จังหวัดก่าเมาพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน
Kim Ngan - VOV5 -  
(VOVworld) – แหลมก่าเมา เป็นพื้นที่ใต้สุดของเวียดนามและเป็นสถานที่เดียวในเวียดนามสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในทะเลตะวันออกและตกในทะเลทิศตะวันตก ถ้าหากเดินทางไปเที่ยวจังหวัดก่าเมา คุณจะมีโอกาสลิ้มลองอาหารพื้นเมืองที่อร่อยๆ เยือนจุดปักหมุดพรมแดนแห่งชาติเดิ๊ดหมุยและเข้าร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจต่างๆ เช่น การจับปู ปลา หอย การเก็บน้ำผึ้งที่ป่าอูมิงหะ เป็นต้น
(VOVworld) – แหลมก่าเมา เป็นพื้นที่ใต้สุดของเวียดนามและเป็นสถานที่เดียวในเวียดนามสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในทะเลตะวันออกและตกในทะเลทิศตะวันตก ถ้าหากเดินทางไปเที่ยวจังหวัดก่าเมา คุณจะมีโอกาสลิ้มลองอาหารพื้นเมืองที่อร่อยๆ เยือนจุดปักหมุดพรมแดนแห่งชาติเดิ๊ดหมุยและเข้าร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจต่างๆ เช่น การจับปู ปลา หอย การเก็บน้ำผึ้งที่ป่าอูมิงหะ เป็นต้น
นั่งเรือไปเก็บหอยตลับ
|
วิจิตตรา ดีจันดาในชุดลายดอกไม้ปีนจากเรือลงบ่อน้ำของครอบครัวนายเจิ่นวันฟอง ในตำบลเดิ๊ดหมุย อำเภอหงอกเหียน จังหวัดก่าเมา ที่กว้างประมาณ 3-5 เฮกตาร์ ซึ่งใช้สำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ช่วงนี้ก่าเมากำลังย่างเข้าสู่ฤดูแล้ง น้ำในบ่อสูงกว่าหัวเข่าของดีจันดาเล็กน้อย เธอกำลังก้มเก็บหอยตลับในโคลนตมที่หนาประมาณ 5 เซนติเมตร เธอกล่าวว่า “จริงๆต้องบอกว่า ชอบก่าเมามากคือดีใจที่มีโอกาสมาที่นี่เพราะว่า ถ้าไม่มาคงจะไม่รู้ว่าที่นี่เป็นความอุดมสมบูรณ์มากค่ะ อย่างเมื่อกี๊ที่ลงไปจับหอยตลับ คือแรกๆก็แบบกลัวว่า อื้อมันจะลึกหรือว่าโคลนมันจะดูดลงไปหรือเปล่าแต่พอลงไปจริงๆแล้ว มั่นทึ่งกับธรรมชาติที่มันแบบเหลืออยู่ให้เราได้สัมผัสจริงๆ”
เวลา 10 โมงเช้า หลังจากเก็บหอยไปสักพัก ดีจันดาก็ขึ้นเรือกลับบ้านของคุณเจิ่นวันฟอง ภรรยาของคุณฟองกำลังรอเธอกับคณะโดยได้เตรียมสบู่ไว้ที่อ่างล้างมือ นอกจากดีจันดา ในคณะยังมีอีก 5 คน คุณฟองเผยว่า ในเขตริมฝั่งทะเลนี้ มีครอบครัวที่ประกอบอาชีพให้บริการการท่องเที่ยวชุมชนทั้งหมด 6 ครอบครัว โดยแต่ละครอบครัวมีบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบนี้ประมาณ 3-4 แห่ง ส่วนในฤดูท่องเที่ยว ครอบครัวของเขาได้ให้บริการนักท่องเที่ยววันละ 70-80 คน “เมื่อก่อนนี้ ครอบครัวของผมทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเท่านั้น มีรายได้ประมาณ 150 – 200 ล้านด่งต่อปีแต่เดี๋ยวนี้หลังจากที่ประกอบอาชีพให้บริการการท่องเที่ยวชุมชน รายได้ก็มีเสถียรภาพและสูงกว่าเดิมประมาณ 2 เท่า”
หลังเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆกับครอบครัวคุณฟองแล้ว ดีจันดาและคณะได้เดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนเหมื่อยหงอดที่อำเภอเจิ่นวันเถ่ย จังหวัดก่าเมาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ การเก็บน้ำผึ้งที่ป่าอูมิงหะ ก่อนที่จะเข้าป่า เจ้าของบ้านฝามยวีแคงได้แจกตาข่ายคลุมหัวสีเขียวให้ทุกๆคนเพื่อป้องกันผึ้งต่อย
ตาข่ายคลุมหัวสีเขียวเพื่อป้องกันผึ้งต่อย
|
นั่งเรือประมาณ 15 นาทีเพื่อข้ามคลองที่มีระดับน้ำสูงกว่าหัวคนเล็กน้อยก็ถึงพื้นที่เลี้ยงผึ้งแบบธรรมชาติของครอบครัวคุณฝามยวีแคง ก่อนที่จะขึ้นฝั่ง คุณแคงได้จุดมัดฟางเพื่อใช้ควันไล่ผึ้ง ทุกคนเดินตามคุณแคง ที่รังผึ้งบนกิ่งไม้มีผึ้งกำลังบินเสียงหึ่งๆ น่ากลัวมาก แต่คุณแคงยังถือถังน้ำและมีดเล็กปีนขึ้นต้นไม้อย่างรวดเร็ว ใช้ควันจากฟางไล่ผึ้งแล้วตัดรังผึ้งวางในถังแล้วปีนลงมา การเก็บน้ำผึ้งใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึง 5 นาทีแล้วทุกคนก็กลับลงเรือเพื่อไม่ให้ผึ้งต่อย คุณแคงบอกว่า ชาวบ้านที่นี่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดยมีรายได้มาจากอาชีพเลี้ยงผึ้งเป็นส่วนใหญ่ “เมื่อดอกเสม็ดบานสะพรั่ง น้ำหวานจะเยอะมาก ทำให้ผึ้งบินมาดูดน้ำหวานเยอะ ทุกๆ 10 วันจะสามารถเก็บน้ำผึ้งได้ประมาณ 100-200 ลิตร ขายได้ลิตรละ 3 แสนด่ง รายได้แต่ละเดือนอยู่ที่ประมาณ 60-70 ล้านด่ง แต่บางเดือนจะไม่มีรายได้เพราะดอกเสม็ดไม่มีน้ำหวาน”
หากเปรียบเทียบกับรายได้เฉลี่ยทั่วไปของประชาชนในจังหวัดก่าเมา รายได้ของคุณฟองและคุณแคงสูงกว่า 5-6 เท่า ดังนั้น สำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดก่าเมาได้เล็งเห็นความสำเร็จของรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจดังกล่าวโดยตัดสินใจขยายผลต่อไปผ่านยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืน นายเจิ่นเฮี๊ยวหุ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานฯเผยว่า “ในยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดก่าเมา เราเน้นการเรียกนักลงทุนยุทธศาสตร์มาลงทุนในเขตท่องเที่ยวแห่งชาติและเขตท่องเที่ยวหลักของจังหวัด เช่น อุทยานแห่งชาติอูมิงหะ เขตท่องเที่ยวคายลอง เขตท่องเที่ยวแหลมก่าเมา ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวต่างๆที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากศักยภาพด้านทรัพยากรทางทะเล จังหวัดก่าเมาเน้นดึงดูดนักลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวริมฝั่งทะเล เช่น การดำน้ำ ชมทะเลและการเล่นกีฬาบนชายหาด เป็นต้น”
หลังการเข้าป่าเก็บน้ำผึ้งกว่า 1 ชั่วโมง ดีจันดาและคณะต่างก็มีความสุขมาก แล้วคุณผู้ฟังอยากเข้าร่วมการท่องเที่ยวชุมชนที่จังหวัดก่าเมาไหมค่ะ ถ้าหากอยาก ก็สามารถหาซื้อทัวร์ 2 วัน 1 คืนได้ในราคาแค่ 1 ล้าน 5 แสนด่งหรือ 2 พันบาทเท่านั้น.
Kim Ngan - VOV5