เวลา 16 น. 30 นาที ในห้องฝึกชั้นที่หนึ่งกว้างประมาณ 100 ตารางเมตรในอาคาร 3 ชั้นของศูนย์ฝึกมวยไทย Vietfighter 44 ถนนเอิาเกอ กรุงฮานอย ครูเหงียนวันลอง ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์ฝึกและครูคนหนึ่งในจำนวน 5 คนของศูนย์กำลังเตรียมแผนการสอนมวยไทยในวันนี้ นายเหงียนวันลองสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ร่างกายสันทัดและว่องไว ให้การต้อนรับดิฉันด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรไมตรี เขาเผยว่า การเตรียมแผนการสอนสำคัญมากเพื่อจะได้มีบทเรียนที่สอดคล้องกับนักเรียนแต่ละคน “หน้าที่การเป็นครูฝึกหนักมากเพราะว่าต้องอธิบายให้นักเรียนทุกคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคและส่งเสริมให้พวกเขาพยายามมากขึ้น นักเรียนแต่ละคนมีบุคลิกแตกต่างกันและมาจากหลายประเทศ เช่น เวียดนาม ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศสและรัสเซีย ซึ่งต้องหาวิธีอธิบายให้พวกเขาพัฒนาร่างกายให้แข็งแรงขึ้นและฝึกฝนเทคนิคการป้องกันตัวให้ดีขึ้น”

นายเหงียนวันลองเป็นชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศนิวซิแลนด์ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แม้จะพูดภาษาเวียดนามไม่ค่อยเก่งนักแต่เมื่อ 5 ปีก่อนเขาได้ตัดสินใจกลับประเทศเวียดนามเพื่อเปิดศูนย์ฝึกมวยไทยในกรุงฮานอยให้คนฮานอยมาฝึก เพื่อให้พวกเขารู้จักและมีความเข้าใจเกี่ยวกับมวยไทย “มวยไทยเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่มีความพิเศษเพราะว่าใช้ความแข็งแรงของร่างกายเพื่อป้องกันตัวเอง นอกจากนี้ยังเป็นกีฬาที่มีการแข่งขันในระดับโลกอีกด้วย ตลอดจนเพื่อพัฒนาสุขภาพและเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย ศิลปะการป้องกันตัวประเภทอื่นๆก็ไม่โด่งดังเหมือนมวยไทย มีการแข่งขันไม่มากและก็มีผู้เล่นไม่มากเหมือนมวยไทยเพราะใครๆก็สามารถฝึกมวยไทยได้”

เวลา 18 น. ในห้องฝึกชั้น 2 ที่กว้างประมาณ 70 ตารางเมตรที่มีเป้าซ้อมอันเดียวพร้อมกับพัดลมติดผนัง นักเรียนเกือบ 30 คนที่ใส่ชุดกีฬาและสวมนวมกำลังวิ่งรอบห้องด้วยเท้าเปล่าวบนพื้นผ้าใบสีน้ำเงิน ต่อจากนั้นก็วิดพื้นและวอร์มร่างกายประมาณ 5-7 นาที แล้วยืนกันเป็นคู่ๆรับฟังคำสอนของครูฉัตรชัย ดำสงค์ ครูมวยที่มาจากประเทศไทย ครูฉัตรชัยมีร่างกายสันทัดและมีผิวคล้ำเผยว่า เขาเล่นมวยไทยมา 30 ปีแล้วและต่อยมวยไทยเป็นเวลา 10 ปี “ ผมมาสอนมวยไทยที่นี่เพื่อเป็นการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยที่ตอนนี้ก็เป็นดังทั่วโลก อยากให้ทุกประเทศได้รู้จักมวยไทยเยอะๆครับ ”

ศูนย์ฝึกมวยไทย Vietfighter เปิดวันจันทร์ – วันศุกร์เวลา 8 น. – 21 น. วันเสาร์เปิด 10 น. – 21 น. และหยุดทุกๆวันอาทิตย์ ในอาคาร 3 ชั้นนี้ ในแต่ละวัน มีชั้นเรียนสอนมวยไทยประมาณ 6 คลาส แต่ละคลาสมีนักเรียนประมาณ 20-30คน ซึ่งมาจากประเทศต่างๆ หลากหลายวัย มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กๆ

“หนูชื่อหวอก๊วกอาน อายุ 10 ขวบ หนูมาเรียนมวยไทยที่นี่ก็เพราะพี่สาวของหนูกำลังเรียนมวยไทยที่นี่ หนูตามมาฝึกด้วยเพื่อจะได้ร่างกายแข็งแรง หลังจากที่ฝึกมวยไทยเป็นเวลา 1 เดือน หนูนอนหลับสบายดี”

“ฉันเลือกเรียนมวยไทยเพราะมีประโยชน์มาก เมื่อต่อยมวยไทยต้องใช้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น หมัด เท้า ศอก เป็นต้น ซึ่งช่วยให้ทั้งร่างกายของฉันกระชับ ไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ มวยไทยยังเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ ซึ่งต้องใช้ทุกส่วนของร่างกายในการป้องกันตัวเอง”

“ก่อนที่เรียนมวยไทย ผมได้เรียนยูโดมาเป็นเวลา 10 ปีซึ่งผมรู้วิธีการป้องกันตัวเองและรู้วิธีต่อสู้ในการแข่งขันแต่ผมเลือกเรียนมวยไทยเพราะว่า อยากเรียนวิธีโจมตีในท่ายืน ซึ่งเป็นเทคนิคที่มีชื่อเสียงของศิลปะมวยไทย”

การเรียนมวยไทยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือระดับเริ่มต้น ระดับกลางและระดับสูง การเลื่อนชั้น นักเรียนต้องเรียนอย่างน้อยในเวลา 6 เดือน นอกจากนี้ ทางศูนย์ยังส่งนักเรียนไปแข่งในการแข่งขันทั้งภายในและต่างประเทศเป็นประจำเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถและเรียนรู้ประสบการณ์ คุณเงียมถิ่เงิน นักมวยไทยหญิงคนหนึ่งของศูนย์ฯที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันในประเทศไทยเล่าว่า “เมื่อปี 2014 ดิฉันเข้าร่วมการแข่งขันมวยไทยที่สนามมวยท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ ดิฉันต่อยกับนักมวยไทยมืออาชีพที่ต่อยมาแล้ว 25 ครั้ง แม้ดิฉันจะแพ้คะแนนหลังต่อย 5 ยก แต่การแข่งขันนั้นถูกเลือกให้เป็นการแข่งที่ดีที่สุดของคืนนั้น การเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนั้นได้ช่วยให้ดิฉันมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นและสามารถยืนยันได้ว่า สิ่งที่ผู้ชายทำได้ ผู้หญิงสามารถทำได้เช่นกัน ผู้หญิงก็สามารถต่อยมวยไทยและเรียนศิลปะการป้องกันตัวได้ ดิฉันมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น หลังจากเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติที่มีนักมวยต่างชาติเข้าร่วมเป็นจำนวนมากและได้ต่อยมวยไทยในประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของมวยไทย”

การเรียนมวยไทยเสร็จสิ้นลงเวลา 19น.30 น. แม้เหงื่อเต็มใบหน้าของนักเรียนทุกคนและรู้สึกเหนื่อยแต่ทุกคนก็อำลาครูและเพื่อนๆด้วยรอยยิ้มอันสดใสบนใบหน้าและนัดพบกันใหม่ในการฝึกครั้งต่อไป.