ไม่ควรใช้ชื่อเท็จในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ

(VOVworld)-เวียดนามกำลังทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญปี1992ฉบับแก้ไข และเพื่อที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความสอดคล้องกับสถานการณ์และความปรารถนาของประชาชน จำต้องได้รับความคิดเห็นที่มีคุณภาพและมีความคิดสร้างสรรค์โดยเฉพาะผู้ที่แสดงความเห็นต้องมีตัวตนมิใช่เป็นการปลอมแปลงรายชื่อหรือใช้นามของผู้อื่นโดยมิชอบเหมือนความเห็นที่ถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เนตของบุคคลบางคนที่ไม่หวังดี ซึ่งพวกเขาได้สร้างรายชื่อเท็จหรือปลอมชื่อผู้อื่นเพื่อก่อแรงกดดันต่อพรรคและรัฐในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามเจตนาของตน เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางสถานีวิทยุเวียดนามขอเสนอบทวิเคราะห์ของนักข่าววิทยุเวียดนามที่พาดหัวว่า ไม่ควรใช้ชื่อเท็จในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ 

(VOVworld)- เวียดนามกำลังทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญปี1992ฉบับแก้ไข และเพื่อที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความสอดคล้องกับสถานการณ์และความปรารถนาของประชาชน จำต้องได้รับความคิดเห็นที่มีคุณภาพและมีความคิดสร้างสรรค์โดยเฉพาะผู้ที่แสดงความเห็นต้องมีตัวตนมิใช่เป็นการปลอมแปลงรายชื่อหรือใช้นามของผู้อื่นโดยมิชอบเหมือนความเห็นที่ถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เนตของบุคคลบางคนที่ไม่หวังดี ซึ่งพวกเขาได้สร้างรายชื่อเท็จหรือปลอมชื่อผู้อื่นเพื่อก่อแรงกดดันต่อพรรคและรัฐในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามเจตนาของตน เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางสถานีวิทยุเวียดนามขอเสนอบทวิเคราะห์ของนักข่าววิทยุเวียดนามที่พาดหัวว่า ไม่ควรใช้ชื่อเท็จในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ 

ไม่ควรใช้ชื่อเท็จในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ - ảnh 1
แนวร่วมปิตุภูมิจัดประชุมรวบรวมความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญปี1992ฉบับแก้ไข

ในรายชื่อที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เนตและบล๊อคที่ปฏิกิริยา บาทหลวงPhạm Nguyên Hồng คริสตจักรท้ายบิ่งเป็นหนึ่งในบุคคลกว่า100คนของจ.ที่มีชื่อในรายชื่อกลุ่มผู้ยื่นหนังสือแสดงความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรียกร้องให้มีการลบหลู่บทบาทการนำของพรรค เรียกร้องให้พัฒนาระบบการเมืองแบบพหุพรรคและแบ่งอำนาจการบริหารอย่างอิสระใน3ระดับ แต่อันที่จริงบาทหลวงคนนี้ไม่มีจริง ซึ่งบาทหลวงเหงวียนวันทวาน หัวหน้าสภาบริหารคริสตจักรท้ายบิ่งยืนยันข้อเท็จจริงว่าที่โบสถ์ใหญ่ในท้องถิ่นไม่เคยมีบาทหลวงชื่อPhạm Nguyên Hồng โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นตั้งแต่ปี1975-1978-1980-1992 ก็มีอธิการโบสถ์คือบาทหลวง Ma Trach Huynh- Nguyễn Văn Đạo-  Trần Nguyễn Chiêu และล่าสุดนี้คือบาทหลวงNguyễn Phúc Hạnh ที่เป็นตัวแทนและเป็นอธิการโบสถ์ท้ายบิ่งเท่านั้น  จากจำนวนประชากรกว่า1ล้านคนของจ.ท้ายบิ่งนั้น การที่มีคนปลอมแปลงชื่อกว่า100ชื่อนั้นโดยส่วนใหญ่ไม่มีตัวตนเพื่อยื่นเสนอเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือที่จ.ห่าติ๋ง บุคคลที่มีชื่อร้อยละ70ในรายชื่อรวมกว่า1300คนในลักษณะเดียวกันนั้นก็ล้วนเป็นเกษตรกรที่ไม่เคยมีความรู้ทางอินเตอร์เนตนั้นเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ซึ่งนาย ตื่อวันเถียน ประธานแนวร่วมปิตุภูมิจ.ห่าติ๋งได้ยืนยันว่า การปลอมแปลงรายชื่อของประชาชนดังกล่าวถือเป็นการดูหมิ่นผลประโยชน์และสิทธิอันชอบธรรมของประชาชน เป็นเพทุบายทางการเมืองที่มุ่งบ่อนทำลายแนวทางและนโยบายของพรรคและรัฐ 

ในขณะเดียวกันนั้น โดยปฏิบัติตามคำสั่งของกรมการเมืองพรรคสมัยที่11และมติของรัฐสภาสมัยที่13 จนถึงปัจจุบันท้องถิ่นต่างๆได้เสร็จสิ้นการทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญปี1992ฉบับแก้ไขในเบื้องต้น เช่นที่นครโฮจิมินห์ประชาชนเกือบ6ล้านคนจากทั้งหมด10ล้านคนได้แสดงความคิดเห็นแล้ว ส่วนที่ฮานอยก็เช่นกัน ได้มีการแจกเอกสารรวบรวมความคิดเห็นถึงประชาชนทุกภาคส่วนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนแสดงความเห็นต่อบทบาทการนำของพรรค อำนาจของรัฐ สิทธิมนุษยชนและหน้าที่ของพลเมืองโดยไม่จำเป็นต้องลงชื่อ ทั้งนี้จากผลการรวบรวมความเห็นของประชาชนในเบื้องต้นได้แสดงให้เห็นว่า มีบล๊อคและเว็บไซต์กำลังประโคมข่าวโดยเจตนาว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากได้ลงชื่อในหนังสือนั้นเป็นเพียงการสร้างความสับสนให้แก่ประชามติ ส่วนพลโท มายกวางเฟิ้น สมาชิกสภาทฤษฏีส่วนกลางได้กล่าวถึงการรวบรวมความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญว่าที่สำคัญที่สุดคือต้องรวบรวมความเห็นของประชากรเกือบ90ล้านคนได้อย่างสมบูรณ์มิใช่ความเห็นที่มีจำนวนเป็นหมื่นเป็นร้อยที่ไม่มีที่มาที่ไปที่แน่นอน   ความเห็นของประชากรทั้งประเทศประมาณ87ล้านคนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เราต้องยืนยันลักษณะแห่งภาวะวิสัย แห่งประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เพื่อพิจารณาว่าควรเสริมอะไร ปรับปรุงข้อไหนในรัฐธรรมนูญให้มีความสอดคล้อง

การทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญปี1992ฉบับแก้ไขในเกือบ3เดือนที่ผ่านมา เฉพาะองค์กรแนวร่วม ซึ่งเป็นตัวแทนให้แก่ความปรารถนาและความมุ่งมั่นของประชาชนทุกภาคส่วนก็สามารถจัดการประชุมใหญ่7ครั้งเพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากปัญญาชน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้มีสมณศักดิ์และชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ เป็นต้น โดยทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย มีประชาธิปไตยในเชิงสร้างสรรค์ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอันว่า หากมีความปรารถนาในการพัฒนาประเทศและให้รัฐธรรมนูญสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งประชาชาติอย่างจริงใจก็ไม่ควรมีการปลอมแปลงรายชื่อของผู้อื่นเหมือนที่บุคคลบางกลุ่มได้ทำไปในเวลาที่ผ่านมา./.   

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด