ใช้โอกาสจากข้อตกลงเอฟทีเอเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ

(VOVWORLD) -ในสภาวการณ์ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 กำลังมีความซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ในเกือบทุกประเทศและเศรษฐกิจ แต่มูลค่าการค้าและการส่งออกในปี 2021 ของเวียดนามยังคงมีการขยายตัวอย่างเข้มแข็งและได้เปรียบดุลการค้าซึ่งถือเป็นผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง ในปี 2022 เศรษฐกิจเวียดนามมีโอกาสใหม่ โดยเฉพาะหลังจากที่เวียดนามได้เข้าร่วมข้อตกลงการเสรีหรือเอฟทีเอฉบับต่างๆ ซึ่งการใช้โอกาสจากข้อตกลงเหล่านี้จะช่วยให้การส่งออกของเวียดนามขยายตัวมากขึ้น
ใช้โอกาสจากข้อตกลงเอฟทีเอเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ - ảnh 1(moit.gov.vn)

ตามข้อมูลสถิติ ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกของเวียดนามในปี 2021 บรรลุกว่า 6 แสน 6 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.6 เมื่อเทียบกับปี 2020 โดยยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกของสถานประกอบการที่ใช้เงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีเอได้บรรลุกว่า 4 แสน 6 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจกล่าวได้ว่า นี่คือผลงานที่น่าภูมิใจของเวียดนามในสภาวการณ์ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ยังคงมีขึ้นอย่างซับซ้อนและส่งผลกระทบโดยตรงต่อศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เขตนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ การผลิตและการขนส่งสินค้าของเวียดนาม

การส่งออกในปี 2021 ได้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19

ถึงแม้มีสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 15 ในมูลค่าการส่งออกของเศรษฐกิจ แต่การเกษตรเป็นด้านที่สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายตัวของการส่งออกในปี 2021 ซึ่งผลสำเร็จที่สำคัญในการส่งออกสินค้า โดยเฉพาะสินค้าการเกษตรในปีนี้คือการที่เวียดนามสามารถรักษาตลาดส่งออกเก่าแก่ โดยสหรัฐยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามโดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 27.5 รองลงมาคือจีน สหภาพยุโรป อาเซียน สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่น ควบคู่กันนั้น การที่สถานประกอบการเวียดนามได้ใช้โอกาสจากข้อตกลงเอฟทีเอฉบับต่างๆ โดยเฉพาะข้อตกลงเอฟทีเอรุ่นใหม่ เช่น ซีพีทีพีพี อีวีเอฟทีเอและยูเควีเอฟทีเอได้ช่วยให้เวียดนามมีตลาดที่หลากหลายและขยายการส่งออกในสินค้าที่เป็นจุดแข็งของเวียดนามไปยังตลาดใหม่ๆที่มีศักยภาพและมีมูลค่าสูงกว่า

แต่เพื่อประสบผลสำเร็จดังกล่าว จำเป็นต้องกล่าวถึงความพยายามของทางการปกครองและหน่วยงานทุกระดับ รวมทั้งสถานประกอบการและประชาชนที่ธำรงการผลิตและขนส่งสินค้าในสภาวการณ์การแพร่ระบาดอย่างซับซ้อนของโรคโควิด -19 โดยหน่วยงานบางแห่ง เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ ยังคงสามารถธำรงการผลิตหรือในบางหน่วยงาน เช่น สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนังและรองเท้าได้มีการพัฒนาที่น่าประทับใจในยุคชีวิตวิถีใหม่ นาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมนำเข้าและส่งออก สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้กล่าวว่า          “ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่าสูง ส่วนในกลุ่มสินค้าอื่นๆ เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูป หนังและรองเท้า ในช่วงเดือนกรกฎาคม กันยายนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการเว้นระยะห่างทางสังคมในจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ แต่ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี2021ก็สามารถฟื้นฟูอย่างเข้มแข็ง นี่คือผลสำคัญในภาพรวมการส่งออกที่น่ายินดีของเวียดนามในปี 2021

ใช้โอกาสจากข้อตกลงเอฟทีเอเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ - ảnh 2นาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมนำเข้าและส่งออก สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ ( congthuong.vn)

ใช้โอกาสจากข้อตกลงเอฟทีเอ

ตามข้อมูลสถิติของกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ ในปี 2021 การส่งออกของเวียดนามไปยังตลาดอียูได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 การส่งออกไปยังตลาดอังกฤษและไอร์แลนด์เหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 และการส่งออกไปยังตลาดซีพีทีพีพีที่ไม่มีเอฟทีเอกับเวียดนามในช่วงก่อนก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น การส่งออกไปยังแคนาดาได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 เม็กซิโกเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.9 และเปรูเพิ่มขึ้นร้อยละ 84.3 นาย เจิ่นแทงหายเผยต่อไปว่า          “ในปี 2022 การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยังคงเป็นปัญหาที่ยากจะคาดเดาได้ ถ้าหากเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ จะส่งผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออก แต่ด้วยโครงสร้างพื้นฐานและแรงงานที่เรามีในปัจจุบัน เรายังคงสามารถธำรงอัตราการขยายตัวเหมือนในช่วงที่ผ่านมาได้ โดยเฉพาะหลังจากที่เรามีข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ เช่น ข้อตกลงการค้า RCEP ที่มีผลบังคับใช้ในต้นปี 2022 ก็จะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้สถานประกอบการเวียดนามผลักดันการส่งออก

ความพยายามเปิดตลาดใหม่ๆผ่านการเจรจาการค้าทวิภาคีและพหุภาคีของรัฐบาลเพื่อแก้ไขอุปสรรค์ สร้างความโปร่งใสในมาตรฐานและข้อกำหนดในตลาดหุ้นส่วนได้ช่วยให้การส่งออกมีการขยายตัวอย่างสมดุลมากขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นการขยายในด้านปริมาณเท่านั้น หากยังเป็นการขยายในเชิงลึกอีกด้วย สินค้าของเวียดนามสามารถเจาะตลาดที่มีเงื่อนไขสูงที่สุดของโลก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าการเกษตรและสัตว์น้ำ นาย เหงียนมิงห์ฟอง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจแสดงความคิดเห็นว่า

เรามีโอกาสมากมายเพื่อขยายการส่งออก โดยเฉพาะโอกาสจากข้อตกลงเอฟทีเอรุ่นใหม่ นอกจากนี้ คุณภาพของสินค้าก็ช่วยให้เราสามารถเจาะตลาดใหม่ๆได้ การใช้ข้อตกลงเอฟทีเอรุ่นใหม่ โดยเฉพาะซีพีทีพีพี อีวีเอฟทีเอและ RCEP ในเวลาที่จะถึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก

ในสภาวการณ์การแพร่ระบาดอย่างซับซ้อนของโรคโควิด -19 ข้อตกลงเอฟทีเอเป็นแรงกระตุ้นต่อการส่งออกของเวียดนาม ดังนั้น ในปี 2022 นี้ สถานประกอบการและอุตสาหกรรมต่างๆของเวียดนามได้พยายามเชื่อมโยงการค้า ส่งเสริมการค้าทางไกลและประชาสัมพันธ์เครื่องหมายการค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง รวมทั้งใช้โอกาสและจุดแข็งจากข้อตกลงเอฟทีเอเพื่อนำสินค้าเวียดนามเจาะตลาดต่างๆในทั่วโลก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด