(VOVworld)- ปัจจุบัน ที่จังหวัดบ่าเหรียหวุงเต่ามีผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษส้มกว่า3พันคน โดยเป็นเด็กที่ต่ำกว่า16ปีรวม620คน ซึ่งเด็กเหล่านี้ต่างมีความพิการหรือมีโรคประจำตัวตั้งแต่แรกเกิดไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ พิการทางร่างกายและสมองส่วนครอบครัวของพวกเขาก็ล้วนแต่มีฐานะยากจน ดังนั้นเพื่อนำมาซึ่งชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่เด็กเหล่านี้  นับตั้งแต่ปี2008 สมคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มจังหวัดได้ริเริ่มโครงการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจและผ่าตัดฟื้นฟูสมรรถภาพให้แก่เด็กๆซึ่งได้ช่วยสร้างความหวังในชีวิตที่สดใสให้แก่เด็กผู้เคราะห์ร้ายหลายคน

โครงการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจและผ่าตัดฟื้นฟูสมรรถภาพให้แก่เด็กๆซึ่งได้ช่วยสร้างความหวังในชีวิตที่สดใสให้แก่เด็กผู้เคราะห์ร้ายหลายคน(Internet)

ครอบครัวคุณ เตริ่นทิแทงเหี่ยน อยู่ที่แขวง12 นครหวุงเต่าเป็นหนึ่งในครอบครัวที่ยากจนเป็นพิเศษ โดยตัวเธอเองพร้อมกับลูกสาว2คนต่างได้รับผลร้ายจากสารพิษสีส้มที่สืบเนื่องมาจากคุณพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งลูกสาวคนเล็กชื่อ เตริ่นทิแทงเฮือง ก็ป่วยเป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรงตั้งแต่แรกเกิดและสุขภาพก็ยิ่งแย่ลงทุกวัน ทั้งครอบครัวอาศัยรายได้จากการขายข้าวแกงจึงไม่มีเงินพอที่จะส่งลูกไปรักษาที่มีค่าใช้จ่ายกว่า60ล้านด่ง  แต่โชคดีที่เมื่อปี2008 ครอบครัวของเธอได้เป็นหนึ่งในครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มที่ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมดให้แก่เฮืองจากสมาคมผู้เคราะห์ร้ายของจ. และหลังจากเข้ารับการรักษาสุขภาพของเฮืองก็ค่อยๆดีขึ้นและเฮืองก็มีผลการเรียนที่ดีในชั้นป.1 และป.2 คุณเหี่ยนเผยว่าก่อนนี้ เธอก็ไม่แข็งแรงนัก ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย แต่หลังจากได้รับการผ่าตัดและรักษา ก็มีสุขภาพดีขึ้นมาก ซึ่งเห็นลูกแข็งแรงขึ้นเราก็ดีใจ อีกอย่างก็ช่วยให้ครอบครัวลดความลำบากได้ส่วนหนึ่ง การที่ได้เห็นลูกของตนมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นและได้มีโอกาสไปโรงเรียนกับเพื่อนๆก็ถือเป็นความสุขอย่างเปี่ยมล้นของคุณ เหงวียนทิเตวี๊ยดอยู่ที่อ.เซวียนหมก  ซึ่งเนื่องจากได้รับผลร้ายจากสารพิษสีส้มที่ถ่ายทอดจากคุณตา ลูกสาวของเธอก็พิการแขนและขาตั้งแต่กำเนิดโดยมือและเท้าสั้นกว่าปกติ ส่วนนิ้วเท้าก็ติดกันด้วย แต่หลังจากได้รับการผ่าตัดสามครั้งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อาการก็ดีขึ้น ซึ่งคุณเตวี๊ยดบอกว่า โครงการผ่าตัดฟื้นฟูสมรรถภาพได้ช่วยนำชีวิตใหม่มาให้แก่ลูกของเธอ       ตอนอายุ4ขวบ เราพาลูกไปทำการผ่าตัดครั้งแรกโดยเสียค่าใช้จ่าย4ล้านด่งส่วนการผ่าตัดครั้งต่อมาก็ไม่ได้เสียเงิน เดี๋ยวนี้แขนขาเริ่มตอบสนองได้ไวเหมือนเด็กทั่วไปแล้ว ซึ่งเห็นแพทย์ผ่าตัดให้ลูกสำเร็จ เราก็ดีใจเป็นอย่างมาก

สำหรับเด็กที่โดนสารพิษสีส้มที่ป่วยเป็นโรคหัวใจหรือพิการร่างกายนั้น การผ่าตัดถือเป็นการรักษาที่ดีที่สุดเพื่อช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายของการผ่าตัดแต่ละครั้งค่อนข้างสูงคืออยู่ที่ประมาณ30-150ล้านด่ง ซึ่งครอบครัวของเด็กเหล่านี้มักจะมีฐานะยากจนไม่สามารถส่งลูกไปรักษาได้จนมีเด็กจำนวนมากต้องทนความปวดร้าวทางร่างกายไปตลอดชีวิต  แต่หลังจากมีการเปิดโครงการผ่าตัดฟรีให้แก่เด็กผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มพร้อมกับการช่วยเหลือของโรงพยาบาลบ่าเหรียหวุงเต่า โรงพยาบาลเด็กหมายเลข2และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยการแพทย์นครโฮจิมินห์ก็มีเด็ก85คนได้รับการช่วยเหลือรวมมูลค่า3.3พันล้านด่ง โดยเด็กร้อยละ90สามารถใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติทั่วไปนาย เหงวียนวันเญิน นายกสมาคมผู้เคาระห์ร้ายจากสารพิษสีส้มจังหวัดหบ่าเหรียหวุงเต่าเผยว่าอาจกล่าวได้ว่าโครงการนี้ประสงความสำเร็จเกินความคาดหวังโดยมาจากสาเหตุสำคัญสองอย่างคือ ความมุ่งมั่นของสมาคมที่ปรารถนาให้เด็กเหล่านี้ได้รับการรักษาโดยเฉพาะเด็กที่ป่วยเป็นโรคหัวใจหากได้รับการผ่าตัดรักษายิ่งเร็วยิ่งดี ซึ่งทางสมาคมจึงเปิดการรณรงค์และย้ำถึงความหมายของโครงการเพื่อให้ผู้ที่มีใจกุศลรับทราบและให้การสนับสนุนและโครงการก็ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางในสังคม.

ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน ทางสมาคมได้ทำการรณรงค์เรี่ยไรเงินได้กว่า1.8พันล้านด่ง  ร่วมกับโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ต่างๆในจังหวัดทำการตรวจสอบเพื่อคัดเลือกเด็กกว่า150คนที่จะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดที่นครโฮจิมินห์ ซึ่งทางสมาคมก็หวังว่านับวันจะมีผู้ที่มีใจกุศลให้ความสนใจและร่วมมือสนับสนุนโครงการนี้มากขึ้นเพื่อให้เด็กผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มที่เหลืออีกจำนวนมากได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและอยู่ในสังคมได้ตามปกติ./.