเป็นการแข่งขันที่โปร่งใสและจำเป็น แต่ถ้านำเข้าในราคาถูกและขายทุ่มตลาดเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และต้องทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าว”

กำหนดภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาดเพื่อสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่ยุติธรรม

            เมื่อเทียบกับเพดานทั่วไปของตลาดโลก ภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาดที่กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์กำหนดไม่สูงเกินไป ในกรณีต่อต้านการขายทุ่มตลาดต่อผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าในตลาดโลกเมื่อไม่นานมานี้ อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ๒๐ถึงร้อยละ๓๐และบางกรณีสูงถึง๑๐๐%  นางฝ่ามโจว์ยางตัวแทนกรมบริหารการแข่งขันแห่งกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ยืนยันว่า วัตถุประสงค์ของการกำหนดภาษีดังกล่าวไม่เพียงแต่เพื่อปกป้องการผลิตภายในประเทศเท่านั้นหากสิ่งที่สำคัญคือเพื่อสร้างการแข่งขันอย่างยุติธรรมระหว่างสินค้าที่นำเข้ากับสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ“ พฤติกรรมขายทุ่มตลาดคือต่างประเทศจงใจส่งออกสินค้ามายังเวียดนามในราคาต่ำหรือต่ำกว่าราคาภายในประเทศของพวกเขา ดังนั้น หน่วยงานสอบสวนของประเทศต่างๆจึงต้องกำหนดภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาดเพื่อสร้างสรรค์การแข่งขันอย่างยุติธรรม ปัจจุบันมีหลายประเทศส่งออกเหล็กมายังเวียดนาม แต่มีแค่๔ประเทศและดินแดนดังกล่าวถูกกำหนดภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาด ดังนั้น สถานประกอบการภายในประเทศที่ไม่อยากซื้อสินค้าของผู้ผลิตภายในประเทศอาจจะนำเข้าจากแหล่งอื่นๆที่ไม่ถูกกำหนดภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาด”

จนถึงปัจจุบัน เหล็กแผ่นรีดเย็นปลอดสนิมหรือสแตนเลสเป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกมายังเวียดนามลำดับที่๓ที่ถูกฟ้องร้องและเป็นสินค้าประเภทแรกที่ถูกกำหนดภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาดในเวียดนาม ในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังเปิดตลาดผ่านข้อตกลงการค้าเสรี การฟ้องร้องการขายทุ่มตลาดนับว่าเป็นหนึ่งใน๓เครื่องมือที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นประโยชน์ที่สถานประกอบการและแขนงงานต่างๆอาจใช้เพื่อปกป้องตลาดภายในประเทศ./.