อาชีพประมงของชาวเกาะลี้เซิน
Lan Anh-VOV5 -  
(VOVworld)- ชาวเกาะลี้เซิน จังหวัดกว๋างหงาย ได้มีความผูกพันกับทะเลมารุ่นแล้วรุ่นเล่าและปัจจุบันนี้พวกเขาก็ยังคงถือว่าการออกทะเลจับปลาคืออาชีพที่หล่อเลี้ยงปากท้องของตนเองและครอบครัว โดยแม้จะลำบากยากเข็ญแต่เมื่อออกเรือสู่ทะเลพวกเขาก็รู้สึกเหมือนได้เข้าสู่โลกของตัวเอง นั่นคือบรรยากาศทะเลอันกว้างใหญ่ ได้ประกอบอาชีพที่ตนถนัดคือการจับปลาและสิ่งหนึ่งที่แม้จะไม่ใช่อาชีพแต่ก็มีความหมายสำหรับทุกคนคือเรือประมงทุกลำเสมือนเป็นหลักพรมแดนเคลื่อนที่เพื่อยืนยันอธิปไตยเขตน่านน้ำของประเทศ
(VOVworld)- ชาวเกาะลี้เซิน จังหวัดกว๋างหงาย ได้มีความผูกพันกับทะเลมารุ่นแล้วรุ่นเล่าและปัจจุบันนี้พวกเขาก็ยังคงถือว่าการออกทะเลจับปลาคืออาชีพที่หล่อเลี้ยงปากท้องของตนเองและครอบครัว โดยแม้จะลำบากยากเข็ญแต่เมื่อออกเรือสู่ทะเลพวกเขาก็รู้สึกเหมือนได้เข้าสู่โลกของตัวเอง นั่นคือบรรยากาศทะเลอันกว้างใหญ่ ได้ประกอบอาชีพที่ตนถนัดคือการจับปลาและสิ่งหนึ่งที่แม้จะไม่ใช่อาชีพแต่ก็มีความหมายสำหรับทุกคนคือเรือประมงทุกลำเสมือนเป็นหลักพรมแดนเคลื่อนที่เพื่อยืนยันอธิปไตยเขตน่านน้ำของประเทศ
|
อาชีพที่สืบทอดกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่าจนกระทั่งรู้สึกว่าในสายเลือดของตัวเองนั้นก็มีกลิ่นอายของทะเล (internet) |
บนเรือที่มีกำลัง100แรงม้าที่ท่าเรือเกาะลี้เซิน นาย เหงวียนวันเขยพร้อมลูกเรือกำลังจัดข้าวของเครื่องใช้และเครื่องมือต่างๆทั้งอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค เกลือและน้ำเเข็ง เป็นต้นเพื่อเตรียมออกทะเล ซึ่งจากประสบการณ์ในการประกอบอาชีพประมงมากกว่า20ปีเขาจึงเข้าใจได้ดีถึงความลำบากของอาชีพนี้โดยเฉพาะชีวิตกลางทะเลนั้นไม่เหมือนบนเเผ่นดินใหญ่และเมื่ออยู่ในทะเลกว้างเราจะมีความรู้สึกว่าตัวเองมีความเข้มแข็งมากขึ้น นายเขยบอกว่า อาชีพประมงนี้ไม่สามารถสร้างความร่ำรวยได้แต่เนื่องจากเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่าจนกระทั่งรู้สึกว่าในสายเลือดของตัวเองนั้นก็มีกลิ่นอายของทะเลที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ อาชีพจับปลาในทะเลนั้นต้องอาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานมิใช่ฝึกทำเพียงวันสองวันจะสำเร็จได้ ผมต้องเรียนรู้ประสบการณ์จากผู้ที่ทำงานก่อนเราเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมในการออกทะเลทุกครั้งเพราะก่อนนี้มีเเค่เข็มทิศนำทางเพียงอันเดียวดังนั้นทุกอย่างจึงเพียงวัดเอาโดยประมาณเท่านั้น แต่เดี๋ยวมีอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ทันสมัยแล้วเราก็สบายใจมากขึ้นในการออกเรือ บริเวณหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลนั้นเป็นแหล่งจับปลาของชาวเกาะลี้เซินมาแต่เนิ่นนาน ซึ่งแม้จะลำบากแต่หากไม่ออกทะเลจับปลาแล้วจะเอาอะไรมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและครอบครัว
|
นับตั้งแต่ต้นปีมานี้ ปริมาณการจับสัตว์น้ำของชาวลี้เซินมีประมาณเป็น2หมื่น6พันตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า186ล้านด่ง(internet) |
สำหรับนาย เหงวียนก๊วกแค้ง แม้ปีนี้จะมีอายุเพียง33ปีแต่ก็มีประสบการณ์ในการจับปลาน้ำลึกกว่า15ปีแล้วซึ่งเขาเผยว่า เขากับเยาวชนรุ่นใหม่บนเกาะได้สัมผัสและได้ทำอาชีพประมงนี้ตั้งแต่เมื่อยังเด็ก ผมเริ่มออกทะเลตอนอายุ15ปี ซึ่งตอนแรกได้ไปร่วมกับคุณพ่อ ปัจจุบันนี้พ่อผมอายุกว่า50ปีแต่ยังคงออกเรืออยู่เหมือนเดิม ส่วนผมเองหลังจากมีครอบครัวก็เริ่มออกทะเลจับปลาเองได้ นายแค้งเผยว่า อาชีพประมงนั้นแม้จะลำบากและมีความเสี่ยงสูงแต่ก็มีหลายอย่างที่ทำให้คนเราต้องหลงไหลโดยเฉพาะเมื่อเห็นตัวเองสามารถฝ่าคลื่นลมไปได้ การพบฝูงปลาใหญ่หรือความรู้สึกของตัวเองที่แม้จะเหมือนแค่ทรายในทะเลแต่กลับมีความแข็งแกร่ง รวมไปถึงความรู้สึกอบอุ่นเมื่อทุกคนได้นั่งล้อมวงดื่มเหล้าและพูดคุยเรื่องชีวิตในอนาคต หรือในยามที่ต้องฝ่ามรสุมคลื่นลมแรง สิ่งที่ทุกคนต่างคิดถึงก็คือครอบครัวและบ้านเกิดเพื่อเพิ่มกำลังใจ เป็นต้น สำหรับนาย บุ่ยวันทึก แม้จะมีประสบการณ์ในประกอบอาชีพประมงมากว่า20ปีแล้วแต่เขายังคงรู้สึกกุ้มใจเมื่อนึกถึงอุปสรรคและความท้าทายที่อันตรายที่รออยู่ในทะเล เราเป็นผู้รับผิดชอบหน้าที่เลี้ยงครอบครัว ขณะที่อยู่ในทะเลหากเจอคลื่นลมแรงก็นึกถึงครอบครัวที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ ที่นั่นมีลูกเมียกำลังตั้งตารอเรากลับบ้าน โดยปกติการออกเรือแต่ละครั้งใช้เวลา15-20วันก็กลับซึ่งก็หมายความว่าทะเลมีความสงบ หากไปนานกว่านี้ที่บ้านจะรู้เลยว่าต้องเจอพายุหรือประสบภัยอะไรสักอย่างในทะเลเเล้ว
|
ปัจจุบันที่อ.เกาะลี้เซินมีเรือประมง420ลำ(internet) |
ปัจจุบันที่อ.เกาะลี้เซินมีเรือประมง420ลำตั้งแต่20แรงม้าขึ้นไปโดยเรือครึ่งหนึ่งที่มีตั้งแต่90แรงม้าขึ้นไปกำลังประกอบอาชีพในเขตทะเลของหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลี่รวมทั้งในอ่าวทะเลตะวันออก นับตั้งแต่ต้นปีมานี้ ปริมาณการจับสัตว์น้ำของชาวลี้เซินมีประมาณเป็น2หมื่น6พันตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า186ล้านด่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ15เมื่อเทียบกับปี2011 รายได้เฉลี่ยของแรงงานคิดเป็นประมาณ5-7ล้านด่งต่อเดือน ซึ่งถึงแม้จะยังประสบความลำบากแต่จากการวางแผนการพัฒนาเป็นอย่างดีพร้อมกับการรวมกันเป็นกลุ่มเพื่อส่งเสริมการช่วยเหลือกันในทะเลก็ได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ทุกคนในการพัฒนาอาชีพประมงต่อไป ชาวเกาะลี้เซินจะไม่โดดเดี่ยวในทะเลกว้างเนื่องจากมีความเอาใจใส่และคอยอยู่เคียงข้างมาตลอดขององค์กร บุคคลและชุมชนบนแผ่นดินใหญ่ที่ช่วยให้กำลังใจทุกคน เเม้จะรู้ว่าอุปสรรคและอันตรายกำลังรออยู่แต่นี่คืออาณาเขตส่วนหนึ่งที่ชาวเวียดนามทุกคนต้องร่วมกันรักษา./.
Lan Anh-VOV5