(VOVworld) – การประชุมต่างๆในกรอบการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสครั้งแรกของฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปกกำลังมีขึ้น ณ เมืองญาจาง จังหวัดแค๊งหว่า ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นกิจกรรมเริ่มต้นที่มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีส่วนร่วมกำหนดการดำเนินงานให้แก่ปีเอเปก 2017 ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพ ภายใต้หัวข้อ “สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีงาม” เอเปก 2017 จะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายตัว การค้าและการลงทุนในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกกำลงมีการผันผวนอย่างซับซ้อน

ในสภาวการณ์ที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 กำลังทำให้โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความผันผวนและความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างลึกและหลายมิติต่อทุกเศรษฐกิจในโลก

ตามรายงานสถิติ ปี 2016 การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่หลังวิกฤตปี 2008-2009 โดยอยู่ที่ร้อยละ 2.2  นอกจากนั้น ผลของโลกาภิวัตน์ยังไม่ได้ถูกแบ่งปันอย่างเท่วเทียมกันระหว่างภูมิภาคและเศรษฐกิจต่างๆ จนนำไปสู่แนวโน้มต่อต้านการค้าเสรีที่เพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะในเศรษฐกิจใหญ่ เช่น สหรัฐและยุโรป ประเทศต่างๆมีแนวโน้มใช้นโยบายคุ้มครอง ในขณะเดียวกัน  เศรษฐกิจโลกขาดการนำเพื่อขัดขวางแนวโน้มการค้าเสรี ดังนั้น หัวข้อของปีเอเปก 2017 คือ “สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีงาม” ได้สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของ 21 เศรษฐกิจสมาชิกเอเปกเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัวใหม่ในสภาวการณ์ใหม่

ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากเนื้อหาที่เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆคือ เอเปก 2017 ผลักดันกระบวนการพัฒนา ความร่วมมือเอเปกที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เสร็จสิ้นเป้าหมายโบกอร์เกี่ยวกับการค้าเสรีและการลงทุนภายในปี 2020 เวียดนามยังร่วมกับเศรษฐกิจเอเปกเน้นผลักดันการขยายตัวอย่างยั่งยืนและมีความคิดสร้างสรรค์ ให้การช่วยเหลือการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและความคิดสร้างสรรค์ของสถานประกอบการขนาดย่อมและขนาดจิ๋วในยุคแห่งดิจิตอล โดยเฉพาะสถานประกอบการที่มีผู้บริหารเป็นสตรี ผลักดันการเชื่อมโยง ลดช่องว่าง ผลักดันความมั่นคงด้านอาหารและการพัฒนาที่พึ่งตนเอง นาย Raul Salazar หัวหน้าคณะผู้แทนของเจ้าหน้าที่อาวุโสหรือ SOM เอเปกของเปรูได้แสดงความเห็นว่า“ผมคิดว่า แนวทางที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆครั้งนี้มีความหมายสำคัญมาก ปัญหาแรกคือการใช้ข้อคิดริเริ่มและเทคโนโลยีใหม่ เวียดนามเลือกปัญหานี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะนี่คือวิธีการที่พวกเราช่วยให้สังคมพัฒนาตามแนวทางที่สมบูรณ์มากขึ้น พวกเรายังชื่นชมการที่เวียดนามเน้นให้ความสนใจถึงตลาดอาหาร เพราะมีความหมายสำคัญต่อเศรษฐกิจใหม่”

เนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆของปีเอเปก 2017 ที่เวียดนามเสนอได้ตอบสนองปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ทุกเศรษฐกิจสมาชิกให้ความสนใจ ดังนั้น แนวทางที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆนี้จึงได้รับความเห็นพ้องในเอเปกอย่างรวดเร็ว อาจเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจโลก 2 ครั้ง การแสวงหาพลังขับเคลื่อนของการขยายตัวใหม่เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหนึ่งในพลังขับเคลื่อนใหม่คือการยกระดับความสามารถของสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว โดยเฉพาะสถานประกอบการที่มีผู้บริหารเป็นสตรี ดังนั้นการที่เวียดนามมีข้อคิดริเริ่มจัดการประชุมสนทนานโยบายกับสถานประกอบการที่สตรีเป็นเจ้าของในกรอบปีเอเปก 2017 จึงได้รับความเห็นพ้องและความสนใจเป็นอย่างมากจากเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก เพราะนี่จะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ มีส่วนร่วมผลักดันบทบาทของสตรีในยุคดิจิตอล รวมทั้งการพัฒนาสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว นาย Allan Boollard ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารคณะเลขาธิการเอเปกนานาชาติแสดงความเห็นว่า“เอเปกรอคอยการเข้าร่วมของสตรีในกระบวนการพัฒนา ในการหารือต่างๆ เอเปกได้กล่าวถึงนโยบายให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่สตรี ตลอดจนต้องทำเช่นไรเพื่อให้การพัฒนาของภูมิภาคมีความทั่วถึงและเส้นทางของเอเปกคือต้องเน้นให้การช่วยเหลือเศรษฐกิจที่ยังไม่พัฒนาในภูมิภาคเพื่อใช้แหล่งพลังจากสตรีและสถานประกอบการขนาดย่อม และในทางเป็นจริง ก็มีผู้ประกอบการสตรีหลายคนได้ประสบความสำเร็จ”

สำหรับเอเปก 2017 นอกจากโอกาสประชาสัมพันธ์ประเทศ ดึงดูดการท่องเที่ยวและแสวงหาหุ้นส่วน เวียดนามยังมีเงื่อนไขเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ประกอบธุรกิจกับหุ้นส่วนชั้นนำในภูมิภาค มีสถานประกอบการระหว่างประเทศเกือบ 1 พันแห่งในเศรษฐกิจสมาชิกเอเปกเดินทางมาเวียดนามเพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับสูงเอเปก ซึ่งสร้างโอกาสใหม่มากมาย นาย หว่างวันหยุง ประธานสภาที่ปรึกษานักธุรกิจเอเปกหรือ ABAC เวียดนามได้ยืนยันว่า“ตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปัจจุบัน เวียดนามร่วมมืออย่างกว้างลึกกับหุ้นส่วนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก พร้อมกับความร่วมมือนี้ สถานประกอบการเวียดนามยังพัฒนามากขึ้น การเป็นเจ้าภาพเอเปก 2017 ครั้งนี้เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามแสวงหาแหล่งลงทุนใหม่ สร้างมูลค่ามากขึ้น ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการเวียดนาม ซึ่งเป็นสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมร้อยละ 98”

ปีเอเปก 2017 ได้เริ่มต้นด้วยหัวข้อและแนวทางการปฏิบัติที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ให้แก่การขยายตัว การค้าและการลงทุน นำเอเปกกลายเป็นองค์การเดินหน้าในการผลักดันการขยายตัวของโลก.