(VOVworld) – บาดแผลจากสงครามและความยากลำบากจากอุปสรรคในชีวิตประจำวันและในสนามธุรกิจไม่ได้ทำให้นายตนเตี๊ยนหยุงผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนผลิตวัตสดุก่อสร้างและการค้าเทียนอึง ที่อำเภอเกิ๋มเซวียน จังหวัดห่าติ่งย่อท้อ และเขายังคงพยายามก้าวต่อไปเพื่อสร้างความมั่งมั่งให้แก่ถิ่นเกิด

อิฐบล็อคที่มีความหลากหลายทั้งสีสันและรูปแบบของบริษัท(Photo:gachdatviet)

ความกระตือรือร้นของชายหนุ่มที่เคยเข้าร่วมสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติดูเหมือนว่ายังคงอยู่ในตัวผู้อำนวยการตนเตี๊ยนหยุง ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เป็นทหารของกองทหารเจื่องเซินที่ทำการก่อสร้างสะพานถนน แล้วได้ไปศึกษาต่อเพื่อกลายเป็นนายทหารยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเขา  ไม่ว่าในตำแหน่งใด เขาก็ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างลุล่วงไปด้วยดี เมื่อปี๑๙๗๙ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาจึงออกจากการเป็นทหารแล้วกลับบ้านเกิด ชีวิตความเป็นอยู่ในเขตชนบทเกิ๋มเซวียนยังคงเต็มไปด้วยความยากลำบากแต่ทหารทุพลภาพผู้นี้ก็พยายามแก้ปัญหาความยากจน เขาเริ่มทำธุรกิจเมื่อปี๑๙๙๘ โดยประกอบอาชีพต่อเรือ และเพาะเลี้ยงกุ้ง แต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะประสบปัญหาขาดเงินทุน มาปี๒๐๐๔ เขาได้ยืมเงินจากเพื่อนเพื่อจัดตั้งบริษัทหุ้นส่วนผลิตวัสดุก่อสร้างและการค้าเทียนอึงโดยได้ลงทุน๑พันล้านด่งเพื่อซื้อเครื่องผลิตอิฐบล็อคที่ทันสมัยซึ่งสามารถผลิตอิฐบล็อคที่มีความหลากหลายทั้งสีสันและรูปแบบเพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างกิจการคมนาคม  ลานโรงเรียน และสำนักงาน ในตอนแรก เขาได้ใช้จักรยานยนต์ขนอิฐไปแนะนำที่อำเภอทุกแห่งในจังหวัด นายตนเตี๊ยนหยุงกล่าวว่า“ที่สมรภูมิรบ ผมรู้สึกมีความอบอุ่นเนื่องจากมีเพื่อนร่วมรบ ส่วนสมรภูมิธุรกิจมีการแข่งขันอย่างดุเดือด หลายคืนผมนอนไม่หลับเนื่องจากเป็นห่วงงาน แต่ผมได้พยายามฟันฝ่าอุปรรคภายใต้การช่วยเหลือของเพื่อนมิตร”   เวลาผ่านพ้นไป ประสบการณ์ที่สะสมได้นับวันเพิ่มมากขึ้นพร้อมกับการประยุปต์ใช้เทคโนโลยีใหม่และวิธิการผลิตที่มีประสิทธิภาพ  คุณภาพผลิตภัณฑ์ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น อิฐBlockของบริษัทเทียนอึงจึงได้รับความนิยมจากหน่วยงานก่อสร้างต่างๆในจังหวัดห่าติ๋ง นายตนเตี๊ยนหยุงกล่าวว่า “อิฐเทียนอึงของพวกเราได้รับความนิยมในจังหวัด การก่อสร้างมีคุณภาพและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งนี้เป็นปัจจัยเพื่อให้บริษัทของพวกเราสามารถยืนอย่างมั่นคงในเศรษฐกิเชิงตลาด” ทั้งนี้ได้สร้างความสำเร็จให้แก่บริษัทเทียนอึงซึ่งเห็นได้ชัดจากตัวเลวชดังนี้เมื่อปี๒๐๑๑ รายได้ของบริษัทอยู่ที่๑พัน๗ร้อยล้านด่ง มาปี๒๐๑๒ อยู่ที่๒พันล้านด่ง เมื่อเทียบกับสถานประกอบการขนาดใหญ่ นี่เป็นตัวเลขที่ไม่สูงนัก แต่เทียนอึงเป็นสถานประกอบการขนาดเล็ก ประกอบธุรกิจในพื้นที่อำเภอ ดังนั้น นี่ถือเป็นผลสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ  ตั้งแต่จัดตั้งบริษัท นายตนเตี๊ยนหยุงได้กำหนดว่า แรงงานของบริษัทต้องเป็นเยาวชนท้องถิ่นที่อยู่ในวัยทำงาน โดยเฉพาะ ทหารปลดประจำการและบุตรหลานของครอบครัวที่อยู่ในเป้านโยบาย ครอบครัวทหารทุพลภาพและสละชีพเพื่อชาติเพื่อมีส่วนร่วมแบ่งเบาภาระให้แก่ครอบครัวเหล่านี้ ทุกปีบริษัทเทียนอึงยังขานรับกิจกรรมตอบแทนบุญคุณ บริจาคให้แก่กองทุนเพื่อคนจน ให้ความช่วยเหลือเด็กพิการและเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลและมนุษยธรรมในพื้นที่จังหวัด นายเหงวียนสีเหวี่ยน เลขาธิการพรรคสาขาตำบลเกิ๋มเหญื่อง อำเภอเกิ๋มเซวียน จังหวัดห่าจิ๊งกล่าวว่า“เมื่อปลดประจำการกลับท้องถิ่น นายหยุงยังคงรักษาคุณสมบัตรของนายทหารกองทัพประชาชนเวียดนามโดยได้ปฏิบัติแนวทางของพรรค นโยบายและกฎหมายของรัฐและท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด ในการประกอบธุรกิจ เขาเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่มีความคล่องตัว บริษัทเทียนอึงโดยเขาและบรรดาทหารทุพลภาพจัดตั้งพัฒนาอย่างเข้มแข็ง สามารถสร้างงานทำให้แก่ชาวท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก” นายตนเตี๊ยนหยุงให้ความดูแลเอาใจใส่ต่อชีวิตทางวัตถุและจิตใจของเจ้าหน้าที่พนักงานอยู่เสมอ ดังนั้น พวกเขาจึงมีความมั่นใจ และความผูกพันกับบริษัทและให้ความเครพนับถือต่อผู้อำนวยการทหารทุพพภาพผู้นี้ คุณฟานถิ่เหี่ยน กรรมกรบริษัทเทียนอึงเผยว่า “ท่านผู้อำนวยการให้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเราโดยแจกเครื่องแบบชุดทำงาน๑ชุดต่อปี มอบของขวัญในโอกาสวันงานสำคัญของประเทศ พวกเราได้รับเงินเดือน๒ล้าน๕แสนด่ง” แม้จะมีขนาดเล็กแต่บริษัทหุ้นส่วนผลิตวัสดุก่อสร้างและการค้าเทียนอึงสามารถยืนได้อย่างมั่นคงท่ามกลางเศรษฐกิจเชิงตลาด การแข่งขันอย่างดุดเดือดของตลาดและวิกฤติเศรษฐกิจ สิ่งที่น่าสนใจคือ เจ้าของบริษัทเป็นทหารทุพลภาพที่ได้ฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวง ปฏิบัติตามโอวาทของประธานโฮจิมินห์ ทหารทุพพลภาพหาใช่จะไร้ค่าเพื่อมีส่วนร่วมสร้างความเจริญสวยงามให้แก่ถิ่นเกิด./.