ดร.ทุ้ยผูกพันกับทุ่งนา

ห่าถิ่ทุ้ยรักตั้นไม้และธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก  ความรักนั้นได้ทวีขึ้นตามกาลเวลาจนกลายเป็นแรงดลใจให้เธอสอบติดมหาวิทยาลัยโปลีเทคนิกสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ห่าถิทุ้ยได้เข้ามาทำงานที่สถาบันพันธุกรรมเกษตรกรรมเวียดนาม  ตั้งแต่นั้นมาท่านได้ศึกษาค้นคว้าพันธุ์ไม้ใหม่ๆที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและสามารถนำมาปลูกได้เลย  ซึ่งโครงการที่ถือว่าประสบผลสำเร็จที่สุดของท่านคือ โครงการผสมพันธุ์ไม้ผลที่มีกลีบแต่ไม่มีเมล็ดและอ้อยพันธุ์ดีที่ให้ผลผลิตสูงและทนกับศัตรูพืชดร.ห่าถิ่ทุ้ยคุยกับพวกเราว่า  “ สำหรับนักวิทยาศาสตร์นั้น การคิดค้นผสมพันธุ์ผลไม้หนึ่งพันธุ์ต้องใช้เวลากว่า ๒๐ ปี ส่วนการผสมพันธุ์ไม้ผลที่มีกลีบแต่ไม่มีเมล็ดต้องใช้เวลา ๒๕ปี แต่ดิฉันยังหลงไหลในการผสมพันธุ์ไม้ผลที่มีกลีบและมีความประสงค์ว่าจะสามารถผสมพันธุ์ส้มและส้มโอพันธุ์ใหม่จากพันธุ์พื้นเมืองของเวียดนามโดยไม่ต้องพึ่งพาพันธุ์ไม้จากต่างประเทศ ”

ไม้ผลพันธุ์ต่างๆของดร.ทุ้ยได้รับการตอบรับอย่างดีจากบริษัทปลูกไม้ผลและเกษตรกร ผลงานของดร.ทุ้ยและนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันฯเกี่ยวกับส้มที่ไร้เมล็ดได้ช่วยให้เกษตรกรจังหวัดเหง่อาน ห่าติ่ง หว่าบินห์ เอียนบ๊าย ห่ายาง เตวียนกวาง บั๊กยาง ลาวกายและไลโจว์สามารถพ้นจากความยากจน  มีบางครัวเรือนแต่ละปีมีรายได้ถึง ๕๐๐ ล้านด่งต่อเฮกต้าร์และสามารถสร้างฐานะจากการปลูกส้ม ดร.ห่าถิ่ทุ้ยคุยต่อไปว่า  “ ดิฉันศึกษาค้นคว้าเพื่อถ่ายทอดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้แก่เกษตรกรเช่น การคิดค้นข้าวพันธุ์ใหม่ๆ พันธุ์ส้มกับดอกไม้พันธุ์ใหม่ๆและถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรเพื่อเปลี่ยนแปลงประเพณีการเพาะปลูกแบบเก่าและเพิ่มประสิทธิภาพของเศรษฐกิจและไม่ต้องบากบั่นกับการทำการเกษตรอีก  ดิฉันได้เดินทางไปจังหวัดเขตเขาและเขตที่ห่างไกลความเจริญและได้พบเห็นว่าชาวบ้านยังยากจนมาก  ดังนั้นดิฉันอยากถ่ายทอดส้มพันธุ์ใหม่ๆให้แก่เกษตรกรจังหวัดเอียนบ๊าย ลายโจว์ ลาวกายและห่ายางเพื่อทำการปลูก ”

ดร.ทุ้ยในห้องแลบ

ความใกล้ชิดกับพื้นที่นาและเกษตรกรของดร.ทุ้ยทำให้ได้รับความรักใคร่จากเกษตรกรจนได้ตั้งฉายาให้ท่านว่าดร.แห่งผลไม้  ดร.ห่าถิ่ทุ้ยกล่าวว่า การเห็นเกษตรกรเก็บเกี่ยวได้ผลดีเป็นการส่งเสริมให้กำลังใจท่านในการศึกษาคิดค้นพันธุ์ไม้ใหม่ๆ

ผลสำเร็จของดร.ห่าถิ่นทุ้ยมีส่วนช่วยจากศ.ดร.โด่นังหวิ่งห์ซึ่งเป็นอาจารย์และเป็นเพื่อนร่วมอาชีพของดร.ทุ้ยในสถาบันพันธุกรรมเกษตรกรรม ศ.ดร.หวิ่งห์กล่าวถึงลูกศิษย์ของตนว่า ดร.ทุ้ยเป็นคนขยันและใฝ่หาความรู้ เธอพร้อมทำงานทุกอย่างในห้องแลบ บุคลิกที่โดดเด่นของดร.ทุ้ยคือความหลงไหลในการทำงาน ใฝ่หาความรู้ตลอดจนความปรารถนาที่จะได้ถ่ายอดผลงานคิดค้นของตนในการผลิต

จากผลงานและความใกล้ชิดกับเกษตรกร ดร.ห่าถิ่นทุ้ยได้กลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวเกษตรกรหลายจังหวัด ศ.ดร.โด่นังหวิ่งห์กล่าวชื่นชมดร.ทุ้ยว่า  “ พ่อของคุณทุ้ยเป็นทหารพลีชีพเพื่อชาติ ดังนั้นคุณทุ้ยจึงมีความรักและดูแลทหารพิการ ทหารพลีชีพเพื่อชาติและทหารเป็นพิเศษ  แต่ละปีคุณทุ้ยได้ไปเยี่ยมครอบครัว มอบของขวัญและดอกไม้ให้แก่คุณแม่ของครอบครัวดเหล่านี้  แม้จะเป็นงานเล็กๆแต่ก็ยังแสดงให้เห็นถึงน้ำใจของคุณทุ้ยจึงได้รับความเคารพรัก ”

ดร.ทุ้ยแนะนำเทคนิกการดูแลไม้ผลให้แก่เกษตรกร

ตลอด ๓๐ ปีที่ทำงานในห้องแลบและหลงไหลในงานค้นคว้าวิทยาศาสตร์ ดร.ห่าถิ้ทุ้ยอยากคิดค้นพันธุ์ไม้ดีๆและให้ผลผลิตสูงให้แก่เกษตรกร  ท่านยังคงถ่ายทอดความหลงไหลของตนให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ของสถาบันพันธุกรรมเกษตรกรรมสืบสานต่อไป ./.