ไอพียู 132 แปรเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กลายเป็นความจริง

(VOVworld) – ภายใต้หัวข้อ“เป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืน แปรคำพูดเป็นการปฏิบัติ” การประชุมไอพียู 132 ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 1 เมษายนได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นฟอรั่มสำคัญเพื่อเพิ่มเสียงพูดของรัฐสภาในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาระหว่างประเทศ ผลการประชุมของไอพียูยังเป็นพื้นฐานให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติพิจารณา หารือและตัดสินใจให้แก่การร่างเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนหลังปี 2015

(VOVworld) – ภายใต้หัวข้อ“เป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืน แปรคำพูดเป็นการปฏิบัติ” การประชุมไอพียู 132 ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 1 เมษายนได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นฟอรั่มสำคัญเพื่อเพิ่มเสียงพูดของรัฐสภาในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาระหว่างประเทศ ผลการประชุมของไอพียูยังเป็นพื้นฐานให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติพิจารณา หารือและตัดสินใจให้แก่การร่างเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนหลังปี 2015

ไอพียู 132 แปรเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กลายเป็นความจริง - ảnh 1
ท่านเหงียนซิงหุ่งออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการจัดการประชุมไอพียู 132
สหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียูได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 1889 ซึ่งถือเป็นองค์การรัฐสภาของบรรดาประเทศที่มีอธิปไตยโดยมีเป้าหมายคือสันติภาพให้แก่มนุษย์ ความเสมอภาค ภารดรภาพ ให้ความเคารพสิทธิมนุษยชน ปกป้องสิทธิมนุษยชน สิทธิของประชาชาติ สิทธิเสรีภาพและสิทธิที่จะได้รับความสุข จากจำนวนสมาชิก 166 ประเทศและสมาชิกเชื่อมโยงอีก 10 ประเทศ ไอพียูในวันนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวทางการทูตรัฐสภาโลกเพื่อเป้าหมายสันติภาพ ประชาธิปไตยและความร่วมมือระหว่างประชาชาติและรัฐสภาทุกประเทศ
เวียดนามชูธงแห่งความสามัคคีและสันติภาพ
เป้าหมายและแนวทางการปฏิบัติของไอพียูสอดคล้องความประสงค์และแนวทางการพัฒนาของเวียดนาม ดังนั้น การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมไอพียู 132 ในขณะที่องค์การนี้กำลังผลักดันโครงการปฏิบัติของตนให้สอดคล้องกับโครงการปฏิบัตของสหประชาชาติในอีก 15 ปีข้างหน้า เวียดนามจึงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันประชาธิปไตย สันติภาพและการพัฒนาในโลก ดังคำยืนยันของท่านเหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาเวียดนามว่า  “ถ้าหากอยากให้โลกมีความสามัคคี สันติภาพและมีความร่วมมือเพื่อแลกเปลี่ยนทุกอย่างและทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่อิ่มหนำผาสุก ก่อนอื่นต้องให้ความเคารพสิทธิมนุษยชน สิทธิของประเทศและสามัคคีกันบนเจตนารมแห่งความไว้วางใจกัน จึงจะสร้างพลังแห่งความสามัคคีที่ยิ่งใหญ่ในทั่วโลกและมีส่วนร่วมผลักดันให้ความร่วมมือต่างๆประสบความสำเร็จ”
ท่านเหงียนซิงหุ่งเห็นว่า ปัจจุบันนี้ รัฐสภานับวันยิ่งมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการจัดสรรค์แหล่งพลังต่างๆ การตัดสินใจเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดินและการร่างกลไกนโยบายต่างๆผ่านกฎหมายเพื่อปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติและเสร็จสิ้นเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของแต่ละประเทศ ดังนั้น ต้องการความเป็นเอกฉันท์และประสานงานในการปฏิบัติระหว่างรัฐสภาของทุกประเทศเพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ท่านเหงียนซิงหุ่งย้ำว่า  “เวียดนามให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยไม่เพียงแต่เสนอเป้าหมายของโครงการพัฒนาอย่างยั่งยืนเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือการแปรคำพูด โครงการและมตินั้นให้กลายเป็นการปฏิบัติในกลไกรัฐสภาโลก ส่วนการประชุมไอพียูครั้งนี้จะเน้นหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติเป้าหมายสหัสวรรษใน 15 ปีข้างหน้า”
ไอพียู 132 แปรเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กลายเป็นความจริง - ảnh 2
ท่านเหงียนซิงหุ่งและนายมาร์ติน จุงอง เลขาธิการไอพียู (Photo VNplus)
สร้างความเชื่อมั่นอย่างเข้มแข็ง
ในตลอด 30 ปีปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก เวียดนามได้พัฒนาจากประเทศที่ยากจนเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง นี่คือการก้าวเปลี่ยนที่สำคัญของเวียดนามบนเส้นทางผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ภายหลัง 36 ปีที่เข้าเป็นสมาชิกของไอพียู รัฐสภาเวียดนามเป็นสมาชิกที่เข้มและและมีความรับผิดชอบในฟอรั่มนี้ โดยได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสำคัญๆในไอพียู ในคณะกรรมการบริหาร ซึ่งเป็นองค์การบริหารสูงสุดของไอพียูหลายครั้ง
เวียดนามได้เสนอข้อคิดริเริ่มต่างๆในการปฏิบัติเป้าหมายสหัสวรรษเกี่ยวกับการศึกษาภาคบังคังระดับประถมศึกษา การขยายความเสมอภาคทางเพศ การยกระดับสถานะและบทบาทของสตรี นอกจากนี้ ผลสำเร็จของเวียดนามในการปฏิบัติเป้าหมาสหัสวรรษก็ได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ เวียดนามเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่กำลังพัฒนาในเอเชียที่มีอัตราส.ส.หญิงสูงที่สุดและนับวันยิ่งเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของกลุ่มส.ส.หญิงไอพียู ควบคู่กับผลสำเร็จในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ รัฐสภาเวียดนามยังนำประสบการณ์ของรัฐสภาต่างๆในทั่วโลกเข้าในกิจกรรมของตน ซึ่งช่วยให้การเคลื่อนไหวของรัฐสภาเวียดนามนับวันยิ่งใกล้ชิดกับสหภาพรัฐสภาโลกมากขึ้น นายมาร์ติน จุงอง เลขาธิการไอพียูเผยว่า“เมื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไอพียูกับเวียดนามอาจยืนยันได้ว่า ความร่วมมือได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งไม่ใช่เพียงในครั้งนี้ที่ผมมาเยือนเวียดนามเท่านั้น หากยังในหลายปีที่ผ่านมา ผมก็ได้รับทราบเกี่ยวกับโครงการต่างๆของรัฐสภาเวียดนาม เช่น ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รัฐสภาเวียดนามได้รับคำชื่นชมว่า เป็นผู้เดินหน้าในการเผยแพร่เอกสารทางกฎหมายบนเว็บไซต์ ส่วนความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของรัฐสภาเวียดนามเป็นบทเรียนอันล้ำค่าให้แก่รัฐสภาประเทศต่างๆ ดังนั้น เมื่อเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ หลายประเทศอาจเรียนรู้ประสบการณ์จากเวียดนามได้”
การที่เวียดนามเข้าร่วมไอพียูอย่างเข้มแข็งในเวลาที่ผ่านมา ผลสำเร็จในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและแผนการจัดการประชุมไอพียู 132 ด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องและมีประโยชน์นั้นถือเป็นพื้นฐานให้เพื่อนมิตรนานาชาติมีความเชื่อมั่นต่อความสำเร็จของการประชุมไอพียูในครั้งนี้ ณ เวียดนาม./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด