พัฒนาการเกษตรควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชนในจังหวัดเซินลา

(VOVWORLD) - ในหลายปีมานี้ รูปแบบการพัฒนาการเกษตรควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชนในจังหวัดเซินลาได้เกิดประสิทธิผลอย่างจริงจัง โดยการเข้าร่วมของเกษตรกรในกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ช่วยให้นักท่องเที่ยวมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน อีกทั้งสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร

 

พัฒนาการเกษตรควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชนในจังหวัดเซินลา - ảnh 1สวนสตรอเบอร์รี่ Maburu Farm 
 
ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สวนสตรอเบอร์รี่ Maburu Farm ของสหกรณ์เกษตร เทคโนโลยีและการท่องเที่ยว Na Lun Mộc Châu ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาศึกษากรรมวิธีการปลูกสตรอว์เบอร์รี่ตามมาตรฐาน VietGAP อีกทั้งเก็บผลสตรอว์เบอร์รี่รับประทานแบบสดๆอย่างเป็นกันเองแล้วซื้อกลับบ้าน  นาย โงมิงเฮี้ยว รองผู้อำนวยการสหกรณ์เกษตร เทคโนโลยีและการท่องเที่ยว Na Lun Mộc Châu ได้เผยว่า เมื่อปี 2019 ทางสหกรณ์ฯได้ทดลองปลูกสตรอเบอร์รี่ในพื้นที่ 6 พันตารางเมตรเพื่อปฏิบัติรูปแบบการพัฒนาการเกษตรควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศหลายพันคน จากการเล็งเห็นถึงศักยภาพของรูปแบบนี้ ทางสหกรณ์ฯได้ขยายการลงทุนในการปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบเกษตรธรรมชาติในพื้นที่ 2 เฮกตาร์เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติ

“เราจะมุ่งสู่การปลูกสตรอเบอร์รี่อินทรีย์ตามมาตรฐานโลกเพื่อเพิ่มผลผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้แก่นักท่องเที่ยว”

ด้วยศักยภาพของป่าดงดิบ ได้มีการพัฒนาเขตท่องเที่ยวเชิงนิเวศ Rừng Vàng ในหมู่บ้าน Noong Đúc เขต Chiềng Sinh เมืองเซินลาเพื่อฟื้นฟูและประชาสัมพันธ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าไทในท้องถิ่น เช่น บ้านยกพื้น สวนไม้ผล การแสดงพื้นเมือง ศาลาพักผ่อนและถนนในป่าที่ได้รับการก่อสร้างจาก หิน ไม้ไผ่ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวิถีชีวิต กิจกรรมต่างๆของชาวบ้านและอาหารในท้องถิ่น นาง เจิ่นถิเกิ๋ม ผู้อำนวยการเขตท่องเที่ยวเชิงนิเวศ Rừng Vàng ได้เผยว่า“พวกเราได้ส่งเสริมจุดแข็งจากป่าดงดิบเพื่อพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยว ประสานงานกับคณะศิลปะหมู่บ้าน Noong Đúc เพื่อจัดการแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม อีกทั้งปลูกต้นกาหลงและต้นไม้อื่นๆเพื่อสร้างจุดเช็คอิน การพัฒนารูปแบบการเกษตรควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชนทำให้มีนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเพิ่มขึ้น”

นอกจากนี้ ในโครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์”หรือ OCOP จังหวัดเซินลาได้รับรองเขตท่องเที่ยวชุมชน Ngọc Chiến ในตำบล Ngọc Chiến อำเภอ Mường La และเขตท่องเที่ยว Pha Đin Top ในตำบล Phổng Lái อำเภอ Thuận Châu ให้เป็นผลิตภัณฑ์OCOP  4 ดาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรูปแบบการเกษตรควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชนที่ช่วยเพิ่มห่วงโซ่คุณค่าของภาคการเกษตรและช่วยสร้างโฉมหน้าใหม่ให้แก่เขตชนบทในเขตเขา นาย บุ่ยคั๊กบ๋าว หัวหน้าแผนกบริหารการท่องเที่ยวสังกัดสำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดเซินลาได้เผยว่า“การพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศมีการเชื่อมโยงกับการเกษตร เช่น ในการท่องเที่ยวชุมชน นักท่องเที่ยวได้รับประทานอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ส่วนที่เขตท่องเที่ยวในหมกโจว์ เช่น Happy Land มีการปลูกดอกไม้เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว”

พัฒนาการเกษตรควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชนในจังหวัดเซินลา - ảnh 2เขตท่องเที่ยวเชิงนิเวศ Rừng Vàng

ส่วนคุณ ห่ายือเหวะ ผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดเซินลาได้เผยว่า หน่วยงานเกษตรจังหวัดเซินลากำลังพัฒนากิจกรรมต่างๆควบคู่กับการท่องเที่ยว โดยเน้นการบริการและการท่องเที่ยวในเขตชนบทบนพื้นฐานของการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมในท้องถิ่น

“ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีความต้องการศึกษาค้นคว้าสิ่งใหม่ๆในท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งทางสำนักงานฯได้เน้นพัฒนาเขตผลิตเกษตรและโน้มน้าวให้ชาวบ้านเข้าร่วม อีกทั้งสนับสนุนสถานประกอบการในการเชื่อมโยงกับประชาชนและสหกรณ์ต่างๆในการจัดทัวร์ท่องเที่ยว”

ทั้งนี้ การปฏิบัติรูปแบบการเกษตรควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชนในจังหวัดเซินลาได้เกิดประสิทธิผลอย่างจริงจัง สอดคล้องกับการพัฒนาในปัจจุบันและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร ส่วนทางการจังหวัดฯได้สร้างสรรค์รูปแบบการบริหารที่สร้างความเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นและบริษัทนำเที่ยวเพื่อพัฒนารูปแบบนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวและสร้างความมั่งคั่งให้แก่เกษตรกร.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด