(VOVworld) – แม้ระบบเศรษฐกิจยังประสบความยากลำบากและมีปัญหาต่างที่ต้องแก้ไขแต่ต้องยอมรับว่า ใน 9 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจเวียดนามได้ประสบผลที่น่ายินดีในหลายด้าน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญเพื่อช่วยให้เวียดนามบรรลุอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในปี 2014 ตรงตามเป้าหมายที่รัฐสภาวางไว้ คือร้อยละ 5.8  ผลสำเร็จดังกล่าวมาจากความพยายามในการบริหารของรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานทุกระดับ รวมทั้งความพยายามของสถานประกอบการและประชาชน

ในการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจใน 9 เดือนที่ผ่านมา ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า สถานการณ์เศรษฐกิจ – สังคมนับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี โดยเป้าหมายต่างๆได้ประสบผลตรงตามแผนการที่ได้วางไว้แถมมีความเป็นไปได้สูงที่จะบรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลได้วางไว้ 13 เป้าหมายจากทั้งหมด 15 เป้าหมาย และมี 1 เป้าหมายที่เกือบบรรลุคือการแก้ปัญหางานทำให้แก่แรงงาน 1.6 ล้านคน ส่วน 1 เป้าหมายที่ยังไม่สามารถบรรลุได้คืออัตราแรงงานที่ได้รับการฝึกอบรม

เศรษฐกิจเวียดนามแทบทุกหน่วยงานและด้านที่สำคัญกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการขยายตัวในไตรมาสที่ 3 สูงกว่าสองไตรมาสก่อนและจีดีพีใน 9 เดือนคิดเป็นร้อยละ 5.62 สูงกว่าช่วงเดียวกันของสองปีที่แล้ว การผลิตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปและอุตสาหกรรมผลิตมีการขยายตัวสูงกว่าช่วงเดียวกัน ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 และคาดว่าจะบรรลุตั้งแต่ร้อยละ 7-7.2 ในเวลาที่จะถึง ส่วนภาคการเกษตรก็สามารถแก้ไขผลกระทบในทางลบจากภัยธรรมชาติและโรคระบาดต่างๆโดยบรรลุอัตราการขยายตัวในระดับสูง ส่วนภาคการบริการก็มีการพัฒนาในระดับที่น่าพอใจ ภาวะเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นไม่มากนักและราคาตลาดมีเสถียรภาพ การผลิตและการประกอบธุรกิจแม้ยังมีความยากลำบากแต่บางแห่งก็สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง แม้จำนวนสถานประกอบการที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่ลดลงแต่เงินทุนจดทะเบียนกลับเพิ่มขึ้น

ในด้านการค้า มีการขยายตัวทั้งในด้านขอบเขตและความเร็ว ซึ่งใน 9 เดือนที่ผ่านมาได้เปรียบดุลการค้าโดยมูลค่าการส่งออกบรรลุเกือบ 1 แสน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาและสินค้าส่งออก 21 รายการมีมูลค่าอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในจำนวนสินค้าส่งออก สินค้าอุตสาหกรรมแปรรูปมีสัดส่วนสูงที่สุด ซึ่งมีส่วนร่วมสร้างความสมดุลระหว่างการส่งออกกับการนำเข้าและเพิ่มเงินสำรองต่างประเทศของเวียดนาม นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงประเมินว่า “เศรษฐกิจมีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในด้านการเกษตร อุตสาหกรรมและการบริการ กระทรวงและหน่วยงานต่างๆให้ข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เวียดนามจะบรรลุอัตราการขยายตัวจีดีพีในปีนี้ร้อยละ 5.8 จากนั้นเราจะพยายามบรรลุให้ได้ร้อยละ 6 แต่ก็ต้องเป็นการขยายตัวที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของเศรษฐกิจมหภาคที่มีความมั่นคง”

นอกจากนี้ ใน 9 เดือนที่ผ่านมา ยังมีสถานประกอบการภาครัฐกว่า 90 แห่งได้รับการปรับโครงสร้าง ซึ่งเท่ากับของปี 2013 คาดว่า จนถึงปลายปีนี้ จะมีสถานประกอบการประมาณ 200 แห่งได้รับการอนุมัติให้แปรสภาพเป็นบริษัทหุ้นส่วน อัตราการถอนเงินทุนในโครงการที่ไม่ตรงกับสาขาอาชีพของเครือบริษัทและกลุ่มบริษัทภาครัฐสูงกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

พร้อมกับการแก้ไขปัญหาหนี้เสียผ่านบริษัทบริหารทรัพย์สินองค์การสินเชื่อเวียดนามหรือวีเอเอ็มซี เวียดนามกำลังปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสีย ส่วนองค์การสินเชื่อได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้เสียอย่างกระตือรือร้นด้วยการจัดตั้งกองทุนสำรองป้องกันความเสี่ยง ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงเดือนกรกฎาคมปี 2014 ระบบธนาคารสามารถสำรองเงินได้ 78 ล้านล้านด่ง ส่วนวีเอเอ็มซีซื้อหนี้เสียเป็นมูลค่า 47 ล้านล้านด่งและคาดว่า ในปี 2014 นี้ บริษัทนี้จะสามารถซื้อหนี้เสียได้ประมาณ 70 ล้านล้านด่ง

แม้เศรษฐกิจมีสัญญาณที่น่ายินดีแต่ถ้าหากมองในภาพรวมแล้วก็ยังคงมีปัญหาที่คั่งค้างอยู่และต้องแก้ไขในเวลาข้างหน้า เช่น การอุปโภคที่ยังอยู่ในระดับต่ำ การผลิตและประกอบธุรกิจยังคงลำบาก หนี้เสียยังมีปริมาณมาก หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลการผลิตและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจยังไม่ได้รับการยกระดับ ดังนั้น ในเวลาข้างหน้า เวียดนามต้องมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการลงทุนสาธารณะ สถานประกอบการภาครัฐ ระบบธนาคารและการปรับโครงสร้างการเกษตรพร้อมๆกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนกระทรวงการคลังต้องให้ความสนใจต่อการเพิ่มเงินสินเชื่อให้แก่เศรษฐกิจต่อไป รวมทั้งปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สำหรับการร่างกลไกและนโยบายเพื่อดึงดูดเงินลงทุนเข้าในการผลิตและประกอบธุรกิจ นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงยืนยันว่า “ปัจจุบันนี้ พวกเราต้องพยายามแสวงหาทุกวิถีทางเพื่อดึงดูดเงินลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศต่อการบริการ อุตสาหกรรม การเกษตรและโครงสร้างพื้นฐาน ศักยภาพยังมีอยู่มากมาย เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมและการเกษตร ผมขอเรียกร้องให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกท่านคิดค้นกลไกและนโยบายเพื่อดึงดูดแหล่งพลังต่างๆ” 

การที่เศรษฐกิจมีสัญญาณที่น่ายินดีใน 9 เดือนที่ผ่านมาถือเป็นการพิสูจน์อย่างชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการบริหารของรัฐบาลและความพยายามของชมรมนักธุรกิจและประชาชน พร้อมกับสัญญาณที่น่ายินดีนั้น การที่รัฐบาลเวียดนามพยายามเน้นแก้ไขอุปสรรคที่ยังคั่งค้างอยู่นับตั้งแต่ปัจจุบันมาจนถึงปลายปีนี้จะมีส่วนร่วมรักษาการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน./.