ยกระดับวัฒนธรรมบนเครือข่ายสังคมออนไลน์

(VOVWORLD) -ปัจจุบัน เวียดนามทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่นิยมใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์  ซึ่งแม้เครือข่ายสังคมออนไลน์จะมีข้อดีต่างๆแต่กลับกันก็มีข้อเสียต่อผู้ใช้ไม่น้อย ดังนั้น การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์จะต้องใช้อย่างสร้างสรรค์และขยายผลดีในสังคม ซึ่งเป็นความท้าทายในสภาวการณ์ที่สังคมนับวันยิ่งพัฒนา

ยกระดับวัฒนธรรมบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ - ảnh 1ยกระดับวัฒนธรรมบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ 

เครือข่ายสังคมออนไลน์ช่วยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยมีทั้งบทความ ภาพถ่าย คลิปและ live สตรีม   แต่อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความตระหนักเกี่ยวกับการแชร์ข้อมูลผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์  เช่น  เมื่อเร็วๆนี้ บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีมีผู้เสียชีวิตหลายคนเนื่องจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ  ซึ่งก็มีคนกดไลด์กดแชร์จำนวนมากโดยไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความวิตกกังวลในหมู่ประชามติและทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและแพทย์ต้องออกมาปฏิเสธข้อมูลดังกล่าว “พวกเราขอยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบไวรัสใดที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โดยข้อเท็จจริง ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลายคนเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง จนเสียชีวิต ผมหวังว่า ทุกคนจะตรวจสองข้อมูลก่อนแชร์ ”

ผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์จำนวนมากได้แชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจนส่งผลกระทบต่อส่วนรวม ซึ่งรวมไปถึงการแชร์ข่าวปลอมและข่าวเท็จอีกด้วย อย่างเช่น การโพสต์การแชร์ข้อมูลที่ผิดกฎหมายเวียดนามบน facebook  ซึ่งการสืบกลับเพื่อดูว่าใครเป็นต้นตอของเนื้อหาถือว่า ทำได้ยาก หน่วยงานภาครัฐ รวมทั้ง facebook   ก็ประสบอุปสรรคในการลงโทษผู้กระทำผิดทำให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตหลายคนเข้าถึงข้อมูลเท็จและคลิปวิดีโอที่ไม่เหมาะสม

  “เมื่อเร็วๆนี้ มีการเผยแพร่ภาพถ่ายที่ไม่เหมาะสม นี่เป็นสิ่งที่ไม่ดี”

“ถ้าไม่ห้ามเว็บไซต์นี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม นี่เป็นความรับผิดชอบของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ”

“ดิฉันเคยถูกบัญชีเฟสบุ๊กปลอมขอเงินค่าโทรศัพท์ ดิฉันคิดว่า ภาครัฐต้องปกป้องประชาชนจากบัญชีเฟสบุ๊กปลอม”

ในมติที่ 174 ของรัฐบาล มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการลงโทษในฐานความผิดเกี่ยวกับไปรษณีย์ โทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยองค์การใดที่ละเมิดข้อกำหนดเกี่ยวกับเว็บไซต์ ต้องจ่ายค่าปรับ 5-50 ล้านด่ง ส่วนในกรณีที่เป็นบุคคลต้องจ่ายค่าปรับ2.5 – 25 ล้านด่ง บรรดาผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า ต้องยกระดับจิตสำนึกของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ห้ามใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น เพราะเคยเกิดกรณีคนฆ่าตัวตายเนื่องจากคลิปวิดีโอส่วนตัวถูกเผยแพร่ผ่านทางอินเตอร์เน็ต  นาย เหงวียนหายนามเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และให้การศึกษา กองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ได้แสดงความประสงค์ว่า “ผมมีความประสงค์ว่า พวกเราต้องทำการประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังเพื่อยกระดับจิตสำนึกในการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์และเปลี่ยนแปลงแนวคิดว่า ต้องไม่ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์สร้างผลกระทบให้แก่ผู้อื่น”

ควบคู่กับมาตรการผลักดันการบริหารของสำนักงานภาครัฐ ประชาชนทุกคนต้องมีจิตสำนึกมากขึ้นในการใช้อินเตอร์เน็ต โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตต้องพึงระลึกว่า  การทำผิดทางอินเตอร์เน็ตก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด