สามสไตล์การเขียนยุคมัลติมีเดีย

( VOVworld )-เนื่องในโอกาสการก่อตั้งสถานีวิทยุเวียดนามครบรอบ ๖๙ ปีซึ่งตรงกับวันที่ ๗ กันยายน   ทางสถานีฯได้มอบรางวัล “ ปากกาวีโอวี ” ให้แก่นักข่าวสถานีวิทยุเวียดนามยอดเยี่ยม ๑๗ ท่านได้แก่ นักข่าว ๑๒ ท่านที่เป็นอดีตผู้บริหารสถานีวิทยุเวียดนามและนักข่าวที่มีผลงานเขียนยอดเยี่ยมอีก ๕ ท่านได้แก่ เจิ่น ดัง คัว อวง หงอก เหยิว เจิ่น เหญิต มินห์ โง เถี่ยว ฟอง และฝ่าม จูง เตวี้ยน เนื่องจากมีผลลงานยอดเยี่ยมที่ได้เสนอทางสื่อมัลติมีเดียของสถานีวิทยุเวียดนามที่ได้รับการยกย่องจากผู้ฟัง ผู้อ่านและผู้ชม 



( VOVworld )-เนื่องในโอกาสการก่อตั้งสถานีวิทยุเวียดนามครบรอบ ๖๙ ปีซึ่งตรงกับวันที่ ๗ กันยายน   ทางสถานีฯได้มอบรางวัล “ ปากกาวีโอวี ” ให้แก่นักข่าวสถานีวิทยุเวียดนามยอดเยี่ยม ๑๗ ท่านได้แก่ นักข่าว ๑๒ ท่านที่เป็นอดีตผู้บริหารสถานีวิทยุเวียดนามและนักข่าวที่มีผลงานเขียนยอดเยี่ยมอีก ๕ ท่านได้แก่ เจิ่น ดัง คัว อวง หงอก เหยิว เจิ่น เหญิต มินห์ โง เถี่ยว ฟอง และฝ่าม จูง เตวี้ยน เนื่องจากมีผลลงานยอดเยี่ยมที่ได้เสนอทางสื่อมัลติมีเดียของสถานีวิทยุเวียดนามที่ได้รับการยกย่องจากผู้ฟัง ผู้อ่านและผู้ชม 

สามสไตล์การเขียนยุคมัลติมีเดีย  - ảnh 1
ประธานสถานีวิทยุเวียดนามมอบรางวัล
ปากกาวีโอวีให้แก่อดีตผู้บริหารสถานีฯ

ก่อนหน้านี้ ๑๕ ปี ในโอกาสได้คุยกับนักข่าวเหงียน จู หญาก ซึ่งปัจจุบันเป็นนายกสมาคมนักข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม แต่สมัยนั้นท่านดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการส่วนกระจายเสียงวัฒนธรรมและสังคมของสถานีฯ  เราได้บอกกับท่านจู หญากว่า สถานีฯมีผู้สื่อข่าวรุ่นใหม่ ๓ คนที่มีความสามารถด้านการเขียนล้วนเป็นลูกน้องของท่านทั้งสาม ซึ่งหมายถึงนายเจิ่น เหญิต มินห์ โง เถี่ยว ฟองและนายฝ่าม จูงเตวี้ยน  พวกเขาเป็นผู้สื่อข่าวที่มากความสามารถ โดยสามารถเขียนบทความและเล่าบทความจากห้องส่งจนได้รับความชื่นชอบจากผู้ฟังและสร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขา เวลาผ่านไป สถานีวิทยุเวียดนามได้พัฒนาอย่างรวดเร็วจากกระจายเสียงรูปแบบเดียวได้พัฒนาตามแนวโน้มมัลติมีเดีย โดยมีสื่อทั้ง๔ รูปแบบได้แก่ การกระจายเสียง โทรทัศน์ เว็บไซต์และหนังสือพิมพ์  ส่วนผู้สื่อข่าวทั้งสามคนยังคงมีผลงานทางมัลติมีเดียที่มีลมหายใจของชีวิตจริง สะท้อนปัญหาร้อนๆของสังคมที่ได้รับความสนใจ แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

นักข่าวเจิ่น เหญิต มินห์ที่รับผิดชอบรายการ เวทีปัญหาสังคมได้ใช้ปากกาเขียนบทความและบันทึกเหตุการณ์เชิงวรรณกรรมเพื่อสะท้อนชีวิตสังคมในทุกมุมมอง  นายมินห์ กล่าวว่า  “ บทความแต่ละบท ผมเน้นใช้รูปลักษณ์เชิงวรรณกรรมและแง่มุมวรรณกรรมต่างๆเพื่อทำให้บทความมีความเจาะลึกมากขึ้นและสามารถถ่ายทอดความหมายชัดเจนที่สุด  ผลงานสื่อแต่ละผลงานหากเขียนในเชิงวรรณกรรมจะมีความเจาะลึกและเข้าถึงก้นบึ้งหัวใจของผู้ฟังมากขึ้น

นายโง เถี่ยว ฟอง ดูแลด้านการศึกษาเปิดเผยว่า  “ เมื่อผมศึกษาสิ่งใดสิ่งหนึ่งผมจะศึกษาจนถึงรากเหง้าอย่างละเอียด โดยไม่ศึกษาแบบเผินๆ ผมคิดว่า เราเป็นผู้สื่อข่าวต้องรับข่าวสารและศึกษาในหลายแง่มุมและจากหลายแหล่ง ไม่ใช่อาศัยข้อมูลผ่านรายงานหรือข่าวสารที่เขาส่งมาอย่างเดียว

นายฝ่าม จูง เตวี้ยน ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเองผ่านรายการ คุยกับพวกเราผ่านเสียงหวานของเขากับสารคดีเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของชาวบ้านทั่วประเทศ  นายเตวี้ยนกล่าวว่า  “ สำหรับผม อาชีพสื่อเป็นอาชีพที่ผมชอบ  ผมประกอบอาชีพนี้เพื่อเล่าเรื่องราวและเหตุการณ์ที่พบเห็น  ชีวิตดำเนินไปมีเรื่องราวมากมาย ผมอยากเล่าเรื่อราวเหล่านี้ด้วยลีลาการเขียนของตนเองสู่ผู้ฟังเพื่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกดีๆ   นี่คือเป้าหมายแรกของผมเมื่อคิดจะศึกษาและเขียนเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

สามสไตล์การเขียนยุคมัลติมีเดีย  - ảnh 2
นักข่าวสถานีวิทยุเวียดนามในพิธี
รับมอบรางวัลปากกาวีโอวี

ผู้สื่อข่าวทั้งสามคนมีสไตล์การเขียนการทำข่าวและสีสันข่าวไม่เหมือนกันแต่ได้รับความรักจากผู้ฟังพันธ์แท้ของสถานีวิทยุเวียดนามตั้งแต่ทางสถานีฯมีรูปแบบการกระจายเสียงรูปแบบเดียว ผู้สื่อข่าวสามคนนี้ได้พัฒนาตนเองตามกระแสการพัฒนาของสถานีฯที่มีสื่อมัลติมีเดียทั้ง ๔ รูปแบบได้แก่ การกระจายเสียง โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์และหนังสือพิมพ์  ปัจจุบัน คนเหล่านี้ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆในแต่ละส่วนกระจายเสียงเช่น นายเหญิต มินห์เป็นรองผู้อำนวยการส่วนกระจายเสียงวัฒนธรรม ชีวิตสังคม การศึกษาและวิทยาศาสตร์  นายโงเถี่ยว ฟองเป็นผู้อำนวยการสำนักงานตัวแทนสถานีวิทยุเวียดนามประจำเขตที่ราบแม่น้ำโขง ส่วนายฝ่าม จูง เตวี้ยนเป็นรองผู้อำนวยการโทรทัศน์ช่องรัฐสภาของสถานีฯ  พวกเขามีสิ่งเหมือนกันคือ สร้างสรรค์ผลงานอย่างไม่หยุดยั้งที่มีแรงจูงใจต่อสังคมอย่างกว้างขวาง  ซึ่งนี่ก็คือเป้าหมายของรางวัล ปากกาวีโอวี  นักข่าว จูหญาก นายกสมาคมนักข่าวสถานีวิทยุเวียดนามกล่าวถึงความหมายของรางวัล ปากาวีโอวีว่า  “ นับตั้งแต่ก่อตั้งสถานีวิทยุเวียดนามมาจนถึงปัจจุบัน มีนักข่าวและผู้สื่อข่าวรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้มีส่วนร่วมต่อวงการสื่อมวลชนในด้านสื่อวิทยุ  ดังนั้นต้องการยกย่องผู้สื่อข่าวสถานีฯเหล่านี้  ทางสมาคมได้เสนอรางวัลมอบให้แก่บรรดาผู้ใช้ปากกาทุกๆปี  จากแนวคิดดังกล่าว ทางสมาคมฯได้มีการมอบรางวัลนักข่าวกระจายเสียงดีเด่น  ต่อมาเปลี่ยนเป็นรางวัลผู้สื่อข่าวยอดเยี่ยมของสถานีวิทยุเวียดนามหรือหรือปากกาวีโอวีเพื่อยกย่องบรรดาผู้ที่ประกอบกาชีพสื่อสารของสถานีฯ

ผ่านระยะเวลาก่อตั้งและเติบโตมา ๖๙ ปี สถานีวิทยุเวียดนามกำลังยืนยันฐานะเป็นองค์การสื่อสารมัลติมีเดีย เป็นเสียงของพรรคและรัฐสู่ประชาชนทุกคน  เสนอภาพประเทศเวียดนามที่สันติสุขและชาวเวียดนามมีอัธยาศัยดีต่อแขกที่มาเยือนจากทั่วสารทิศของโลก  ซึ่งนักข่าวและสื่อมวลชนซึ่งเป็นผู้ใช้ปากกากับบรรดาช่าง ผู้ประกาศข่าว นักแสดงและศิลปินจะเป็นปัจจัยสร้างชื่อเสียงให้กับสถานีวิทยุเวียดนามตลอดมาและตลอดไป ./.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด