อาชีพผลิตชาของชาวบ้านตำบลSuối GiàngจังหวัดYên Bái

(VOVWorld) – ตำบลSuối GiàngอำเภอVăn ChấnจังหวัดYên Bái ตั้งอยู่ในความสูงเกือบ๑,๔๐๐เมตรจากระดับน้ำทะเล เมื่อยืนบนยอดเขานี้มองไปรอบๆจะเห็นแต่สีเขียวของชาโดยต้นชาปรากฏทั่วทุกที่  ชาขึ้นตามลานบ้าน อยู่ในสวน ที่เนินสูงหรือบนยอดเขา  สภาพภูมิอากาศที่นี่เหมาะสมสำหรับต้นชาจึงทำให้ผลิตภัณฑ์ชาเขียวSuối Giàngมีกลิ่นหอมบริสุทธ์และมีรสชาติกลมกล่อมสดชื่นจนกลายเป็นชาที่มีชื่อ เสียงทั่วประเทศ อันเป็นการมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่นี่ให้ดีขึ้น


(VOVWorld) – ตำบลSuối GiàngอำเภอVăn ChấnจังหวัดYên Bái ตั้งอยู่ในความสูงเกือบ๑,๔๐๐เมตรจากระดับน้ำทะเล เมื่อยืนบนยอดเขานี้มองไปรอบๆจะเห็นแต่สีเขียวของชาโดยต้นชาปรากฏทั่วทุกที่  ชาขึ้นตามลานบ้าน ในสวน ที่เนินสูงหรือบนยอดเขา  สภาพภูมิอากาศที่นี่เหมาะสมสำหรับต้นชาจึงทำให้ผลิตภัณฑ์ชาเขียวSuối Giàngมีกลิ่นหอมบริสุทธ์และมีรสชาติกลมกล่อมสดชื่นจนกลายเป็นชาที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ อันเป็นการมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่นี่ให้ดีขึ้น

อาชีพผลิตชาของชาวบ้านตำบลSuối GiàngจังหวัดYên Bái - ảnh 1
ต้นชาโบราณ(Photo:Internet)

การปลูกชาที่Suối Giàngต่างกับท้องถิ่นอื่นๆของเวียดนาม เช่น จังหวัดThái Nguyên Phú Thọ และTuyên Quang ที่ต้องดูแลต้นชาเป็นอย่างดี หากชาShan Tuyết ที่ตำบลSuối Giàngพัฒนาตามธรรมชาติโดยไม่มีการแซกแซงของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ดังนั้นชาShan Tuyết จึงมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ มีรสชาติกลมกล่อม ดื่มแล้ว สุดชื่นหลับสบายและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ นายGiàng A Sử ชาวบ้านSuối Giàngเผยว่า “ชาShan TuyếtของSuối Giàng เป็นชาที่ขึ้นตามธรรมชาติจึงปลอดสารพิษ

อาชีพผลิตชาของชาวบ้านตำบลSuối GiàngจังหวัดYên Bái - ảnh 2
ชาขึ้นตามลานบ้าน ในสวน ที่เนินสูงหรือบนยอดเขา (Photo:Internet)

ปัจจุบันทั้งตำบล Suối Giàngมีต้นชาโบราณที่มีอายุตั้งแต่๑๐๐ปีถึง๓๐๐ปีประมาณนับหมื่นต้นโดยเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน มีนักวิทยาศาสตร์รัสเซียคนหนึ่งที่มีโอกาสเดินทางมาที่Suối Giàngต้องอุทานออกมาว่า “ผมได้เดินทางผ่าน๑๒๐ประเทศที่ปลูกชา แต่ไม่เห็นที่ไหนมีชาที่มีอายุเป็นร้อยๆปีเหมือนที่Suối Giàng  ชาที่นี่มีเอกลักษณ์พิเศษมากๆเพราะ ในถ้วยน้ำชาเขียวเพียงถ้วยเดียวก็รวม๑๘รสชาติชั้นเยี่ยมของชาในทั่ว โลก”  จากข้อมูลรวบรวมเบื้องต้น ปัจจุบัน เวียดนามมีพื้นที่ปลูกชาShan Tuyết๔หมื่นเฮกตาร์ คิดเป็นร้อยละ๓๐ของพื้นที่ชาทั่วประเทศซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่เขตเขาสูงทางภาคเหนือ เช่น จังหวัดHà Giang Yên Bái Sơn La Lào Cai Lai Châu และPhú Thọ แต่ ชาSan Tuyếtที่Suối Giàngถือว่า มีกลิ่นหอมและมีรสชาติพิเศษที่สุด แถมยังเป็นพืชที่สร้างรายได้หลักให้แก่ชาวบ้าน นาย Giàng A Sử เผยต่อไปว่า“ครอบครัวที่มีพื้นที่ชามากที่สุดก็ประมาณ๔เฮกตาร์และน้อยที่สุดประมาณ๑เฮกตาร์  ครอบครัวผมมี๔เฮกตาร์ รายได้ครึ่งหนึ่งมาจากชาซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่มีมูลค่าสูง  สร้างรายได้ดีกว่าอาชีพอื่นๆ เช่น ครอบครัวผม ทุกปีมีรายได้จากชาคิดเป็นประมาณ๑๕ถึง๒๐ล้านด่งจากการขายยอดชาสด บวกกับรายได้จากข้าวโพด มันเทศ และการเลี้ยงสัตว์ ชีวิตก็พอกินพอใช้” 

อาชีพผลิตชาของชาวบ้านตำบลSuối GiàngจังหวัดYên Bái - ảnh 3
ในถ้วยน้ำชาเขียวเพียงถ้วยเดียวก็รวม๑๘รสชาติชั้นเยี่ยมของชาในทั่ว โลก(Photo:Internet)

ยอดชาสดShan Tuyết ที่Suối Giàng มีขนาดเท่ากับเม็ดถั่วที่ยังปกคลุมด้วยปุยขนอ่อนสีขาว ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว เมื่อนำไปชง น้ำชาออกไปเป็นสีขาวอมเขียวอ่อนๆและมีกลิ่นหอมเจือจาง เพื่อให้ได้ชาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีต้องผ่านขั้นตอนต่างๆที่ซับซ้อนตั้งแต่การเก็บใบจนถึงการอบแห้งเนื่องจากชาShan Tuyết ขึ้นกระจัดกระจายในเขตเขาสูงอันกว้างใหญ่ ดังนั้น การเก็บใบชาจึงมีความลำบากโดยต้องเก็บใบชาตั้งแต่เช้าตรู่ซึ่งเป็นช่วงที่แต่ละยอดชาจะมีรสชาติดีที่สุด เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นมา กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงจะทำให้ชามีรถขมและ กลิ่นหอมก็ลดลง สำหรับการเก็บยอดชาก็ต้องมีเทคนิค เวลาเก็บชาก็มีความสำคัญ ถ้าเก็บชาเร็ว๓วัน ชาก็เหมือนทรัพย์สินที่มีค่า แต่ถ้าเก็บช้ากว่า๓วัน ชามีค่าเป็นเพียงพืชชนิดหนึ่งเท่านั้น  นายGiàng A Dí ผู้ผลิตชากล่าวว่า“ผมมีต้นชาประมาณ๓๐๐ต้นในพื้นที่เกือบ๑เฮกตาร์ ต้นชาที่มีอายุมากที่สุดประมาณ๓๐๐ปีและอายุน้อยที่สุดประมาณ๕ปี ผมเป็นรุ่นที่๓ในครอบครัวที่ผลิตชา แต่ละฤดู สองสามีภรรยาผมต้องใช้เวลา๑สัปดาห์เพื่อเก็บชา ผมตื่นตั้งแต่ตี๕  และต้องเก็บชาตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อยังมีน้ำค้างบนชา เก็บจนถึงเวลาประมาณ๑๐โมงเช้า”       นายGiàng A Dí กล่าวว่า อยากให้ราคาชาเพิ่มขึ้นเพื่อให้รายได้จากชาสูงขึ้นและชาวบ้านจะพยายามอนุรักษ์ต้นชาโบราณ พร้อมรักษาเครื่องหมายการค้ากับชื่อเสียงของชาSuối Giàng ให้ยั่งยืนตลอดไป./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด