ความหวังให้กับผู้ที่โดนสารพิศสีส้ม

( VOVworld ) - คนไข้ ๒๔ คนที่กำลังรับการรักษา ณ ศูนย์ชะล้างสารพิษให้กับผู้ที่โดนสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินของโรงพยาบาลเสนารักษ์ ๑๐๓  พวกเขาเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มของนครดานังกุล่มแรกที่เข้าร่วมโครงการชะล้างสารพิษออกจากร่างกายด้วยการใช้ยาสมุนไพรหรือเฮิบบาร์ด ( Hubbard ) ซึ่งเป็นเทคนิกที่ประสบความสำเร็จในการรักษาให้กับผู้ที่โดนสารพิษจากเหตุระเบิดโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ประเทศยูเครนเมื่อปี ๑๙๘๖


( VOVworld ) - คนไข้ ๒๔ คนที่กำลังรับการรักษา ณ ศูนย์ชะล้างสารพิษให้กับผู้ที่โดนสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินของโรงพยาบาลเสนารักษ์ ๑๐๓  พวกเขาเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มของนครดานังกุล่มแรกที่เข้าร่วมโครงการชะล้างสารพิษออกจากร่างกายด้วยการใช้ยาสมุนไพรหรือเฮิบบาร์ด ( Hubbard ) ซึ่งเป็นเทคนิกที่ประสบความสำเร็จในการรักษาให้กับผู้ที่โดนสารพิษจากเหตุระเบิดโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ประเทศยูเครนเมื่อปี ๑๙๘๖

 ความหวังให้กับผู้ที่โดนสารพิศสีส้ม - ảnh 1
พิธีเปิดศูนย์ชะล้างสารพิษสัสัมไดอ๊อกซิน

ศูนย์ชะล้างสารพิษให้กับผู้ที่โดนสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินได้รับการจัดอย่างเป็นระเบียบ โดยมีห้องทำงานของผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ ห้องอาบน้ำและห้องอบไอน้ำ  การรักษาด้วยยาสมุนไพรหรือเฮิบบาร์ด เป็นการชะล้างสารพิษออกจากร่างกายโดยการขับถ่ายทางเหงื่อ ทางเดินอาหารและทางปัสสาวะและอุจจาระ  ดร.เหงวียนบ๊าเหวื่อง ของศูนย์ฯเผยว่า  “ จะมีการรักษา ๓ รูปแบบคือ การออกกำลังกาย การอบไอน้ำและการบริโภคอาหารที่เหมาะสม  โดยคนไข้ต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้าร่วมโครงการ  หากมีประวัติเป็นโรคจิต สตรีตั้งครรภ์ โรคตับหรือถุงน้ำดี โรคขาดเลือด โรคประสาทและโรคระบาดก็เข้าร่วมโครงการรักษาไม่ได้  การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้อย่างรวดเร็วและสารพิษก็ถูกขับถ่ายออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วเช่นกัน  นอกจากนี้ก็ต้องมีการบริโภคอาหารให้ครบ ๕ หมู่ โดยเฉพาะวิตามินและโปรตินรวมทั้งต้องนอนหลับอย่างเพียงพอด้วย” การชะล้างสารพิษออกจากร่างกายของคนไข้ ๒๔ คนในหนึ่งวันประกอบด้วย การวิ่งเป็นเวลา ๓๐ นาทีเพื่อให้ร่างกายทำงานอย่างเต็มที่และช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนอย่างสะดวกเพื่อสามารถขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย  ต่อจากนั้นคือการอบไอ้น้ำ ซึ่งก็ช่วยขับถ่ายสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย ดร.เหงวียนบ๊าเหวื่องเผยว่า  “ คนไข้จะได้อบไอน้ำประมาณ ๔ ชั่วโมงต่อวันในอุณหภูมิตั้งแต่ ๖๐ ๘๐ องศาเซลเซียส  เมื่อคนไข้รู้สึกไม่สบายก็ออกมาอาบน้ำเย็นแล้วกลับไปอบต่อ  ระหว่างการอบไอน้ำคนไขจะได้รับประทานผลไม้และวิตามิน

 ความหวังให้กับผู้ที่โดนสารพิศสีส้ม - ảnh 2
ห้องอบไอน้ำเพื่อขับถ่ายสารพิษสัส้ม

นี่เป็นสองขั้นตอนแรกในกระบวนการชะล้างสารพิษไดอ๊อกซินออกจากร่างกายของคนไข้ ๒๔ คนที่โรงพยาบาลเสนารักษ์ ๑๐๓   คุณดั่งถิเฮือง ผู้จัดการฝ่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีเฮิบบาร์ดขององค์การอาเบิ้ล ( ABLE ) ย่านเอเชีย-แปซิฟิกเผยว่า ในขั้นตอนการรักษานั้นคนไข้ต้องปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอถึงจะได้ผลดี ซึ่งตามนั้น คนไข้ต้องนอนหลับอย่างเพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ ๕ หมู่ โดยเฉพาะผักต้องต้มให้สุกพอดีเพื่อรักษาวิตามินและเส้นใย รวมทั้งต้องกินวิตามินเสริม โดยเฉพาะวิตามินบี-๓ ที่เจำป็นต่อการขับถ่ายสารพิษสีส้ม
ปี ๒๐๑๐ สมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินได้ร่วมมือกับองค์การ อาเบิ้ล ( ABLE ) รับการรักษาชะล้างสารพิษด้วยเทคนิคเฮิบบาร์ดให้แก่ผู้ที่โดนสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินของจังหวัดท้ายบิ่ง ๖๐๐ คน ซึ่งได้ประสบผลที่ดี โดยคนไข้มีสุขภาพดีขึ้น  ดังนั้นทางโรงพยาบาลเสนารักษ์จึงวางแผนจะเปิดศูนย์ชะล้างสารพิษสีส้มเพิ่มอีกหนึ่งแห่งเพื่อช่วยให้ผู้ประสบเคราะห์ร้ายที่ยังมีอยู่นับล้านคนมีชีวิตที่ดีขึ้น  พลตรี รองศาสตราจารย์ ดร. หว่างแหม่งอาน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสนารักษ์ ๑๐๓ เผยว่า  กระทรวงกลาโหมและสมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มกำหนดจะก่อสร้างศูนย์ฯสองแห่ง ณ ที่นี่และ ณ โรงพยาบาลเสนารักษ์ ๑๗๕   ซึ่งศูนย์ฯที่นี่เพิ่งเริ่มดำเนินการระยะแรกเพราะกำลังอยู่ในระหว่างการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ และกำลังรักษาให้กับผู้เคราะห์ร้าย ๒๔ คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณรอบๆสนามบินดานังที่โดนสารพิษสีส้มหนัก  ซึ่งพวกเขาถูกนำตัวออกจากพื้นที่อาศัยเดิมเป็นเวลา ๑๐ วัน เสร็จแล้วตรวจเลือด หากระดับสารไดอ๊อกซินลดลงก็แสดงว่า การรักษามีประสิทธิภาพ
 ความหวังให้กับผู้ที่โดนสารพิศสีส้ม - ảnh 3
ผู้ที่โดนสารพิษสีส้มมีสุขภาพดีขึ้นหลังได้รับการรักษา ณ ศูนย์ฯ

คนไข้ ๒๔ คนดังกล่าวได้รับการรักษาฟรีไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลหรือการกินอยู่  อีกทั้งได้รับการแนะนำวิธีการบริโภคอาหารให้ถูกหลักโภชนาการและความรู้ต่างๆเกี่ยวกับการรักษา  คุณดั่งถิ่มาย อายุ ๕๗ ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลห่ายโจว์ นครดานังเผยว่า เมื่อเธอทราบว่าตัวเองโดนสารพิษสีส้มก็รู้สึกกังวลใจมาก  แต่เมื่อได้มารับการรักษาที่นี่ก็ทำให้เธอหายห่วงไปได้บ้าง คุณมายเผยว่า “ ส้นเท้าที่เคยเป็นรอยและอาการมือชาได้หายแล้ว  และเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงต่อมทอมซิลก็ไม่อักเสบอีกด้วย บรรดาหมอที่นี่ได้ช่วยเราอย่างเต็มใจ  ตอนเข้ามารักษาใหม่ๆดิฉันมักปวดหัวและอาเจียนแต่เดี๋ยวนี้หายสนิทแล้ว  การเกิดผื่นสีแดงก็ลดลงเพียงเหลือแค่อาการคันเล็กน้อยเท่านั้น  ภายหลังปฏิบัติตามขั้นตอนรักษา เราต้องรายงานต่อหมอ 

ปัจจุบัน มีชาวเวียดนามที่โดนสารพิษสีส้มจากสงครามประมาณ ๔ ล้าน ๕ แสนคน ซึ่งตัวเลขนี้ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ดังนั้นหากการรักษาเพื่อขับถ่ายสารพิษสีส้มของศูนย์ชะล้างสารพิษของโรงพยาบาลเสนารักษ์ ๑๐๓ ประสบความสำเร็จก็จะมีส่วนร่วมต่อการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับชาวเวียดนามที่โดนสารพิษสีส้มเหล่านี้ ./. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด