ศาลาเตินจ่าว

หมู่บ้านกิมลอง(Kim Long) ตำบลเตินจ่าว(Tan Trao) อำเภอเซินเยือง(Son Duong) จังหวัดเตวียนกวาง เป็นสถานที่จัดการประชุมสมัชชาใหญ่ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 16-17 สิงหาคม ปี1945 เพื่อตัดสินใจเรื่องการลุกขึ้นต่อสู้เพื่อยึดอำนาจรัฐในทั่วประเทศ

นายหว่างหงอก(ตรงกลาง)

ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงเดือนสิงหาคมปีนั้น นายหว่างหงอก(Hoang Ngoc) มีอายุเพียง 9 ขวบ เป็นสมาชิกของกองยุวชนกู้ชาติพร้อมประชาชนกิมลอง (Kim Long) ได้มาร่วมแสดงความยินดีต่อการประชุมและเป็นสักขีพยานในพิธีปล่อยแถวกองกำลังลุกขึ้นสู้ใต้ร่มไทร เตินจ่าวซึ่งความทรงจำเกี่ยวกับวันงานที่สำคัญในอดีตนั้นยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของนายหว่างหงอก“ผมยังจำได้ดีว่าตอนที่เราออกมาร่วมแสดงความยินดีต่อการประชุม ลุงโฮก็เดินมาทักทายและแสดงความขอบคุณชาวบ้านกิมลองที่สนับสนุนการปฏิวัติ เมื่อเห็นเด็กๆยืนอยู่แถวหน้ารวมทั้งผมซึ่งตัวผอมมากเสื้อผ้าที่ใส่ก็มีทั้งรอยขาดรอยปะ ลุงโฮก็ลูบหัวเด็กสองคนรวมทั้งผมด้วยความเอ็นดู แล้วบอกกับที่ประชุมว่าเราต้องพยายามทำให้เด็กๆ เหล่านี้มีข้าวกินมีเสื้อผ้าใส่และได้เรียนหนังสือ บ่ายวันนั้น ทุกคนยืนเข้าแถวใต้ต้นไทรนี้ หลังจากร้องเพลง "Tien Quan Ca"คุณลุงหวอเหงวียนยาปก็อ่านคำสั่งทหารฉบับแรกแล้วเปล่งคำสาบานให้ทุกคนร่วมพูดตามให้ดังกังวาล ต่อจากนั้นมีการยิงปืน3นัดเพื่อเป็นสัญญาณการเดินทัพมุ่งหน้าไปยังเมืองเอกของจังหวัดท้ายเหงวียน

นักเขียนอาวุโส นงเวียดตว๋าย

นักเขียนอาวุโส นงเวียดตว๋าย ปีนี้อายุ 97 แล้ว แต่เมื่อได้ถามถึงช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของชาวบ้าน เงินเซิน จังหวัดบั๊กก๋านนั้น ท่านก็ยังแสดงความซาบซึ้งตรึงใจมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาและชาวบ้านได้เห็นขบวนกองทัพทหารที่เคลื่อนทัพไปปลดปล่อยท้องถิ่นต่างๆ โดยตั้งแต่วันที่20-22สิงหาคมปี1945 กองกำลังลุกขึ้นสู้และประชาชนบั๊กก๋านได้เคลื่อนขบวนไปยึดอำนาจควบคุมสำนักงานต่างๆในตัวเมืองและยุติระบบการบริหารของรัฐบาลหุ่นเชิดของญี่ปุ่น ถึงวันที่23สิงหาคม บั๊กก๋านได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์“ตอนนั้นผมเป็นเจ้าหน้าที่ในกลุ่มรณรงค์เผยแพร่เกี่ยวกับการต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นประจำที่อ.เงินเซิน จังหวัดบั๊กก๋าน พี่น้องในกลุ่มเราได้สอนเพลงสั้นๆ เพียง 5-10 บรรทัด ที่พูดถึงการล่มสลายของฟาสซิสต์ญี่ปุ่น เช่น“พร้อมใจเสียสละ ร่วมกันก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อมาใต้ร่มธงชัย”

เวียดบั๊ก คือถิ่นกำเนิดหล่อเลี้ยงขบวนการปฏิวัติ มีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ทางการเมืองและการทหาร จึงเป็นที่สนใจของทั้งนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและฟาสซิสต์ญี่ปุ่นในการมุ่งเน้นสร้างระบบกลไกการบริหารปกครอง และแม้จะต้องอยู่ภายใต้แอกปกครองของนักล่าอาณานิคม จักรวรรดินิยม และระบอบศักดินามานานหลายปีแต่ขบวนการปฏิวัติในท้องถิ่นเหล่านี้ยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังจากประชาชนนักเขียนอาวุโส นงเวียดตว๋าย เล่าอีกว่า “ตอนนั้นเราก็ขาดแคลนหลายอย่างแต่พร้อมสนับสนุนการปฏิวัติอย่างเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสารอาหารแห้งหรือเสื้อผ้า ใครสามารถสนับสนุนอะไรก็สนับสนุน ซึ่งเป็นจิตใจแห่งการปฏิวัติที่เป็นธรรมชาติและจริงใจ”

นาย หวอจ๋องโกน

จากความเห็นพ้องร่วมแรงร่วมใจของประชาชนทุกหมู่เหล่าทุกชนเผ่าในเวียดบั๊กภายใต้การนำของแนวรบเวียดมินห์ ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมจนถึงวันที่ 24 และ 25 สิงหาคม ผู้คนในท้องถิ่นต่างๆในจังหวัดเตวียนกวาง ท้ายเหงวียน บั๊กก๋าน กาวบั่ง ได้ลุกฮือพร้อมกันเพื่อยึดอำนาจการปกครองท้องถิ่น เป็นอันว่าภายหลังต้องอยู่ภายใต้ระบอบศักดินามานับพันปีและต้องทนความทุกข์ทรมานเกือบ 80 ปี ชาวเวียดนามก็สามารถยึดคืนสิทธิการเป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง นาย หวอจ๋องโกน อายุ 87 ปี แขวงเหิบยาง จังหวัดกาวบั่ง กล่าวว่า “วันปฏิวัติเดือนสิงหาคมเป็นวันงานที่สำคัญและมีความปลึ้มปิติยินดีอย่างยิ่ง ตั้งแต่ผู้สูงอายุไปจนถึงคนหนุ่มสาวต่างก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกำลังได้สวมเสื้อผ้าใหม่ นับตั้งแต่ขบวนการปฏิวัติประสบผลสำเร็จ ประเทศของเราก็ได้รับเอกราช ประชาชนทั่วประเทศโดยเฉพาะประชาชนกาวบั่งสามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างอิสระเสรี มีความไว้วางใจต่อการนำของพรรคและลุงโฮอย่างเต็มที่ เราซาบซึ้งในส่วนอุทิศของลุงโฮ ผู้นำที่ปรีชาสามารถของประเทศ”

 78 ปีที่ผ่านไป ถิ่นปฏิวัติเวียดบั๊กปัจจุบันได้มีรูปลักษณ์ใหม่และมีความทันสมัย ชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนแปลงทุกวัน โดยกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในเขตเวียดบั๊กมีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนสำคัญต่อผลสำเร็จของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมรวมถึงชัยชนะในสงครามต่อต้านผู้รุกรานที่ยาวนานของชาติ สมกับความไว้วางใจของลุงโฮที่ว่า การปฏิวัติประสบความสำเร็จเพราะมีจุดเริ่มต้นที่เวียดบั๊ก แล้วสงครามต่อต้านผู้รุกรานก็จะบรรลุชัยชนะเพราะเวียดบั๊ก./.