แก้ไขกฎหมายสื่อสารมวลชนเพื่อแปรเจตนารมณ์และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญปี 2013 เป็นรูปธรรม

(VOVworld) – นับเป็นครั้งแรกที่ร่างกฎหมายสื่อสารมวลชนได้รับการหารือในการประชุมครั้งที่ 10 รัฐสภาเวียดนามสมัยที่ 13 ที่กำลังมีขึ้นในขณะนี้ การแก้ไขกฎหมายสื่อสารมวลชนก็เพื่อแปรเจตนารมณ์และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญปี 2013 เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งสร้างกรอบทางนิตินัยให้สื่อสารมวลชนพัฒนาอย่างบริสุทธิ์ มีประสิทธิภาพและชอบด้วยกฎหมาย

(VOVworld) – นับเป็นครั้งแรกที่ร่างกฎหมายสื่อสารมวลชนได้รับการหารือในการประชุมครั้งที่ 10 รัฐสภาเวียดนามสมัยที่ 13 ที่กำลังมีขึ้นในขณะนี้ การแก้ไขกฎหมายสื่อสารมวลชนก็เพื่อแปรเจตนารมณ์และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญปี 2013 เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งสร้างกรอบทางนิตินัยให้สื่อสารมวลชนพัฒนาอย่างบริสุทธิ์ มีประสิทธิภาพและชอบด้วยกฎหมาย

แก้ไขกฎหมายสื่อสารมวลชนเพื่อแปรเจตนารมณ์และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญปี 2013 เป็นรูปธรรม - ảnh 1
นับเป็นครั้งแรกที่ร่างกฎหมายสื่อสารมวลชนได้รับการหารือในการประชุมครั้งที่ 10 รัฐสภาเวียดนามสมัยที่ 13 (Photo VNplus)

กฎหมายสื่อสารมวลชนถูกประกาศใช้เมื่อปี 1989 และได้รับการแก้ไขเมื่อปี 1999 จนถึงขณะนี้ หลังการปฏิบัติมาเป็นเวลา 16 ปี สามารถพบเห็นข้อบกพร่องต่างๆที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งไม่สามารถพัฒนาประสิทธิภาพในการควบคุมสื่อสารมวลชนของรัฐในยุคปัจจุบันได้ ร่างกฎหมายสื่อสารมวลชนฉบับแก้ไขครั้งนี้ร่างโดยกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ซึ่งมี 6 บรรพ 59 มาตรา รวมทั้งมาตราใหม่ 30 มาตราและมาตราที่ได้รับการแก้ไข 29 มาตรา
แปรรัฐธรรมนูญปี 2013ให้เป็นรูปธรรม
เนื้อหาใหม่ในร่างกฎหมายสื่อสารมวลชนฉบับแก้ไขคือมีการเสริมเพิ่มเติมบรรพอีก 1 บรรพเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพด้านสื่อมวลชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อต่างๆที่ได้ระบุในรัฐธรรมนูญปี 2013 อาจกล่าวได้ว่า เนื้อหาหลักของร่างกฎหมายฉบับแก้ไขครั้งนี้คือสิทธิเสรีภาพด้านสื่อมวลชน ได้ระบุข้อกำหนดใหม่ๆอย่างชัดเจนว่า พลเมืองมีสิทธิ์ทำงานด้านสื่อมวลชนตามกฎหมายและได้รับการปกป้องจากรัฐ นักข่าวและพลเมืองมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่รัฐไม่ห้ามตามกฎหมายการเข้าถึงแหล่งข้อมูลเพื่อเสนอข่าวทางกลไกสื่อสารมวลชน นายห่ามิงห์เหวะ สมาชิกรัฐสภาจังหวัดบิ่งถวนเผยว่า “เรื่องที่จะได้รับความสนใจมากที่สุดจากประชามติคือ กฎหมายฯต้องค้ำประกันการแปรรัฐธรรมนูญปี 2013 ให้เป็นรูปธรรม นั่นคือเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของพลเมือง สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ได้เห็นพ้องกันว่า ในกฎหมายฯควรมีมาตราที่ให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมสื่อสารมวลชนและแสดงความคิดเห็นของตน”
สิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนเป็นหนึ่งในสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งถูกระบุในปฏิญญาสากลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนปี 1984 และอนุสัญญาระหว่างประเทศปี 1966 ของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิพลเรือนและการเมือง รัฐธรรมนูญปี 2013 ของเวียดนามได้ระบุหลักการปฏิบัติสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนโดยกำหนดว่า “สิทธิมนุษยชนและสิทธิของพลเมืองได้รับการรับรอง เคารพและปกป้องตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย” ดังนั้น จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายสื่อสารมวลชนให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน นายโด๋แหม่งหุ่ง สมาชิกรัฐสภาจังหวัดท้ายเงวียนแสดงความคิดเห็นว่า “ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2013 สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนได้รับการยืนยันและได้ระบุในกฎหมาย ผมคิดว่า ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนแต่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ต้องไม่ใช้สิทธิดังกล่าวเพื่อส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ของประเทศ ผลประโยชน์ของประชาชาติและผลประโยชน์ของผู้อื่น”
ส่วนการที่ร่างกฎหมายสื่อสารมวลชนฉบับแก้ไขกำหนดว่า สื่อมวลชน นักข่าวและพลเมืองมีสิทธิ์เข้าถึงแหล่งข่าว การขอข้อมูล เข้าร่วมการตรวจสอบและวิภาควิจารณ์ทางสังคมเพื่อปกป้องการปฏิบัติสิทธิของพลเมืองตามรัฐธรรมนูญปี 2013

แก้ไขกฎหมายสื่อสารมวลชนเพื่อแปรเจตนารมณ์และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญปี 2013 เป็นรูปธรรม - ảnh 2
ขยายการนำของพรรคและรัฐต่อสื่อมวลชน (Photo Internet)

ขยายการนำของพรรคและรัฐต่อสื่อมวลชน
ในกระบวนการชี้นำการปฏิวัติ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามให้ความสำคัญต่อภารกิจการประชาสัมพันธ์ของสื่อมวลชน โดยถือเป็น “เครื่องมือที่แหลมคมในงานด้านแนวความคิดของพรรค” เป็น “กองกำลังเดินหน้าในด้านแนวความคิดและวัฒนธรรม” การนำของพรรคและรัฐในการกำหนดการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ของสื่อมวลชนและอำนวยความสะดวกให้สื่อมวลชนปฏิบัติบทบาทและหน้าที่ทางสังคมของตน นายเหงียนบั๊กซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ สมาชิกรัฐสภากรุงฮานอยเผยว่า “สื่อสารมวลชนเวียดนามเป็นเครื่องมือสื่อสารและประชาสัมพันธ์ที่สำคัญของพรรคและรัฐ เป็นฟอรั่มของประชาชน ดังนั้น ต้องอยู่ภายใต้การนำโดยตรงและรอบด้านของพรรคและรัฐ กฎหมายสื่อสารมวลชนต้องค้ำประกันการนำของพรรคและการบริหารของรัฐต่อสื่อสารมวลชน”
ร่างกฎหมายสื่อสารมวลชนจะได้รับการแก้ไขตามแนวทางที่ขยายการนำและการบริหารของพรรคและรัฐตามคำขวัญ “พัฒนาดีพร้อมกับการบริหารที่ดี”
กฎหมายสื่อสารมวลชนเป็นกฎหมายสำคัญฉบับหนึ่งในระบบกฎหมายของเวียดนาม ซึ่งส่งผลกระทบมากต่อการเมือง ชีวิตเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การแก้ไขและเสริมเพิ่มเติมกฎหมายสื่อสารมวลชนในครั้งนี้มีความสมบูรณ์มากขึ้นและทันการณ์เพื่อตอบสนองความต้องการในการควบคุมและพัฒนาสื่อมวลชนในสถานการณ์ใหม่ พร้อมทั้งเป็นการแปรเจตนารมณ์และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญปี 2013ให้เป็นรูปธรรม. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด