ขบวนรถจักรยานขนส่งและทหารหญิงลำเลียงยุทธปัจจัยและยุทธภัณฑ์จังหวัดแทงฮว๊ากับชัยชนะเดียนเบียนฟู
Vĩnh Phong - VOV5 -  
(VOVworld) – “ขบวนรถจักรยานขนส่งและทหารหญิงลำเลียงยุทธปัจจัยและยุทธภัณฑ์” ของจังหวัดแทงฮว๊ามีส่วนร่วมไม่น้อยในชัยชนะเดียนเบียนฟูของเวียดนามเมื่อปี 1954 โดยได้ใช้รถจักรยานและไม้หาบขนส่งเสบียงและกระสุนปืนผ่านเส้นทางลาดชัดในป่าภายใต้การทิ้งระเบิดของฝ่ายศัตรูไปยังสมรภูมิแนวหน้า 60 ปีได้ผ่านพ้นไป ผู้ที่เข้าร่วมขบวนการบางคนก็จากโลกนี้ไปแล้ว บางคนก็อยู่ในวัยชราแต่ช่วงเวลาแห่งการสู้รบที่ดุเดือดและความมุ่งมั่นในการขนส่งยุทธปัจจัยและยุทธภัณฑ์ไปให้แก่แนวหน้าในเดียนเบียนฟูยังฝังลึกอยู่ในความทรงจำของพวกเขา
(VOVworld) – “ขบวนรถจักรยานขนส่งและทหารหญิงลำเลียงยุทธปัจจัยและยุทธภัณฑ์” ของจังหวัดแทงฮว๊ามีส่วนร่วมไม่น้อยในชัยชนะเดียนเบียนฟูของเวียดนามเมื่อปี 1954 โดยได้ใช้รถจักรยานและไม้หาบขนส่งเสบียงและกระสุนปืนผ่านเส้นทางลาดชัดในป่าภายใต้การทิ้งระเบิดของฝ่ายศัตรูไปยังสมรภูมิแนวหน้า 60 ปีได้ผ่านพ้นไป ผู้ที่เข้าร่วมขบวนการบางคนก็จากโลกนี้ไปแล้ว บางคนก็อยู่ในวัยชราแต่ช่วงเวลาแห่งการสู้รบที่ดุเดือดและความมุ่งมั่นในการขนส่งยุทธปัจจัยและยุทธภัณฑ์ไปให้แก่แนวหน้าในเดียนเบียนฟูยังฝังลึกอยู่ในความทรงจำของพวกเขา
|
ขบวนรถจักรยานขนส่งของจังหวัดแทงฮว๊า
|
ต้นปี 1954 ในการขานรับคำเรียกร้องของรัฐบาลที่ให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมการลำเลียงยุทธปัจจัยให้แก่ยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟู จังหวัดแทงฮว๊าได้ก่อตั้งหน่วยทหารท้องถิ่น 8 หน่วย ซึ่งแต่ละหน่วยมีทหารประจำการ 100 นายและมีหน่วยหนึ่งเป็นทหารหญิงเพื่อลำเลียงยุทธปัจจัยจากจังหวัดแทงฮว๊าไปยังจังหวัดเดียนเบียน โดยใช้เส้นทาง ลำธารรุ๊ดในจังหวัดหว่าบิ่งห์ - จังหวัดเซินลา คุณเลดึ๊กหงิ อายุ 85 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ดูแลการสอนหนังสือให้แก่หน่วยทหารเหล่านี้เผยว่า รถจักรยานขนของแบบนี้ดัดแปลงมาจากรถจักรยาน Sain te chien ของฝรั่งเศสและ Praha ของเชคโดยการนำไม้ไผ่มาต่อเพิ่มความยาวของแฮนด์ประมาณ 1 เมตรและใช้ไม้ไผ่ต่อที่อานสูงประมาณ 50 เซ็นติเมตรเพื่อควบคุมรถให้ง่ายขึ้น และเสริมความแข็งแกร่งของโครงรถจักรยาน ด้วยการเสริมเหล็กและไม้ไผ่ ส่วนล้อรถเสริมด้วยผ้า จึงทำให้รถจักรยานดัดแปลงนี้สามารถขนของได้ถึง 300 กิโลกรัม “ขณะนั้น เป้าหมายสูงสุดของเราคือ จะขนยุทธปัจจัยและยุทธภัณฑ์ให้ถึงสมรภูมิ ดังนั้นทุกคนที่ถูกมอบหมายหน้าที่ต่างมีความยินดีเป็นอย่างมากเพราะได้มีโอกาสช่วยเหลือแนวหน้า”
|
คุณเลดึ๊กหงิกับของที่ระลึก
|
คุณเฉิ่นโทย อดีตเลขาธิการพรรคสาขาของหน่วยรถจักรยานขนส่งของจังหวัดแทงฮ๊วา ที่ปัจจุบันอายุ 85 ปีได้เผยว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เขาและสหายเริ่มเดินทางจากเมืองโบนในตำบลโดงเตี๊ยน อำเภอโดงซวนไปยังตำบลซวนเหลิบ อำเภอเถาะซวนรับข้าวสารเพื่อส่งให้แนวหน้า แต่ละคนได้รับมอบหมายให้ขนข้าวสารประมาณ 50 กิโลกรัมเพราะเป็นการลำเลียงครั้งแรกจึงไม่รู้ว่าเส้นทางลำบากแค่ไหน “เส้นทางมีเนินสูงๆและลำธารมากมาย ขณะนั้น กองกำลังเยาวชนเดินหน้าได้สานไม้ไผ่ช่วยให้พวกเราลำเลียงข้าวสารได้สะดวกมากขึ้น หลังจากนั้นเราก็เปิดขบวนการแข่งขันลำเลียงข้าวสารให้ได้มากที่สุดเพื่อช่วยให้ทหารของเรามีข้าวกินเพื่อมีแรงต่อสู้กับศัตรู ดังนั้นปริมาณการขนจึงค่อยๆเพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละคนสามารถขนของได้ถึง 100 กิโลกรัม โดยเฉพาะคุณเหงียนวันดังสามารถขนของได้ถึง 200 กิโลกรัม”
|
คุณเฉิ่นโทย อดีตเลขาธิการพรรคสาขาของหน่วยรถจักรยานขนส่ง
|
ช่วงนั้น หน่วยรถจักรยานลำเลียงเสบียงเฉพาะในตอนกลางคืนเท่านั้น ส่วนกลางวันเป็นเวลาสำหรับการพักผ่อนและเรียนหนังสือ ถ้าหากมืดเกินไปก็จะจุดคบเพลิงหรือใช้แสงสว่างจากพลุไฟส่องสว่างที่เครื่องบินฝรั่งเศสทิ้งเพื่อการเดินทางในป่า ในระหว่างการลำเลียงเสบียงสิ่งของได้ประสบอุปสรรคนานัปการ จนทหารหลายนายได้เกิดความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ เช่น ตั้งกลุ่มรวม 3 หรือ 4 คนเพื่อช่วยเหลือกันในระหว่างการลำเลียงเสบียงสิ่งของ ซึ่งถ้าหากขึ้นเนินสูงๆหรือภูเขา จะใช้ 1 คนลากรถ 1 คนดันรถและคนที่เหลือควบคุมรถเพื่อให้รถแต่ละคันผ่านเนินสูงและภูเขาไปได้ แต่ลำบากที่สุดคือการลงเนินหรือลงภูเขา โดยต้องมี 1 คนประคองรถด้านหน้าและ 1 คนประคองรถด้านหลัง ส่วนคนที่เหลือควบคุมรถและใช้เท้าขัดล้อเพื่อเบรก นายโทยเผยว่า “ เท้าและมือของทหารได้รับบาดเจ็บเลือดไหล แต่หลังจากปฐมพยาบาลแล้ว ทุกคนก็ลำเลียงเสบียงสิ่งของทันที แม้จะปวดไหล่และใบหน้าขาวซีดเพราะโรคมาเลเรียแต่พวกเราก็พยายามทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงไปด้วยดี ขณะนั้นมีกลุ่มทหารลำเลียงเสบียงนับร้อยกลุ่ม จึงทำให้บรรยากาศสนุกสนานมากและพวกเรามีความตั้งใจเป็นอย่างมาก แถมยังร้องเพลงให้กำลังใจกันในขณะที่ลำเลียงเสบียงเพื่อลืมอุปสรรคต่างๆ”
|
คุณเลถิเมียนทหารหญิงท้องถิ่นที่เดินเท้าหาบของ
|
ในขบวนดังกล่าวยังมีทหารหญิงท้องถิ่นที่เดินเท้าหาบของ ซึ่งมีความพยายามไม่แพ้ทหารชายโดยสามารถหาบข้าวได้ 20 กิโลกรัมผ่านป่าเขาและลำธารกว่า 500 กิโลเมตรเพื่อลำเลียงเสบียงไปยังสมรภูมิ คุณเลถิเมียน อายุ 93 ปีเล่าว่า ตอนนั้นถ้าหากใครเหนื่อยหรือได้รับบาดเจ็บ คนอื่นในกลุ่มจะช่วยกันแบ่งของไปหาบ ส่วนคุณ เลถิเคว อายุ 87 ปี อดีตรองหัวหน้าหน่วยทหารหญิงรวมกว่า 150 คนเผยว่า การลำเลียงดำเนินไปในตอนกลางคืนและทุกคนก็พยายามระวังเต็มที่ไม่ให้ข้าวหกระหว่างทางเพราะถ้าหากไม่มีข้าวให้แนวหน้าก็จะไม่มีแรงเอาชนะศัตรูได้ “ขณะนั้นพวกเราไม่ห่วงที่จะต้องสละชีพหรือกลัวความเดือดร้อน และได้ให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อเดินหน้าขนส่งยุทธปัจจัยให้แก่แนวหน้าในเดียนเบียนฟู แม้ลำบากอย่างไรก็พยายามฟันฝ่าไปให้ได้ ตอนแรกการหาบสิ่งของทำให้ไหล่ปวดมากแต่ก็ค่อยๆคุ้นเคย ในการเดินทาง บ้างก็ร้องเพลงบ้างก็หยอกล้อกันให้หัวเราะ คนเดินแน่นถนนเล็ก ๆในป่า ซึ่งทำให้พวกเรามีกำลังใจเป็นอย่างมาก”
60 ปีก่อน ด้วยรถจักรยานและไม้หาบ ทหารท้องถิ่นจำนวนมากได้ลำเลียงยุทธปัจจัยและยุทธภัณฑ์ผ่านป่าผ่านเขาไปยังสมรภูมิเพื่อมีส่วนร่วมต่อชัยชนะเดียนเบียบฟูที่โด่งดังทั่วโลก ซึ่งนับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์สงครามของเวียดนาม รวมทั้งสงครามโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักชาติของชาวแทงฮว๊าและคนเวียดนามในช่วงประวัติศาสตร์ที่กล้าหาญของประชาชาติเวียดนาม./.
Vĩnh Phong - VOV5