ฝามจี๊ติ๋ง – ผู้ทำกลองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม

(VOVworld) – ในอดีต ถ้าหากเดินทางไปตามถนนโบราณ 36 สายในกรุงฮานอย ก็จะสามารถพบเห็นร้านขายกลองได้ทั่วไปแต่ปัจจุบันนี้เหลือแค่ร้านของคุณฝา มชี๊ติ๋ง เลขที่ 11 ถนนห่างน้อนเท่านั้น อาจกล่าวได้ว่า คุณฝามชี้ติ๋งเป็นคนสุดท้ายในถนนโบราณ 36 สายที่ยังคงทำอาชีพหัตถกรรมพื้นเมืองนี้ แม้บางครั้งชีวิตความเป็นอยู่จะลำบากแต่เขาไม่เคยคิดจะละทิ้งอาชีพที่สืบทอด ต่อจากพ่อ ต่อไปนี้ ขอเชิญท่านพบปะกับคุณฝามชี๊ติ๋ง ผู้ทำกลองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม

(VOVworld) – ในอดีต ถ้าหากเดินทางไปตามถนนโบราณ 36 สายในกรุงฮานอย ก็จะสามารถพบเห็นร้านขายกลองได้ทั่วไปแต่ปัจจุบันนี้เหลือแค่ร้านของคุณฝามชี๊ติ๋ง เลขที่ 11 ถนนห่างน้อนเท่านั้น อาจกล่าวได้ว่า คุณฝามชี้ติ๋งเป็นคนสุดท้ายในถนนโบราณ 36 สายที่ยังคงทำอาชีพหัตถกรรมพื้นเมืองนี้ แม้บางครั้งชีวิตความเป็นอยู่จะลำบากแต่เขาไม่เคยคิดจะละทิ้งอาชีพที่สืบทอดต่อจากพ่อ ต่อไปนี้ ขอเชิญท่านพบปะกับคุณฝามชี๊ติ๋ง ผู้ทำกลองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม

ฝามจี๊ติ๋ง – ผู้ทำกลองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม - ảnh 1
คุณฝามชี๊ติ๋งกับร้านกลองของตน

การเดินหาร้านกลองของคุณฝามชี๊ติ๋งบนถนนห่างน้อนนั้นไม่ยากเลยเพราะร้านมีการแขวนกลองไว้บริเวณสองข้างของประตูอย่างโดดเด่น โดยที่ร้านมีทั้งกลองใบเล็กและใบใหญ่ บางใบทาสีแดงและวาดลายเมฆแล้ว แต่บางใบก็ยังไม่ได้ทาสี นอกจากนี้ ในร้านยังมีเครื่องดนตรีอื่นๆ เช่น ด่านแจงหรือพิณ 16 สาย พิณสายเดียวและกีตาร์ เป็นต้น เพราะคุณฝามชี๊ติ๋ง วัย 85 ปีมีความสามารถทำได้ทั้งกลองและเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆด้วย เขาได้เล่าเรื่องราวต่างๆในช่วงที่เขาเริ่มเรียนการทำกลองจากพ่อเมื่อกว่า 70 ปีก่อนว่า “ผมเกิดที่หมู่บ้านด๋อยตาม ตำบลยวีเตียน จังหวัดห่านาม ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 60 กิโลเมตร ชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้านล้วนทำอาชีพผลิตกลอง ตอนอายุ 13 ปี ผมพร้อมกับคุณพ่อต้องอพยพไปจังหวัดเหงะอาน – ห่าติ๋ง พวกเราต้องเดินเท้า 7 วันเต็ม มือถือกิ่งไม้ใหญ่เพื่อหลบเครื่องบินทิ้งระเบิดของฝ่ายศัตรูและต้องหลบในหลุมหลบระเบิดริมถนน พอถึงจังหวัดเหงะอาน ผมและพ่อก็ทำอาชีพผลิตกลองเพื่อเลี้ยงชีพ ตอนอายุ 14 ปี ผมก็ผลิตกลองได้ด้วยตนเองและแยกกับพ่อเดินทางไปทำกลองในจังหวัดต่างๆในภาคเหนือและภาคกลางเวียดนาม ผมไม่เคยคิดว่า จะละทิ้งอาชีพนี้เพราะอาชีพนี้จะคงอยู่ตลอดกาล โดยเฉพาะเมื่อเรามีฝีมือดีก็จะมีคนสั่งซื้อเรื่อยๆ แม้รายได้ไม่สูงเท่ากับคนขายกลองแต่ก็พออยู่พอกิน”
ตอนที่เราถามเกี่ยวกับกลองชนิดต่างๆ คุณฝามชี๊ติ๋งก็คุยกับพวกเราด้วยแววตาที่เป็นประกายและตีกลองด้วยมือที่สั่นตามประสาคนชราและอธิบายว่า “นี่คือกลองใช้สำหรับการร้องเพลงทำนองเจ่าวันแต่ถ้าหากเจาะรูด้านข้างแล้วใส่ด้ามจับก็จะกลายเป็นกลอง “เขา” หรือกลองสำหรับให้สัญญาณในงานเทศกาลต่างๆ ส่วนกลองนี้เป็นกลองที่ใช้สำหรับการร้องเพลงแจ่วแต่ถ้าหากขึงหนังกลองให้ตึงขึ้นก็จะกลายเป็นกลองที่ใช้สำหรับการร้องเพลงโกเด่า กลองที่มีขนาดเท่ากับถ้วยแกง ผมใช้เวลาทำแค่ 2 ชั่วโมง ส่วนกลองขนาดกลางเท่ากับถังน้ำใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง”
ฝามจี๊ติ๋ง – ผู้ทำกลองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม - ảnh 2
กลองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม (Photo Internet)

ชื่อเสียงของคุณฝามชี้ติ๋ง เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นจากการทำกลองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามเนื่องในโอกาสพิธีสมโภชกรุงทังลองฮานอยครบรอบ๑พันปี กลองนี้สูง 1.42 เมตร หน้ากลองกว้าง 2.35 เมตรและมีเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบ 4 เมตร ปัจจุบันนี้กำลังตั้งไว้ในหว่างแถ่งทังลอง ในขณะที่ทำกลองนี้ ต้องมีความช่วยเหลือของช่างทำกลองอีก 10 คน แต่ก่อนที่จะทำกลองก็ต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อหาวัตถุดิบในการทำ “ผมต้องเตรียมวัตถุดิบเป็นเวลาหลายเดือน โดยต้องหาตามโรงฆ่าสัตว์ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งยากมาก ผมหาหนังควายได้สองผืนซึ่งใหญ่พอสำหรับทำหนังหน้ากลองขนาดใหญ่แบบนี้ ซึ่งจะต้องหาจากควายตัวใหญ่โดยเฉพาะต้องเป็นควายตัวเมีย เสียงกลองถึงจะดังกังวาล สำหรับโครงของตัวกลองก็ต้องใช้ไม้ขนุนขนาดใหญ่จากจังหวัดเถื่อเทียนเว้ เพราะไม้ขนุนไม่บวม เนื้อเรียบและแข็งแรง โดยต้องใช้เนื้อไม้ด้านในทั้งหมดเพราะถ้ามีเศษไม้ ปลวกจะแทะกลอง”
ในชีวิตการผลิตกลอง นอกจากทำกลองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามแล้ว คุณฝามจี้ติ๋งยังคงทำกลองขนาดใหญ่นับร้อยใบ เขาบอกว่า การทำกลองขนาดใหญ่นอกจากจะหาวัตถุดิบยากแล้ว การทำโครงของตัวกลองและการขึงหนังก็ยากอีกด้วยและต้องระวังไม่ให้เสียงเพี้ยน ถ้าหากเป็นช่างฝีมือดี ต้องประณีตในทุกขั้นตอน “ตอนแรกต้องรู้ว่าไม้ชนิดใดสามารถทำโครงกลองได้ ต่อจากนั้นก็ต้องรู้จักวิธีทำโครงกลอง แล้วต้องรู้จักวิธีการขึงหนัง การทำกลองแต่ละชนิดมีความยากง่ายแตกต่างกัน กลองบางใบต้องขึงหนังเท่านั้นแต่บ้างใบก็ต้องเย็บด้วย ทำอย่างไรให้กลองไม่แตกและด้ายไม่ขาด ถ้าหากเป็นช่างที่เก่งก็ต้องรู้จักทุกขั้นตอนในการทำกลองและรู้จักการฟังเสียงกลองเพื่อจะสามารถผลิตได้ตามใบสั่งซื้อ”
ในตลอดกว่า 70 ปีที่ประกอบอาชีพนี้ เนื่องจากมีประสาทการฟังที่ดี มีความชำนาญในการทำกลองและความอดทนได้ช่วยให้คุณติ๋งกลายเป็นช่างทำกลองที่มีชื่อเสียงของกรุงฮานอย เพียงแค่ฟังเสียงกลอง เขา “ความเก่งของคุณติ๋งคือเมื่อสัมผัสหนังควายหรือไม้ขนุนก็สามารถทราบว่าเสียงกลองจะเป็นอย่างไร ดังนั้น กลองที่คุณติ๋งทำมีความแตกต่างกับกลองของคนอื่น คือมีเสียงดังกว่าและไม่เพี้ยน”
แม้มีอายุมากแล้วและสุขภาพไม่ดีแต่คุณติ๋งยังคงรับผลิตกลองแต่ผลิตเฉพาะกลองที่ทำยากๆเท่านั้นและมีคนทำได้ไม่กี่คนเพราะว่าในใจของช่างศิลป์ผู้นี้ ความหลงไหลเกี่ยวกับกลองก็เหมือนเปลวไฟที่ไม่เคยดับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด