ทีมอาสามอบสิ่งของช่วยเหลือ ณ เขตแยกตัว

ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม เยาวชนกว่า 50 คนจากทีมเยาวชนอาสาให้กำลังใจผู้ป่วยของเครือข่ายอาสาสมัครแห่งชาติในภาคเหนือได้ทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อทำ Face shield เกือบ 5,000 ชิ้นเพื่อมอบให้แก่จังหวัดและนครต่างๆที่กำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่กันนั้น ทีมเยาวชนจิตอาสาหลายคนจากมหาวิทยาลัยต่างๆในกรุงฮานอยและหน่วยงานในจังหวัดหวิงฟุก จังหวัดห่านาม จังหวัดบั๊กหนิงและจังหวัดบั๊กยางยังเรียกร้องให้หน่วยงาน สถานประกอบการ องค์กร นักอุปถัมภ์และผู้ที่มีใจกุศลร่วมสนับสนุนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดระลอกที่ 4 โดยได้สนับสนุนสิ่งของช่วยเหลือต่างๆ เช่น หน้ากากอนามัย 43,000 ชิ้น เจลล้างมือ 300 ขวด Face shield เกือบ 5,000 ชิ้น หน่วยงานต่างๆสังกัดเครือข่ายอาสาสมัครแห่งชาติในภาคเหนือยังส่งสิ่งของช่วยเหลือหลายพันชุดไปมอบให้แก่ท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโดยตรง รวมมูลค่าเกือบ 1 พันล้านด่ง นาย  เหงียนซวนเจื่อง รองประธานเครือข่ายอาสาสมัครแห่งชาติในภาคเหนือเผยว่า

“พวกเราระดมการสนับสนุนต่างๆในสังคม สถานประกอบการก็ร่วมมือด้วย พวกเราต้องซื้อวัสดุมาทำ Face shield  ส่วนหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและชุดป้องกันได้รับการสนับสนุนจากสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดแคลนเหมือนเมื่อก่อน โรคโควิด-19ครั้งนี้แพร่ระบาดไปวงกว้างมากขึ้นและเกิดการระบาดในจังหวัดและนครหลายแห่ง  แต่กองกำลังต่างๆได้ประสานงานในเชิงรุกและมีความพร้อมมากขึ้น ถึงแม้ประชาชนประสบความยากลำบาก แต่ทุกคนยังคงมีจิตใจแห่งการช่วยเหลือจุนเจือกันอย่างเข้มแข็ง”

พร้อมกับกิจกรรมจิตอาสาของเยาวชน ทีมสังคมสงเคราะห์รุ่นที่ 93-96 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายฮานอยยังได้เรียกร้องให้สมาชิกในกลุ่มฯหลายหมื่นคนบริจาคสิ่งของที่จำเป็นและเงินสดเพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ โดยภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ได้บริจาคเงินกว่า 300 ล้านด่งพร้อมกับหน้ากากอนามัยหลายพันกล่อง เจลล้างมือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและนมกระป๋องเพื่อมอบให้แก่โรงพยาบาลที่ต้องล๊อกดวาน์และสถานที่กักตัวในท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  เช่น จังหวัดหวิงฟุก จังหวัดบั๊กยางและจังหวัดบั๊กนิงห์ กิจกรรมจิตอาสาของสมาชิก 93-96 ได้ช่วยขยายผลจิตใจแห่งความสามัคคีและความเห็นอกเห็นใจในการแพร่ระบาดครั้งนี้ นาย เหงียน ฟาน ญาง หัวหน้าทีมสังคมสงเคราะห์ ปีการศึกษา 93-96 โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายฮานอยเผยว่า

“นอกจากการสนับสนุนแพทย์และพยาบาลแล้ว สมาชิกนักเรียนรุ่น 93-96 ฮานอยยังให้การช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่มหลายคนที่มีฐานะยากจน เช่น ข้าว ยารักษาโรค ช่วยให้ลูกของพวกเขามีโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์เพื่อเรียนออนไลน์ที่บ้าน ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากเราได้เห็นถึงความรักใคร่และความภาคภูมิใจในชาติของชาวเวียดนามซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม ผมคิดว่า นี่คือกิจกรรมที่มีความหมายมาก เพราะมีเพื่อนหลายคนถึงแม้จะลำบาก แต่ก็ยังคงมีส่วนร่วมต่อกิจกรรมการกุศลของทีมโดยนอกจากการสนับสนุนการรับมือการแพร่ระบาดแล้ว พวกเขายังช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในโครงการต่างๆของพวกเราด้วย”

กิจกรรมจิตอาสาได้ให้กำลังใจผู้ป่วยเป็นอย่างมาก

จากการขานรับคำเรียกร้องของพระ ทิกด่ามหว่าย เจ้าอาวาสวัดฟุกลองในตำบลหวิงกวิ่งห์ อำเภอแทงจี กรุงฮานอย ผู้ที่มีใจกุศลหลายคนได้บริจาคเงิน สิ่งของที่จำเป็นและร่วมกับทางวัดหุงข้าวเพื่อมอบให้แก่โรงพยาบาลต่างๆจนกว่าการแพร่ระบาดจะยุติลง นอกจากนั้น พระ ทิกด่ามหว่าย ยังเรียกร้องให้นักอุปถัมภ์สนับสนุนหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมกระป๋องและ Face shield เพื่อมอบให้แก่พื้นที่ล็อกดาวน์ในจังหวัดบั๊กยาง หวิงฟุกและบั๊กนิงห์โดย รถบรรทุกสิ่งของที่จำเป็นยังคงนำสิ่งของไปมอบให้แก่พื้นที่ล็อกดาวน์ทุกวันโดยไม่คำนึงถึงความยากลำบาก

“จิตใจของพระและชาวพุทธคือไปยังสถานที่ที่ประชาชนต้องการและมอบสิ่งของให้แก่พวกเขา ด้วยวิธีนี้ ผมอยากบอกชาวพุทธว่า พวกเราเป็นชาวเวียดนาม มีความรักใคร่และช่วยเหลือจุนเจือกันอยู่เสมอ หวังว่า ทุกคนจะแบ่งปันอาหารเช้าหรือค่าใช้จ่ายในครอบครัวเพื่อนำไปช่วยเหลือคนอื่น นี่คือการกระทำที่ควรปฏิบัติและก็เป็นแบบอย่างเพื่อให้ลูกหลานปฏิบัติตาม”

ยังมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับองค์กร บุคคล และสถานประกอบการที่ร่วมมือกับรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดในเวลาที่ผ่านมาซึ่งสร้างความซาบซึ้งใจในชุมชน กิจกรรมจิตอาสาอันสูงส่งในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แสดงให้เห็นว่า ความเมตตา การแบ่งปัน ความรับผิดชอบและจิตสำนึกของพลเมืองในสังคมนั้นยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยม และยิ่งไปกว่านั้น ความอบอุ่นและการกระทำอันสูงส่งของมนุษยชาติได้นำพาผู้คนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นและขยายผลพลังที่เข้มแข็งของความสามัคคีชนในชาติ./.