เด็กตั้งใจวาดภาพ

เมื่อเข้าร่วม “ชั้นเรียนแห่งความสุข” ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ของโรงพยาบาลโรคมะเร็งส่วนกลางสาขาเขตเตินเจี่ยว พวกเราสามารถเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของเด็กๆเมื่อได้ถือหนังสือ ปากกาและดินสอสีเพื่อวาดภาพหรือฝึกอ่านและร้องเพลงตามเสียงปรบมือของครู  ซึ่งสิ่งนี้ดูเหมือนว่า เรียบง่ายแต่นี่เป็นความฝันสำหรับเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ถึงแม้เพิ่งฉีดยาเคมีบำบัดและใบหน้าแสดงถึงความเหนื่อยล้าแต่เด็กชาย หว่างวันมิง อายุ 8 ขวบจากจังหวัดบั๊กนิงก็ยังพยายามเข้าร่วมชั้นเรียนกับเพื่อนๆ

“น้องเข้ามารักษาโรคที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อไหร่

ผมมารักษาตั้งแต่เดือนมีนาคมครับ

วันนี้ น้องได้วาดภาพ น้องรู้สึกเป็นอย่างไรจ๊ะ

ผมรู้สึกดีใจและขอบคุณอาจารย์มากๆ”

นาย หว่างวันบิ่ง พ่อของเด็กชายหว่างวันมิงได้เผยว่า ครอบครัวเขาพบว่า เด็กชายมิง ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกอ่อนเมื่อ 2 เดือนก่อน  โดยได้เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลเด็กส่วนกลางและย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลโรคมะเร็งส่วนกลาง  ภายหลังการรักษาเป็นครั้งที่ 3 นี้ เด็กชาย มิงสามารถฝึกเดินได้อีกครั้ง แม้จะเห็นความเจ็บปวดที่ลูกได้รับแต่เมื่อเห็นลูกได้ไปเรียนหนังสือและเล่นกับเพื่อนๆได้ก็ทำให้มีกำลังมากขึ้น นาย หว่างวันบิ่งได้เผยว่า

“เนื่องจากลูกต้องหยุดเรียนดังนั้นเมื่อได้ไปเรียน ลูกชอบมาก เมื่อมาที่นี่ ลูกชายผมก็รู้สึกดีใจเนื่องจากได้พบปะกับเพื่อนๆและผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่ต้องฉีดยาเคมีบำบัด ลูกจะเหนื่อยมากแต่ในหลายวันที่ผ่านมา ลูกกินเยอะขึ้น ครอบครัวเราขอขอบคุณทางโรงพยาบาลฯที่ได้รักษาลูกของเราและขอบคุณชั้นเรียนที่ทำให้ลูกได้พบปะกับเพื่อนๆ”

เด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเข้าร่วมชั้นเรียนแห่งความสุขทุกบ่ายวันอังคารถึงวันศุกร์ โดยมีชั้นเรียนสำหรับเด็กที่มีอายุ 3-5 ขวบและชั้นเรียนสำหรับเด็กอายุ 6-10 ขวบ ซึ่งครูอาจารย์ของโรงเรียนเตว๋ดึ๊กและโรงเรียนอนุบาลกึเคและกลุ่มการกุศลมิงเต๋วสอนการระบำรำฟ้อน ร้องเพลงและเล่าเรื่องต่างๆ ครู เลถิกวี่ญจาง  รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลกึเคได้เผยว่า

“เด็กแต่ละคนที่เข้าร่วมชั้นเรียนนี้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง มีฐานะและความปรารถนาที่แตกต่างกัน ซึ่งพวกเราช่วยแก้ไขอุปสรรคให้แก่เด็กและช่วยให้เด็กมีความสุข”

ชั้นเรียนนี้ไม่เพียงแต่นำความสุขมาให้แก่เด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเท่านั้นหากยังมีน้ำตาของพ่อแม่เมื่อเห็นว่า ลูกได้ไปเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นและสายตาแห่งความอารีของบรรดาแพทย์และครูอาจารย์อาสา แพทย์ เหงวียนบ๊าติ๋ง หัวหน้าฝ่ายงานด้านสังคม โรงพยาบาลโรคมะเร็งได้เผยว่า วัตถุประสงค์ของการเปิดชั้นเรียนนี้ก็คือ หลังจากที่ได้รับการรักษาเด็กๆสามารถเข้าร่วมชั้นเรียน เล่นกับเพื่อนๆ ซึ่งช่วยให้เด็กๆสามารถฟันฝ่าความกลัวเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย

“ พวกเราดีใจมากๆเมื่อเห็นว่า เด็กอยากไปเรียน แม้เด็กไม่เข้าใจเกี่ยวกับโรคที่ตนป่วย แต่เมื่อเห็นว่า เด็กๆพยายาม พ่อแม่ก็จะพยายามมากว่านับสิบนับร้อยเท่าเพื่อสนับสนุนให้การรักษามีประสิทธิภาพ

แม้จะอยู่ในสถานที่ที่ดูเหมือนว่า เต็มไปด้วยความกังวลและเจ็บปวดแต่ชั้นเรียนแห่งความสุขได้จุดประกายความฝันและความสุข โดยไม่มีกลิ่นของยา ชั้นเรียนที่เต็มไปด้วยความสุขด้วยเสียงเพลงและกลิ่นของสีภาพวาดจะช่วยจุดประกายให้แก่เด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง.