นี่เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10ปีที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก ซึ่งการตัดสินใจรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพเอเปก 2017 เป็นการปฏิบัติตามแนวทางการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในทุกด้านและยกระดับงานด้านการต่างประเทศพหุภาคีของเวียดนามในยุคใหม่

ปีเอเปก 2017 มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการแสวงหาการสนับสนุนการพัฒนาประเทศเวียดนามจากนานาชาติ อีกทั้งกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ส่งเสริมการลงนามสัญญาและโครงการร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างชาติ ตลอดจนเป็นโอกาสเพื่อทำการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของเวียดนามบนเวทีโลก ดังนั้น  ตั้งแต่ปี 2013 เวียดนามได้เริ่มเตรียมความพร้อมให้แก่กิจกรรมดังกล่าว โดยได้จัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานร่วมและคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับปีเอเปก2017 เพื่อชี้นำการเตรียมความพร้อม เอกอัครราชทูต เหงวียนเหงียดงา ที่ปรึกษาระดับสูงของคณะเลขาธิการเอเปกปี2017 ได้เผยว่า“จนถึงขณะนี้ พวกเราได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านเนื้อหา โครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งบุคลากรให้แก่ปีเอเปก2017 เป็นอย่างดี พร้อมทั้งสามารถเรียกการสนับสนุนจากประเทศหุ้นส่วนและเศรษฐกิจสมาชิกของเอเปกได้อย่างเข้มแข็ง โดยจะมีการจัดการประชุม 200 ครั้ง โดยเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรี 20 ครั้งและการประชุมผู้นำเอเปกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ดังนั้น เราได้ทาบทามความเห็นจากสมาชิกต่างๆเพื่อให้การเตรียมงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย”

แต่อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความสะดวกแล้ว การจัดการประชุมเอเปกครั้งนี้ก็ประสบความท้าทายต่างๆที่ต้องการการยกระดับประสิทธิภาพของกิจกรรมต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ของความร่วมมือและการเชื่อมโยงภายในกลุ่ม  ดังนั้น นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมด้านเนื้อหาและการรักษาความปลอดภัยเนื่องจากความวิตกกังวลของนานาประเทศเกี่ยวกับปัญหาการก่อการร้ายแล้ว เวียดนามยังเน้นรวบรวมความคิดริเริ่มต่างๆเพื่อปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับความต้องการของเอเปก เอกอัครราชทูต เหงวียนเหงียดงาเผยต่อไปว่า“พวกเรากำลังเน้นถึงประเด็นสำคัญๆที่เอเปกให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆและสอดคล้องกับความต้องการของการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะการยกระดับประสิทธิภาพการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ การเชื่อมโยงและการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นประเด็นที่สอดคล้องกับความต้องการใหม่ของทั้งเวียดนามและเอเปกในขณะที่เศรษฐกิจในภูมิภาคกำลังชลอตัว ซึ่งที่น่าสนใจคือ ความคิดริเริ่มเพื่อขยายความช่วยเหลือสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม การฝึกอบรมแหล่งบุคลากร การลดช่องว่างการพัฒนา การเชื่อมโยงกับเขตทุรกันดารและเขตที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ตลอดจนการพัฒนาการเกษตรการรักษาความมั่นคงด้านอาหารและแหล่งนํ้า ซึ่งถือเป็นปัญหาที่เอเปกและเวียดนามกำลังต้องเผชิญ”

ปี 2017 เป็นปีแรกที่บรรดาผู้นำเอเปกเห็นพ้องกันที่จะจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในกรอบความร่วมมือเอเปก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของเวียดนามในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ วัฒนธรรมและเกียรติประวัติอันดีงามของประชาชาติ เอเปกคือฟอรั่มการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ แต่ในยุคแห่งการเชื่อมโยงที่ไร้พรมแดนในปัจจุบัน วัฒนธรรมและคนถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแนวทางของเวียดนามในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกปี 2017 ก็คือ การเชื่อมโยงระหว่างประชาชนจากเศรษฐกิจต่างๆและส่งเสริมความเข้าใจในวัฒนธรรมของแต่ละฝ่าย จากนั้น จะช่วยผลักดันการปฏิบัติข้อตกลงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจต่างๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  เอกอัครราชทูต เหงวียนเหงียดงายํ้าว่า“ในสภาวการณ์ที่ภูมิภาคและโลกต้องรับมือความท้าทายด้านความมั่นคง ยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมด การพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างประชาชนประเทศต่างๆเป็นมาตรการที่ดีเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก การพบปะสังสรรค์ ความเชื่อมโยงกัน รวมทั้งความเข้าใจวัฒนธรรมและให้ความเคารพซึ่งกันและกันจะเอื้อให้แก่การสนทนาและความร่วมมือเพื่อการรักษาสันติภาพ  เป็นอันว่า วัฒนธรรมได้ช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ปัจจัยสนับสนุนการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและภูมิภาคที่ดี”

การตัดสินใจเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกปี 2017 คือการปฏิบัติแนวทางผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในทุกด้านและยกระดับงานด้านการต่างประเทศพหุภาคีของเวียดนาม เอเปก 2017 จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ของเวียดนามที่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ คนเวียดนามที่มีอัธยาศัยดี มีความคล่องตัวและมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งเพื่อสร้างสรรค์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่คล่องตัว มีความเชื่อมโยงและมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ และการเชื่อมโยงเพื่อความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค.