เสริมสร้างความสามัคคีมิตรภาพระหว่างเวียดนามและกัมพูชา

ตามคำเชิญของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี  พณฯ ท่านNguyen Phu Trong เลขาธิการ ใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เดินทางไปเยือนสันถวไมตรีกัมพูชาอย่างเป็น ทางการในระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคมนี้ อันเป็นการยืนยันถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามในการพัฒนาความ สามัคคี สัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านกับกัมพูชา.

            ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาได้มีมาช้านานและได้ผ่านการทดสอบในช่วงประวัติศาสตร์ต่างๆมาจนถึงทุกวันนี้ความสัมพันธ์นั้นยังคงได้รับการธำรงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยที่สองประเทศได้มีความใกล้กันทางภูมิศาสตร์ มีความใกล้ชิดกันในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมตลอดจนมีความคล้ายคลึงกันในการเลือกเส้นทางการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชแห่งชาติเมื่อก่อนนี้และเป้าหมายการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน  นาย เจาฟาลลี รองรัฐมนตรีช่วยแห่งกัมพูชาได้ยืนยันว่า                                   

            ประชาชนกัมพูชายังคงจดจำความช่วยเหลืออันล้ำค่าของประชาชนเวียดนามและผมเชื่อมั่นว่าความสามัคคีระหว่างสองชาติจะพัฒนาอย่างยั่งยืน ถึงแม้กัมพูชาได้รับการปลดปลอยมา30ปีแล้วแต่เวียดนามยังคงให้ความช่วยเหลือมาตลอดและปัจจุบันนี้ทั้งสองประเทศก็ได้มีความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นในทุกด้านและขอยืนยันว่าสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศจะพัฒนาอย่างดีงามตลอดไป.

           ในสภาวการณ์ใหม่ที่ทั้งสองประเทศต่างปฏิบัตินโยบายด้านการต่างประเทศที่เปิดกว้างหลากหลายรูปแบบและหลายฝ่ายนั้น สองฝ่ายก็ยังคงให้ความสำคัญและเสริมสร้างความสามัคคีมิตรภาพอย่างต่อเนื่อง โดยในหลายปีมานี้ผู้นำของทั้งสองประเทศได้กำหนดกรอบความร่วมมือตามแนวทาง เพื่อนบ้านที่ดี มีมิตรภาพอันยาวนาน ร่วมมือในทุกด้านและพัฒนาอย่างยั่งยืนและยาวนาน  ตามระเบียบความสัมพันธ์ที่ให้ความเคารพเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัน ไม่แทรกแซงกิจการภายใน ไม่ใช้หรือข่มขู่ว่าจะใช้กำลังต่อกัน ไม่อนุญาตให้กองกำลังของประเทศที่3ใช้ดินแดนของตนเพื่อต่อต้านอีกฝ่าย  ให้ความร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ เพื่อสันติภาพและการพัฒนาในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และในโลก ซึ่งบนพื้นฐานความเข้าใจกันเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมที่สอดคล้องกับกฎหมายของแต่ละประเทศและระเบียบสากลนั้น สองประเทศก็ได้พยายามร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างสันติ เช่นปัญหาชายแดน ปัญหาคนเวียดนามในกัมพูชาหรือปัญหาชนกลุ่มน้อยในเตยเงวียนที่หนีข้ามแดนเข้ากัมพูชาอย่างผิดกฎหมายตลอดจนได้มีความเห็นพ้องกันในด้านหลักการณ์ว่าด้วยการแก้ไขความขัดแย้งในการปักปันปักหลักพรมแดนทางบกเพื่อมุ่งเสร็จสิ้นภารกิจนี้ในปลายปี2012 ซึ่งในโอกาสที่ได้เดินทางไปเยือนกัมพูชาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประธานรัฐสภาเวียดนาม Nguyen Sinh Hung ก็ได้ยืนยันว่า                                                                                 

            จากความสามัคคีมิตรภาพฉันท์เพื่อนบ้านที่แน่นแฟ้น พวกเราควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างนักลงทุนสองประเทศต่อไปเพราะถ้าการลงทุนได้รับการพัฒนาก็จะเอื้ออำนวยให้แก่การพัฒนาตลาดการค้าในทั้งสองประเทศดังนั้นนักลงทุนจึงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้.

           จนถึงปัจจุบันนี้ สองประเทศได้ลงนามข้อตกลงร่วมมือทวิภาคีกว่า80ฉบับ จัดทำระเบียบความร่วมมือที่จำเป็นและสอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนาของแต่ละประเทศ  จัดคณะผู้แทนระดับสูงไปมาเยี่ยมเยือนซึ่งกันและกันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อกัน โดยความสัมพันธ์ด้านการเมืองที่แน่นแฟ้นจะเป็นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การคมนาคมขนส่ง การเกษตรป่าไม้ การประมง การท่องเที่ยว การเดินอากาศเป็นต้นได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน ขณะนี้เวียดนามมีโครงการลงทุน98โครงการในกัมพูชารวมยอดเงินทุนกว่า2.2พันล้านเหรียญสหรัฐเช่น โครงการด้านโทรคมนาคม การเดินอากาศ การปลูกยางพารา การธนาคารเป็นต้น  ส่วนมูลค่าการค้าต่างตอบแทนปี2010บรรลุ1พันล้านเหรียญสหรัฐและคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น2.4พันล้านเหรียญสหรัฐ

           การธำรงสัมพันธไมตรีและการผลักดันความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาคือความปรารถนาของทั้งสองชาติโดยการเยือนกัมพูชาครั้งนี้ของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคือโอกาสที่สำคัญเพื่อช่วยกระชับความสามัคคีนำความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาเข้าสู่ส่วนลึกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในกรอบของอาเซียน ของเขตล่มแม่น้ำโขง โครงการพัฒนาเขตที่ยากจนเลียบตามแนวชายแดนในแนวเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตกโดยเฉพาะในขอบเขตของสามเหลี่ยมพัฒนาเวียดนาม-ลาวและกัมพูชา./.

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด