เงินสกุลยูโรได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปี๑๙๙๙และได้รับการประกาศใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่๑มกราคมปี๒๐๐๒ใน๑๒ประเทศและจนถึงกลางปี๒๐๑๑ มีพันธบัตรยูโรจำนวน๑๔.๒พันล้านใบและมีเหรียญกษาปณ์อีก๙๕.๖พันล้านเหรียญหมุนเวียนใน๑๗ประเทศเขตยูโรโซนที่มีประชากร๓๓๒ล้านคนรวมมูลค่า๘๗๐พันล้านยูโร



เงินสกุลยูโร

วัตถุประสงค์ของการประกาศใช้เงินสกุลยูโรคือเพื่อให้เงินสกุลในภูมิภาคยุโรปได้รับการหมุนเวียนอย่างสะดวกและมีเสถียรภาพ ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการเงินเมื่อปี๒๐๐๘ เงินสกุลยูโรนับว่าเป็นความสำเร็จของยุโรปโดยได้ช่วยสถานประกอบการลดค่าใช้จ่ายเมื่อต้องแลกเปลี่ยนเงิน และสำหรับผู้บริโภคก็สร้างเสถียรภาพด้านราคาถึงแม้ว่าชาวยุโรปจำนวนมากยังเห็นว่า เงินสกุลยูโรทำให้ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น ในหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรปได้ประสบความสำเร็จในการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ที่ประมาณร้อยละ๒ต่อปี เงินสกุลยูโรกลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีค่าเงินแข็งของโลกซึ่งช่วยให้ยุโรปมีความได้เปรียบในการต่อรองเศรษฐกิจโลกอีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเอกภาพของภูมิภาค แต่ก่อนที่จะรำลึกครบรอบ๑๐ปีการใช้เงินยูโรก็ได้มีข่าวลือเกี่ยวกับการล่มสลายของเงินสกุลนี้ซึ่งในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ๑๐คนจากทั้งหมด๒๐คนต่างเห็นว่า เงินสกุลยูโรจะล่มสลายและมีหลายกลุ่มบริษัทได้เตรียมแผนการรับมือไว้แล้ว ส่วนสำหรับชาวยุโรป สิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่พอใจคือ ราคาสินค้าที่แพงขึ้น อัตราคนว่างงานสูงขึ้น สวัสดิการสังคมและคุณภาพชีวิตลงลง การที่วิกฤติหนี้สาธารณะลุกลามอย่างกว้างขวางในเขตยูโรโซนมีหลายสาเหตุ เช่น การรักษาดอกเบี้ยในระดับต่ำเพื่อให้ประเทศและประชาชนในเขตยูโรโซนได้กู้เงินที่เกินกว่าความสามารถในการชำระคืน ส่วนสหภาพยุโรปก็ไม่มีแนวทางชี้นำทางการเมืองให้แก่ประเทศสมาชิกและไม่มีข้อกำหนดร่วมจนทำให้กรีซ ไอร์แลนด์และโปตุเกสต้องขอความช่วยเหลือจากนานาประเทศเพื่อชำระหนี้ ถึงปี๒๐๑๑ วิกฤติหนี้สาธารณะได้ลุกลามไปทั่วเขตยูโรโซนซึ่งอิตาลี่และสเปนก็ตกเข้าสู่วิกฤติดังกล่าวอย่างรุนแรง ส่วนฝรั่งเศสก็ถูกลดอับดันเครดิตลง อีกทั้งยังเกิดการเดินขบวนประท้วงเนื่องจากถูกเลิกจ้างและการลดงบประมาณแผ่นดินซึ่งผลกระทบจากวิกฤติหนี้สาธารณะได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลของหลายประเทศ เช่น นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ สเปน โปตุเกส กรีซ และอิตาลีต้องลาออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ยังสร้างความแตกแยกภายในสหภาพยุโรปในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะและการพิจารณาสนธิสัญญาลิสบอนใหม่ สหภาพยุโรปได้จัดการประชุมสุดยอดหลายครั้งเพื่อกู้สถานะของเงินยูโรรวมทั้งมาตรการรัดเข็มขัดแต่จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินระหว่างประเทศและประชามติยังขาดความเชื่อมั่นต่อสกุลเงินดังกล่าว ภายหลัง๑๐ปีที่เงินยูโรได้สร้างปรากฏการณ์ต่างๆให้แก่ตลาดการเงินโลกและการผสมผสานของทวีปแต่ปัจจุบันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวิกฤติหนี้สาธารณะและความซบเซาทางเศรษฐกิจจนหลายประเทศยุโรปได้ลดการสนันสนุนต่อเงินยูโร  จากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยสถาบันIpsosจัดขึ้น เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาปรากฏว่า ชาวฝรั่งเศสร้อยละ๔๕เห็นว่า เงินยูโรได้สร้างความเสียเปรียบในการรับมือกับวิกฤติ ส่วนชาวเยอรมันเห็นว่า เงินยูโรทำให้ราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้น และจากผลการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเร็วๆนี้ก็ปรากฏว่า ชาวสเปนเห็นว่า เงินสกุลยูโรนำประโยชน์มาสู่พวกเขาไม่มากนัก

            อาจกล่าวได้ว่า สถานะของเงินสกุลยูโรยังไม่เคยถูกสั่นคลอนดังเช่นในปัจจุบัน และสหภาพยุโรปกำลังจะได้รับบทเรียนราคาแพงเกี่ยวกับการควบคุมการขาดดุลย์งบประมาณแผ่นดิน./.