มหัศจรรย์การปลูกถ่ายอวัยวะระหว่างผู้บริจาคในภาคเหนือกับผู้รับในภาคใต้

(VOVWORLD) - ในหลายปีมานี้ หน่วยงานสาธารณสุขของเวียดนามได้ประสบความสำเร็จอีกขั้นในการปลูกถ่ายอวัยวะ โดยเมื่อเร็วๆนี้ แพทย์ของโรงพยาบาลเจอะไหร้ในนครโฮจิมินห์ ศูนย์ประสานการปลูกถ่ายอวัยวะและโรงพยาบาลเสนารักษ์ส่วนกลาง 108 พร้อมกับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆได้ประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายอวัยวะที่ต้องขนส่งทางไกลจากภาคเหนือสู่ภาคใต้
มหัศจรรย์การปลูกถ่ายอวัยวะระหว่างผู้บริจาคในภาคเหนือกับผู้รับในภาคใต้ - ảnh 1การรออวัยวะที่กำลังถูกส่งมาในโรงพยาบาลเจอะไหร้ (laodong) 

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลเจอะไหร้ในนครโฮจิมินห์ได้ทราบข่าวว่า มีผู้บริจาคอวัยวะที่โรงพยาบาลเสนารักษ์ส่วนกลาง 108 ในกรุงฮานอย โดยอวัยวะบางส่วนถูกนำไปใช้ผ่าตัดปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วยในกรุงฮานอย ส่วนหัวใจและไตถูกส่งไปศูนย์ประสานการปลูกถ่ายอวัยวะแห่งชาติแต่ผลการตรวจตัวอย่างทางการแพทย์พบว่า ผู้ป่วยที่กำลังรอรับบริจาคอวัยวะในภาคเหนือไม่สามารถรับการปลูกถ่ายหัวใจและไตดังกล่าวได้ ในขณะเดียวกัน ทางโรงพยาบาลเจอะไหร้ก็มีผู้ป่วยที่ต้องการปลูกถ่ายอวัยวะโดยทางโรงพยาบาลได้เก็บตัวอย่างเลือดและผลการตรวจสอบอื่นๆแล้วส่งไปยังศูนย์ประสานการปลูกถ่ายอวัยวะแห่งชาติในกรุงฮานอยในคืนวันเดียวกัน ซึ่งในวันถัดมา ทางโรงพยาบาลเจอะไหร้ก็ได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะให้แก่ผู้ป่วยชาย 1 คน อายุ 29ปีจากจังหวัดเตี่ยนยางและผู้ป่วยหญิง 1 คน อายุ 25ปีจากจังหวัดนิงถ่วน ซึ่งเป็นการขนส่งอวัยวะทางไกลสำหรับการปลูกถ่ายครั้งที่ 3 ของโรงพยาบาลเจอะไหร้ แต่เป็นการปลูกถ่ายอวัยวะครั้งแรกระหว่างผู้บริจาคในภาคเหนือกับผู้รับบริจาคในภาคใต้และเป็นการปลูกถ่ายหัวใจครั้งที่ 2 ของโรงพยาบาลเจอะไหร้

การขนส่งอวัยวะจากภาคเหนือไปภาคใต้ถือเป็นสิ่งที่น่ากังวลในการปลูกถ่ายอวัยวะครั้งนี้ เพราะการขนส่งหัวใจและไตจากกรุงฮานอยไปยังโรงพยาบาลเจอะไหร้ในนครโฮจิมินห์รวมระยะทางเกือบ 2 พันกิโลเมตรและการปลูกถ่ายนั้นต้องทำภายในเวลา 6 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อมและการประสานงานที่มีประสิทธิภาพระหว่างโรงพยาบาลที่บริจาคกับโรงพยาบาลที่รับบริจาค ดร. ท้ายมิงเซิม หัวหน้าแผนกไตและระบบทางเดินปัสสาวะของโรงพยาบาลเจอะไหร้ได้เผยว่า“ในตอนแรก เราได้วางแผนขนส่งหัวใจและไตในเที่ยวบินเดียวกัน แต่แพทย์โรงพยาบาลหัวใจบอกว่า หัวใจเป็นอวัยวะแรกที่ถูกตัดออกจากร่างกายผู้บริจาค หลังจากนั้นถึงจะทำการตัดปอดและไตได้ ดังนั้นจึงต้องขนย้ายหัวใจทันที โดยไม่สามารถรอส่งพร้อมอวัยวะส่วนอื่นได้”

สิ่งที่น่าสนใจในการปลูกถ่ายอวัยวะครั้งนี้คือครอบครัวผู้รับบริจาคอวัยวะมีฐานะยากจนมาก โดยผู้ป่วยที่รอรับบริจาคหัวใจกำลังมีอาการป่วยในขั้นรุนแรงหลังจากพลาดโอกาสปลูกถ่ายหัวใจมาแล้ว 2 ครั้ง โรงพยาบาลเจอะไหร้ได้ระดมแพทย์และทีมงาน 30 คนเพื่อเตรียมพร้อมให้แก่การรับบริจาคอวัยวะอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อการบริจาคอวัยวะ

ตามแผนการที่วางไว้ เครื่องบินจะลงจอดที่สนามบินเตินเซินเหยิดในช่วงบ่าย 4 โมง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่การจราจรติดขัด แต่การขนส่งหัวใจจากสนามบินไปยังโรงพยาบาลเจอะไหร้ได้ดำเนินไปอย่างสะดวกโดยใช้เวลาแค่ 15 นาทีเนื่องจากหน่วยงานการบินได้ช่วยลดเวลาการทำระเบียบการต่างๆและมีรถตำรวจวิ่งนำ หลังจากนั้น หัวใจและไตได้เริ่มทำงานในร่างกายผู้รับบริจาคหลังการผ่าตัดปลูกถ่ายเป็นเวลาหลายชั่วโมง ดร.ฝ่ามถิหงอกถาว รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจอะไหร้ได้เผยว่า“พวกเรารู้สึกตื่นเต้นและซาบซึ้งใจมากเมื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ โดยการรออวัยวะที่กำลังถูกส่งมาก็เหมือนการทำงานแข่งกับเวลา การรับบริจาคอวัยวะมักจะมีขึ้นในวันหยุดหรือในวันงานต่าง แต่บรรดาแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพร้อมปฏิบัตินหน้าที่อย่างเต็มที่”

แพทย์หญิงฝ่ามถิหงอกถาวยังย้ำว่า ความสำเร็จของการขนส่งอวัยวะสำหรับการปลูกถ่ายครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการทำงานอย่างโปร่งใสและเปิดเผยของศูนย์ประสานการบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะแห่งชาติ อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของหน่วยงานสาธารณสุขที่ได้รณรงค์ให้ผู้มีใจกุศลสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ผู้ป่วยที่มีฐานะยากจน ปัจจุบัน ผู้ป่วยที่ได้รับบริจาคอวัยวะ 2 คนดังกล่าวสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างแข็งแรง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด