แก้ไขอุปสรรคให้แก่การเกษตรเวียดนาม

(VOVWORLD) - วันนี้ การสนทนาครั้งแรกระหว่างนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กกับเกษตรกรได้มีขึ้น ณ จังหวัดหายเยือง โดยมีผู้บริหารกระทรวง หน่วยงานและผู้แทนเกษตรกรทั่วประเทศ 600 คนเข้าร่วม การสนทนาครั้งนี้ได้มีขึ้นหลังการประชุมและการจัดฟอรั่มเกือบ 20 ครั้งเกี่ยวกับปัญหาของหน่วยงานการเกษตรที่นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้เข้าร่วมเมื่อปี 2017 ซึ่งสะท้อนบทบาทสำคัญของการเกษตร ชนบทและเกษตรกรต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามและการใส่ใจของนายกรัฐมนตรีต่อการแก้ไขอุปสรรคเพื่อให้หน่วยงานเกษตรพัฒนาต่อไปในยุคแห่งการผสมผสานอย่างกว้างลึก
แก้ไขอุปสรรคให้แก่การเกษตรเวียดนาม - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กและผู้แทนไปชมรูปแบบการผลิตและแปรรูปสินค้าการเกษตร

ในเวลาที่ผ่านมา เพื่อเป็นพื้นฐานให้ภาคการเกษตรส่งเสริมจุดแข็งของตน รัฐบาลได้ประกาศนโยบายที่ช่วยขยายตลาดการจำหน่ายสินค้าการเกษตร อนุญาตให้เกษตรกรและสถานประกอบการด้านการเกษตรสามารถกู้เงินด้วยดอกเบี้ยพิเศษและแก้ไขอุปสรรคการขาดแคลนที่ดินเพื่อการผลิต ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่และสำคัญของหน่วยงานเกษตร เกษตรกรและชนบทในปัจจุบัน โดยการแก้ไขอุปสรรคเหล่านี้กำลังมีส่วนร่วมปรับปรุงยกระดับคุณภาพกระบวนการพัฒนาภาคการเกษตรเวียดนาม

บทบาทสำคัญของการเกษตร เกษตรกรและชนบทในระบบเศรษฐกิจ

ในหลายปีมานี้ หน่วยงานการเกษตรเวียดนามมีการพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพ โดยสามารถเห็นได้ชัดผ่านตัวเลขของการขยายตัวที่น่าประทับใจ โดยการผลิตเกษตรในท้องถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเขตที่ราบลุ่มหรือเขตเขาต่างมีการขยายตัวอย่างเข้มแข็ง มีสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าการส่งออกสูง เมื่อปี 2017 มูลค่าการส่งออกสินค้าการเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำได้ทำสถิติบรรลุกว่า 3 หมื่น 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เปรียบดุลการค้ากว่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2018 เวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า จะบรรลุมูลค่าการส่งออกประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จนถึงขณะนี้ หน่วยงานการเกษตรเวียดนามได้บรรลุอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ซึ่งมีส่วนร่วมร้อยละ 20 ในจีดีพีของประเทศและร้อยละ 23-35 ในมูลค่าการส่งออก

ปัจจุบันนี้ เวียดนามกำลังอยู่อันดับที่ 18 ของโลกเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าการเกษตร ซึ่งมีน้อยประเทศในโลกที่มีผลผลิตสูงในการเพาะเลี้ยงกุ้งและการปลูกต้นไม้เหมือนเวียดนามและการทำให้เวียดนามกลายเป็นประเทศส่งออกสินค้าการเกษตรรายใหญ่ของโลกคือความพยายามของครอบครัวเกษตรกรกว่า 11 ล้านครอบครัว รวมจำนวนแรงงานทั่วประเทศกว่า 24 ล้านคน

ถึงแม้เวียดนามมีผลการผลิตเกษตรที่ดีแต่เวียดนามก็ยังมีศักยภาพอีกมากเพื่อพัฒนาให้สูงขึ้น จึงจำเป็นต้องแก้ไขอุปสรรคเพื่อพัฒนาการเกษตรและชนบท ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น

1 เดือนก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม เวียดนามและ 10 ประเทศได้ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือซีพีทีพีพี ซึ่งถือเป็นโอกาสดีให้แก่หน่วยงานการเกษตรเวียดนาม แต่ความท้าทายที่เกษตรกรและหน่วยงานการเกษตรเวียดนามต้องแก้ไขยังมีอีกมาก เช่น การผลิตแบบรายย่อย ผลการผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพและขีดความสามารถยังอยู่ระดับต่ำ ไม่เป็นฝ่ายรุกในการผลิตและขาดความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดตามห่วงโซ่มูลค่า

มาตรการแก้ไขต่างๆ

รัฐบาลตระหนักอยู่เสมอว่า การเกษตรและชนบทต้องได้รับสิทธิพิเศษในด้านเงินลงทุน โดยได้ประกาศใช้นโยบายต่างๆเพื่อดึงดูดสินเชื่อเข้าภาคการเกษตร เมื่อปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ธนาคารต่างๆปล่อยสินเชื่อมูลค่า 1ร้อยล้านล้านด่งเพื่อพัฒนาการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและถึงขณะนี้ได้ปล่อยกู้ไปแล้วกว่า 30 ล้านล้านด่ง นอกจากนั้นทางธนาคารก็ได้กำหนดเพดานดอกเบี้ยในระยะสั้นให้แก่ด้านที่ได้รับสิทธิพิเศษ รวมไปถึงการปล่อยเงินกู้เพื่อการเกษตรและชนบท โดยปัจจุบันนี้ดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 7 ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยทั่วไปร้อยละ 1-2 รัฐบาลเวียดนามยังประกาศมติเฉพาะเกี่ยวกับนโยบายสินเชื่อให้แก่ภาคการเกษตรและชนบทและนโยบายเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์การเกษตรที่เป็นจุดแข็งของเวียดนามหรือมีมูลค่าการส่งออกสูง เช่น นโยบายเกี่ยวกับการสำรองข้าวระยะสั้น นโยบายฟื้นฟูการปลูกกาแฟ การให้เงินกู้เพื่อการจับปลาในเขตทะเลน้ำลึก เป็นต้น

ปัจจุบันนี้ รัฐบาลกำลังชี้นำการแก้ไขและเพิ่มจำนวนเงินกู้โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันให้สอดคล้องกับลักษณะและขั้นตอนการผลิตการเกษตรในแต่ละประเภทและความต้องการเงินทุนที่นับวันเพิ่มมากขึ้นของเกษตรกร

เพื่อให้การส่งออกสินค้าการเกษตรมีเสถียรภาพ ยั่งยืน มีประสิทธิภาพและไม่ต้องพึ่งพาตลาดเดียว รัฐบาลเวียดนามได้พยายามขยายตลาดให้แก่สินค้าของเวียดนาม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกษตรและสัตว์น้ำได้ประสบผลที่น่ายินดี ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขและปรับปรุงนโยบายและมติที่ 210 เกี่ยวกับการดึงดูดสถานประกอบการให้ลงทุนในด้านการเกษตรให้มีความสมบูรณ์ต่อไป

เพื่อส่งเสริมจุดแข็งของยุคการปฏิวัติเทคโนโลยี 4.0 ในด้านการเกษตร ในเร็วๆนี้ รัฐบาลได้กำหนดแนวทางสร้างสรรค์ระบบฐานข้อมูลภูมิปัญญาเวียดนาม โดยจะเสนอวิธีและรูปแบบการสร้างฐานะดีเด่นและเกษตรกรทุกคนสามารถเชื่อมโยงกันผ่านระบบนี้ได้อย่างสะดวก ซึ่งนี่คือวิธีการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย หวังว่า นโยบายใหม่นี้จะสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาหน่วยงานการเกษตรอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนมากขึ้น

ควบคู่กับมาตรการแก้ไขเหล่านี้ การกำหนดแนวทางและนโยบายใหม่ที่รัฐบาลเสนอหลังการสนทนาโดยตรงกับเกษตรกรในวันนี้จะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญในการส่งเสริมศักยภาพของหน่วยงานการเกษตรเวียดนามและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด