ความก้าวหน้าของเวียดนามในการต่อต้านการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19

(VOVWORLD) - เมื่อเร็วๆนี้ สถาบันสุขอนามัยและการระบาดวิทยาส่วนกลางได้ประสบความสำเร็จในการเพาะเชื้อและการแยกเชื้อไวรัสSARS- CoV-2 ในห้องปฏิบัติการ  ซึ่งช่วยให้การตรวจเชื้อทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น  ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการวิจัยและการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสนี้ในอนาคต รวมทั้ง สามารถวางมาตรการรับมือการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่มีไม่กี่คนที่รู้ว่า นี่เป็นผลงานของกลุ่มนักวิจัยรวมสมาชิก 11 คนของสถาบันสุขอนามัยและการระบาดวิทยาส่วนกลางที่ต้องทำงานทั้งวันทั้งคืนและฟันฝ่าแรงกดดันต่างๆ

ความก้าวหน้าของเวียดนามในการต่อต้านการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 - ảnh 1ห้องปฏิบัติการในสถาบันสุขอนามัยและการระบาดวิทยาส่วนกลาง

จากการเป็นหนึ่งในหน่วย 2 แห่งในทั่วประเทศที่มีทักษะความสามารถในการทดสอบหาเชื้อไวรัสSARS- CoV-2 กลุ่มวิจัยของสถาบันสุขอนามัยและการระบาดวิทยาส่วนกลางต้องทำการตรวจหาเชื้อไวรัสจากตัวอย่างนับร้อยคนต่อวัน   นับตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษเต๊ตมาจนถึงปัจจุบัน กลุ่มวิจัยยังไม่มีวันหยุด  พวกเขาต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน ดอกเตอร์ หวูมายเฟือง หัวหน้าแผนกไวรัสได้เผยว่า

“พวกเราต้องทำงาน 10 ชั่วโมงต่อวันเพื่อทำการทดสอบหาลำดับยีนรุ่นใหม่  ถ้าหากได้รับตัวอย่างทดสอบในตอนค่ำ แน่นอนว่า พวกเราต้องทำงานทั้งคืน”

แม้จะมีสมาชิกไม่มากแต่ทุกคนในทีมต่างเป็นนักวิจัยที่มีประสบการณ์  ซึ่งในนั้น มีผู้ที่เคยเข้าร่วมการต่อต้านการแพร่ระบาดของโรค SARS เมื่อปี 2003  กลุ่มวิจัยต่างพยายามปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย นาย เวืองดึ๊กเกื่อง ซึ่งเป็นนักวิจัยที่มีประสบการณ์ทำงานในห้องปฏิบัติการมา 24 ปีและเข้าร่วมการต่อต้านการแพร่ระบาดของโรค SARS  ได้ยืนยันว่า

 “พวกเราได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกรณีต่างๆก่อนช่วงเทศกาลตรุษเต๊ตแล้ว ตอนนี้ พวกเราพยายามอย่างสุดความสามารถจนกว่าการแพร่ระบาดจะยุติ”

เพื่อให้ได้ผลการทดสอบอย่างรวดเร็วและถูกต้อง บรรดานักวิจัยของสถาบันสุขอนามัยและการระบาดวิทยาส่วนกลางต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและมีความปลอดภัยในขณะที่จำนวนตัวอย่างการทดสอบนับวันเพิ่มมากขึ้น    โดยเฉพาะ ในช่วงแรกของการทดสอบหาเชื้อ บรรดานักวิจัยต้องใช้เวลา 3-5 วันเพื่อทำการทดสอบผ่านวิธีการตรวจหาลำดับยีน   ถึงแม้บรรดานักวิจัยต้องใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อเพื่อทำงานในห้องปฏิบัติการเป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงแต่พวกเขาก็ยังคงตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด  นาย เวืองดึ๊กเกื่องเผยต่อไปว่า “ชุดที่พวกเราใส่ในห้องปฏิบัติการเหมือนชุดของมนุษย์กบ การใส่ชุดแต่งกายนี้ทำให้พวกเรารู้สึกอึดอัดมาก นอกจากนี้ การที่ทำงานในห้องปฏิบัติการก็เหมือนนั่งบนเครื่องบิน พวกเราต้องปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคให้แก่ตัวเองและคนใกล้เคียงอย่างเคร่งครัด”

บรรดานักวิจัยในห้องปฏิบัติการเหมือนผู้ที่อยู่แถวหลังแต่มีบทบาทชี้ขาดในการต่อต้านการแพร่ระบาด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เหงวียนแทงลองได้เผยว่า การทดสอบหาเชื้ออย่างรวดเร็วมีความสำคัญในการปฏิบัติมาตรการแยกตัวและการรักษาผู้ป่วย ซึ่งเป็นพื้นฐานเพื่อ  กำหนดเขตที่เกิดการแพร่ระบาด แยกตัวผู้ที่ต้องสงสัยว่า ติดเชื้อและส่งเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาด

“ผมชื่นชมกลุ่มนักวิจัย ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสสูงเนื่องจากต้องสัมผัสเชื้อโดยตรง   นี่เป็นความเสียสละของหน่วยงานสาธารณสุข”

จำนวนกรณีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสSARS- CoV-2  กำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้แก่บรรดานักวิจัย จากความตั้งใจ จิตใจและการตระหนักได้ดีต่อหน้าที่    บรรดานักวิจัยกำลังแข่งกับเวลา ฟันฝ่าแรงกดดันต่างๆเพื่อสร้างความหวังและโอกาสการรักษาโรคให้แก่ผู้ป่วย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด