เส้นทางสันติภาพในตะวันออกกลางยังเต็มไปด้วยอุปสรรค

(VOVworld)- กระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางยังคงประสบอุปสรรคนานัปการโดยความพยายามทางการทูตของประชาคมระหว่างประเทศเพื่อช่วยให้ปาเลสไตน์และอิสราเอลหันมานั่งเจรจากันกำลังถูกคลอบงำจากความขัดแย้งและการปะทะเรื่องการก่อสร้างเขตตั้งถิ่นฐานของชาวยิว โดยชาวปาเลสไตน์อยากให้อิสราเอลยุติการก่อสร้างแต่ทางฝ่ายอิสราเอลกลับยืนยันว่า เยรูซาเลมคือเมืองหลวงที่ถาวรของของตนและจะคงไว้การก่อสร้างเขตตั้งถิ่นฐานทางทิศตะวันออกของเมืองนี้
(VOVworld)- กระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางยังคงประสบอุปสรรคนานัปการโดยความพยายามทางการทูตของประชาคมระหว่างประเทศเพื่อช่วยให้ปาเลสไตน์และอิสราเอลหันมานั่งเจรจากันกำลังถูกคลอบงำจากความขัดแย้งและการปะทะเรื่องการก่อสร้างเขตตั้งถิ่นฐานของชาวยิว โดยชาวปาเลสไตน์อยากให้อิสราเอลยุติการก่อสร้างแต่ทางฝ่ายอิสราเอลกลับยืนยันว่า เยรูซาเลมคือเมืองหลวงที่ถาวรของของตนและจะคงไว้การก่อสร้างเขตตั้งถิ่นฐานทางทิศตะวันออกของเมืองนี้

 เส้นทางสันติภาพในตะวันออกกลางยังเต็มไปด้วยอุปสรรค  - ảnh 1  เส้นทางสันติภาพในตะวันออกกลางยังเต็มไปด้วยอุปสรรค  - ảnh 2

นายกรัฐมนตรีอิสราเอล-ประธานาธิบดีปาเลสไตน์(internet)

เมื่อวันที่ 21ตุลาคม โดยไม่สนใจการติติงที่รุนแรงของสหภาพยุโรปหรืออียู นายกฯอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮู ได้แสดงทีท่าล่าสุดต่อการตำหนิดังกล่าวเมื่อประกาศว่าจะขยายการก่อสร้างหลักแหล่งอาศัยในเยรูซาเลม แถบยังยืนยันอย่างเข้มแข็งในการประชุมรัฐบาลประจำสัปดาห์ว่า เยรูซาเลมคือเมืองหลวงของอิสราเอลและเทลอาวีฟจะก่อสร้างกิจการต่างๆในเมืองนี้เหมือนกับสิ่งที่ทุกประเทศได้ปฏิบัติกับเมืองหลวงของตนเช่น ปารีส ลอนดอน หรือวอชิงตัน ก่อนหน้านั้นคือเมื่อวันที่18ตุลาคม กระทรวงมหาดไทของอิสราเอลก็ได้อนุมัติแผนการก่อสร้างบ้านพัก800หลังที่เขตกีโลซึ่งอยู่ในดินแดนที่อิสราเอลยึดครองตั้งแต่ปี1967และได้ประกาศให้อยู่ในอธิปไตยของตนเเต่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ นอกจากนี้ทางการเทลอาวีฟยังแสดงให้โลกเห็นท่าทีดังกล่าวในทุกด้าน โดยเมื่อวันที่20ตุลาคม เรือเอ็มวี เอสเตลล์ ที่ปักธงชาติโปแลนด์ พร้อมนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่สนับสนุนปาเลสไตน์ถูกกองทัพเรืออิสราเอลขัดขวางและบังคับให้เปลี่ยนทิศทางขณะที่กำลังอยู่ห่างจากชายฝั่งฉนวนกาซ่าประมาณ35ไมส์ทะเล ซึ่งนาย มุสตาฟา อัล บาร์กอตี จากองค์การข้อคิดริเริ่มประชาชาติปาเลสไตน์ได้เผยว่า ฝ่ายอิสราเอลได้ขู่ว่าจะโจมตีและจับกุมตัวนักเคลื่อนไหวทุกคนหากยังมุ่งหน้าไปที่ฉนวนกาซ่า และล่าสุดนี้คือเมื่อวันที่23ตุลาคม ต่อเหตุการณ์ที่กษัตริย์แห่งกาตาร์ ฮาเมด บิน คาลีฟา อัล ทานี ได้มีการเยือนแห่งประวัติศาสตร์ยังฉนวนกาซ่าเพื่อเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารที่ใช้ชื่อของตนพร้อมทั้งแจ้งว่ากาตาร์จะเพิ่มการช่วยเหลือให้แก่กาซ่าจาก254ล้านเหรียญสหรัฐเป็น400ล้านเหรียญสหรัฐนั้น ทางการเทลอาวีฟก็กล่าวตำหนิกษัตริย์แห่งกาตาร์ว่า การกระทำนี้ได้ทำลายสันติภาพของภูมิภาคนี้

ทั้งนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ความมุ่งมั่นตั้งใจสร้างสรรค์สันติภาพในตะวันออกกลางและมาตรการที่สองรัฐได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติก็ยากที่จะสำเร็จได้หากเทลอาวีฟยังมีปฏิบัติการขัดขวางต่างๆที่ทำลายกระบวนการฟื้นฟูสันติภาพที่มีความเปราะบางอยู่แล้วตามที่ประชามติได้แสดงความเห็น เพราะก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมามุดอาบบาสแห่งปาเลสไตน์ได้ส่งจดหมายถึงทางการอิสราเอลโดยระบุถึงเงื่อนไข4ประการคือ หลักการ2รัฐอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานเส้นแบ่งพรมแดนก่อนปี1967 การยุติการก่อสร้างเขตตั้งหลักแหล่งอาศัยของชาวยิว ปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ทุกคนและยกเลิกการตัดสินใจที่เดินสวนกับคำมั่นทวิภาคีที่ได้ลงนามตั้งแต่ปี2000 ซึ่งหากทำได้เช่นนั้นกระบวนการสันติภาพของตะวันออกกลางจึงสามารถฟื้นฟูได้ พร้อมกันนั้นนาย อาบบาส ยังได้ส่งจดหมายถึงนาย โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับเงื่อนไขในการฟื้นฟูการเจรจากับอิสราเอลซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐ แต่ถึงกระนั้น ปฏิบัติการต่างๆของอิสราเอลก็เสมือนการสาดน้ำเย็นใส่ความพยายามของฝ่ายปาเลสไตน์

เส้นทางสันติภาพในตะวันออกกลางยังเต็มไปด้วยอุปสรรค  - ảnh 3
โครงการก่อสร้างเขตตั้งถิ่นฐานของชาวยิว(internet)

สำหรับการแสดงท่าทีต่อคำแถลงดังกล่าวของนายกฯอิสราเอล ตัวแทนระดับสูงดูแลนโยบายความมั่นคงและการต่างประเทศของอียู คาเธอร์รินเอสตัน ได้ประกาศแสดงความเสียใจต่อการตัดสินใจของเทลอาวีฟพร้อมทั้งยืนยันว่า เขตตั้งหลักแหล่งอาศัยของชาวยิวเป็นสิ่งที่ผิดฎหมายสากลและคุกคามต่อการปฏิบัติมาตรการ2รัฐ ส่วนทางด้านผู้สังเกตุการณ์นานาชาติได้แสดงความเห็นว่า สิ่งนี้ได้เดินสวนกับคำมั่นและความรับผิดชอบของอิสราเอลที่ได้ระบุในแผนการสันติภาพปี2003 รวมทั้งทำลายผลงานที่ได้บรรลุในกระบวนการเจรจาตลอดเวลาที่ผ่านมา  ในขณะเดียวกันสถานการณ์ในปาเลสไตน์นั้นก็มีปรากฎการใหม่ โดยเมื่อวันที่21ตุลาคม บรรดาผู้ที่สนับสนุนขบวนการฟาตาของประธานาธิบดีมามุดอาบบาสประกาศว่าได้ชนะในการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี2006ที่เขตเวสต์แบ็งก์ แต่ฝ่ายฮามาสได้ปฏิเสธเข้าร่วมการเลือกตั้งนี้เนื่องจากมีความขัดแย้งกับฝ่ายฟาตา ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงรอยร้าวภายในของทางการปาเลสไตน์และเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อทางการของนายอาบบาสในการบริหารเศรษฐกิจ เพราะก่อนหน้านี้ หัวหน้าสำนักงานด้านการเงินของปาเลสไตน์ จีฮัด อัล วาเยอร์ ก็ได้เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ทางการปาเลสไตน์ไม่สามารถจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการเนื่องจากไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารท้องถิ่นได้อีก

อาจกล่าวได้ว่า การปะทะระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์เป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่ เพราะทุกเงื่อนไขที่ฝ่ายปาเลสไตน์ได้เสนอนั้นต่างถูกทางการอิสราเอลละเมิดและขัดขวางจนทำให้กระบวนการเจรจาระหว่างสองฝ่ายตกเข้าสู่ทางตันที่ไม่เห็นลู่ทางแก้ไขและนี่คือเหตุผลสำคัญที่นำไปสู่สถานการณ์ความไร้เสถียรภาพและการปะทะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเขตนี้ และจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้น ประชามติจึงแสดงความเห็นว่า หนทางข้างหน้าของกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางยังเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามที่ยากจะฝ่าฟันไปได้./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด