(VOVWorld) – การขยายการทูตเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญ๕ประการของการต่างประเทศของเวียดนามในปี๒๐๑๓และในระยะต่อไปเพื่อแสวงหาแหล่งพลังที่ยิ่งใหญ่ให้แก่การพัฒนาประเทศ  และเพื่อใช้โอกาส ฟันฝ่าความท้าทาย เจาะตลาดใหม่ๆที่มีศักยภาพสูง บรรดาสถานประกอบการเวียดนามต้องการการสนับสนุนและเปิดทางของกิจกรรมการทูตซึ่งไม่เพียงแต่เป็นความสนใจเป็นอันดับต้นๆของสถานประกอบการเวียดนามเท่านั้นหากยังเป็นความตั้งใจของหน่วยงานการทูตเวียดนามในปี๒๐๑๓อีกด้วยที่ท่านPhạm Bình Minh รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันในรายการ“ประชาชนถามรัฐมนตรีตอบ”ในโอกาสต้นวสันตฤดูปีมะเส็ง๒๐๑๓

ท่านPhạm Bình Minh รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามในรายการ“ประชาชนถามรัฐมนตรีตอบ”ในโอกาสต้นวสันตฤดูปีมะเส็ง๒๐๑๓(Photo:Internet)

 ปี๒๐๑๒ แม้ว่า เศรษฐกิจจะประสบความยากลำบาก แต่เงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาเวียดนามยังคงอยู่ที่กว่า๑หมื่น๓พันล้านเหรียญสหรัฐ และบรรดานักอุปถัมภ์ยังคงสงวนให้แก่เวียดนามเงินทุนช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหรือODAกว่า๖พัน๔ร้อยล้านเหรียญสหรัฐซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามจากบรรดานักลงทุนต่างชาติและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ ปี๒๐๑๒ที่ผ่านมา จำนวนเงินที่ชาวเวียดนามโพ้นทะเลส่งกลับประเทศอยู่ที่กว่า๑หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี๒๐๑๑ ทำให้เวียดนามกลายเป็นประเทศที่ได้รับเงินจากชาวเวียดนามส่งกลับประเทศมากอยู่อันดับ๗ในโลก ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อลงทุน พัฒนาการผลิตและช่วยเหลือครอบครัวสร้างบ้าน ยกระดับคุณภาพชีวิตทางวัตถุให้ดีขึ้น โดยเฉพาะ มีส่วนร่วมแก้ปัญหาความยากจนในเขตชนบทและเขตทุรกันดาร รัฐมนตรีPhạm Bình Minh กล่าวว่า“นับตั้งแต่ปี๑๙๙๑มาจนถึงปัจจุบัน จำนวนเงินนี้เป็นร้อยละ๖๐ถึงร้อยละ๗๐ของแหล่งเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ไหลเข้าเวียดนาม มีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ ทำให้ราคาสินค้ามีเสถียรภาพ และเพิ่มจำนวนเงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศ พวกเราให้ความสำคัญต่อชาวเวียดนามที่กำลังทำงานและศึกษาในต่างประเทศที่ได้ส่งเงินกลับประเทศซึ่งเป็นประโยชน์ให้แก่ประเทศและครอบครัว”    สิ่งที่น่าประทับใจในปี๒๐๑๒ที่ผ่านมาคือ นับเป็นครั้งแรกเวียดนามได้เปรียบดุลย์การค้าภายหลัง๑๙ปีซึ่งบรรดานักวิชาการถือว่า นี่เป็นหนึ่งในจุดโดดเด่นในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลก รวมทั้งเศรษฐกิจเวียดนามประสบความยากลำบากซึ่งผลสำเร็จนี้มาจากความพยายามของทั้งเศรษฐกิจ การเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งของทั้งระบบการเมือง โดยเฉพาะ ส่วนร่วมไม่น้อยของหน่วยานการทูต

ท่านPhạm Bình Minh รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยืนยันว่าในปี๒๐๑จะเน้นแสวงหาพลังที่ยิ่งใหญ่ให้แก่การพัฒนาประเทศ(Photo:Internet)

ปี๒๐๑๓ เศรษฐกิจโลกที่ได้รับการคาดคะเนย์ว่า จะประสบความยากลำบากต่อไปแต่รัฐมนตรีPhạm Bình Minh ยืนยันว่า การทูตเศรษฐกิจจะเน้นให้คำปรึปษา จัดสรรข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศต่างๆให้แก่กระทรวง หน่วยงานและสถานประกอบการภายในประเทศ หน่วยงานการทูตก็จะผลักดันการศึกษา ค้นหาตลาดและประเทศที่มีศักยภาพความร่วมมือของเวียดนามกับภายนอกเพื่อแนะนำให้แก่สถานประกอบการ โดยเฉพาะ หน่วยงานการทูตจะให้ความช่วยเหลือและปกป้องผลิตภัณฑ์กุ้งของเวียดนามในตลาดโลกต่อการถูกฟ้องร้องการคุ้มครองราคาของสหรัฐ“กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้รายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้แก่กระทรวง หน่วยงานและสถานประกอบการของเวียดนามแล้ว ตั้งแต่บัดนี้ถึงเดือนกรกฎาคมสหรัฐจะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ และสมาพันธ์ส่งออกกุ้งเวียดนามเพื่อดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมต่างๆ ๑คือ ประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ และคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐซึ่งเป็นสองหน่วยงานสำคัญที่จัดการคดีฟ้องร้องนี้เพื่อประเมินผลกระทบของคดีฟ้องร้องที่มีต่อผู้ผลิตกุ้งเวียดนามและผู้บริโภคอเมริกันอย่างภาวะวิสัย  ๒คือ พวกเราจะประสานกับหุ้นส่วน และสถานประกอบการนำเข้าสัตว์น้ำของสหรัฐเพื่อป้อนข้อมูลข่าวสารอย่างภาวะวิสัยเพื่อให้พวกเขาคัดค้านคดีฟ้องร้องที่ไร้เหตุผลนี้”     ปัจจุบัน  เวียดนามมีสำนักงานการทูตเกือบ๑๐๐แห่งประจำต่างประเทศที่กำลังปฏิบัติโครงการขยายการทูตเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง  ปี๒๐๑๒ หน่วยงานการทูตได้วางยุทธศาสตร์แบบเบ็ดเสร็จเกี่ยวกับการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก รวมทั้งยุทธศาสตร์ร่วมมือกับแต่ละประเทศ องค์การ และภูมิภาคเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกและการลงทุนเพื่อแสวงหาพลังที่ยิ่งใหญ่ให้แก่การพัฒนาประเทศ ปี๒๐๑๓ การทูตเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจจะได้รับการปฏิบัติอย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพต่อไปในสภาวการณ์ที่เวียดนามและโลกอยู่ในระยะพัฒนาใหม่ รัฐมนตรี Phạm Bình Minh  ยืนยันว่า“ในปี๒๐๑๓ พวกเราจะขยายความสัมพันธ์กับประเทศลาตินอเมริกาต่อไปแพร้อมทั้งขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ เช่น ตะวันออกกลางและอัฟริกาที่มีศักยภาพสูง การทูตต้องเจาะตลาดเหล่านี้ก่อน”    จากการเป็น๑ใน๓เสาหลักของการทูตเวียดนาม ร่วมกับการทูตเพื่อการเมืองและการทูตเชิงวัฒนธรรม การทูตเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจกำลังแสดงให้เห็นถึงบทบาทแห่งการเป็นที่ปรึกษา ประเมินแนวโน้มสถานการณ์ มีข้อเสนอและการเสนอเลือกหุ้นส่วนเศรษฐกิจ การค้าอย่างถูกต้องตามแนวทางผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกของเวียดนามเพื่อมีส่วนร่วมสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ให้แก่การพัฒนาประเทศ ./.