บรรยากาศที่จตุรัสโรงละครใหญ่เมื่อวันที่ 19สิงหาคม1945

เมื่อกล่าวถึงบทเพลงปลุกใจแห่งการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ทุกคนต่างนึกถึงเพลง “19สิงหาคม”ของนักดนตรีซวนแอวง  โดยเมื่อถึงเดือนสิงหาคมทุกๆปีเสียงเพลงปลุกใจแห่งการปฏิวัตินี้ก็ดังขึ้นในทั่วประเทศ “อย่าลืมวันที่19สิงหาคมเป็นวันลุกขึ้นสู้ ความผาสุกจะกลับสู่แผ่นดินเวียดนาม ชาวเวียดนามทั้งมวลร่วมใจลุกขึ้นต่อสู้ เเม้ต้องเสียสละเลือดเนื้อก็ไม่ท้อไม่กลัว..”

เพลงนี้ถูกประพันธ์ขึ้นในระหว่างที่นักดนตรีซวนแอวงกำลังร่วมในขบวนการมวลชนเดินประท้วงเมื่อวันที่ 19สิงหาคมปี1945  ซึ่งบรรยากาศที่ฮึกเหิมแห่งการลุกขึ้นปลดปล่อยได้สร้างแรงบันดาลใจให้เขาแต่งเพลงนี้ขึ้น เขาได้เขียนทำนองเนื้อร้องบนซองบุหรี่ที่สามารถหาได้ในขณะนั้นแล้วร้องนำให้ประชาชนร่วมร้องตาม นักวิจัยและประพันธ์ดนตรี เหงวียนถวิคา ได้เผยว่า “เช้าวันที่ 19สิงหาคมปี1945 กองกำลังจากทุกภาคส่วนของเวียดนามที่รับคำสั่งลุกขึ้นสู้ได้เคลื่อนขบวนไปที่จตุรัสหน้าโรงละครใหญ่เพื่อชุมนุมช่วงชิงอำนาจรัฐ ซึ่งนักดนตรีซวนแอวงได้ร่วมในขบวนฝูงชนที่เดินทางจากเขตแทงจี่และเขาก็ได้แต่งเพลงนี้ในระหว่างการเดินทางแล้วเสร็จพอดีเมื่อถึงจตุรัส ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการเขียนเนื้อร้องของเพลงแล้วแจกต่อกันเพื่อให้ทุกคนร่วมร้องเพลงปลุกใจแห่งการปฏิวัติ จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็72ปีแล้วแต่บทเพลง “19สิงหาคม”นี้ยังคงเป็นนิมิตหมายแห่งประวัติศาสตร์การปฏิวัติเวียดนาม”

นักดนตรีซวนแอวงกับเพลง "19สิงหาคม"

นักดนตรีซวนแอวงเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับความเป็นมาของเพลงตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ว่า เขาไม่เคยนึกเลยว่าจะสามารถแต่งเพลงได้เร็วขนาดนั้นและเพลงนี้สามารถกลายเป็นพลังจูงใจให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ นี่เป็นผลงานแห่งกระบวนการลุกขึ้นต่อสู้ของประชาชนและเกิดจากอารมณ์ความรู้สึกของพลเมืองคนหนึ่งที่ได้ร่วมอยู่ในวันปลดปล่อยแผ่นดินเกิด  และแล้วบทเพลงนี้ก็ได้กลายเป็นบทเพลงอมตะที่ชาวเวียดนามจดจำไปตลอดกาล นักดนตรีเหงวียนถวิคาเผยอีกว่า“เพลงนี้เชิดชูจิตใจแห่งความสามัคคีชนในชาติ ชาวเวียดนามทุกคนร่วมแรงร่วมใจลุกขึ้นต่อสู้ ซึ่งการปฏิวัติจะสำเร็จก็ต่อเมื่อประชาชนทุกคนอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กัน นอกจากนี้ก็เป็นการย้ำถึงความหมายของ  การเชื่อมโยงและสนับสนุนจากทุกภาคส่วน”

อาจกล่าวได้ว่าในคลังดนตรีเวียดนามไม่กี่บทเพลงที่ถูกตั้งชื่อตามวันเวลาที่ชัดเจนอย่างเพลง “19สิงหาคม” นี้ ซึ่งแม้จะเรียบง่ายตรงตัวแต่สามารถสะท้อนความหมายที่ยิ่งใหญ่ของเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ของประชาชาติที่ได้ลุกขึ้นเพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพมาให้แก่ประเทศ นักดนตรีก๊าตเหวิน อดีตหัวหน้าคณะดนตรีแห่งสถานีวิทยุเวียดนามเผยว่า เพลง “19สิงหาคม” มีทำนองเนื้อร้องที่เรียบง่ายจึงช่วยให้ทุกคนสามารถจำเนื้อร้องและทำนองได้อย่างรวดเร็วและร้องได้ทันทีเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กระบวนการต่อสู้“เพลงนี้เสมือนเป็นคำเรียกร้องทุกคนให้ขานรับขบวนการลุกขึ้นเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐในวันที่19สิงหาคมปี1945 ซึ่งเพลงมีสองตอนออกแนวเพลงปลุกใจมวลชน ซึ่งนับเป็นเพลงแรกๆในกระแสดนตรีแห่งการปฏิวัติ”

เมื่อฤดูไม้ผลัดใบเวียนมาทุกปี ทั่วประเทศเวียดนามก็จะเต็มไปด้วยธงทิวดอกไม้เพื่อฉลองชัยชนะแห่งการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักนั้น บทเพลงแห่งอัมตะ “19สิงหาคม”ก็ได้ดังขึ้นอีกครั้งซึ่งชวนให้ทุกคนรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญในอดีตและเป็นการย้ำเตือนใ ห้คนรุ่นใหม่จดจำและสานต่อเกียรติประวัติอันรุ่งโรจน์แห่งการปฏิวัติเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป.