แนวโน้ม e-payment ในเวียดนาม

(VOVWORLD) -ในเวียดนาม โดยเฉพาะ ในตัวเมืองใหญ่ การชำระค่าสินค้าและบริการโดยไม่ใช้เงินสดหรือ e-payment ได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากประหยัดเวลา ค่าใช้จ่ายและมีความปลอดภัย ส่วนผู้ให้บริการ e-payment ก็ได้นำเสนอรูปแบบ e-payment ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการและสำนักงานต่างๆ ในการรับชำระค่าสินค้าและการบริการ ซึ่งเป็นแนวโน้มของตลาดการเงินในปัจจุบัน

แนวโน้ม e-payment ในเวียดนาม - ảnh 1การชำระค่าสินค้าและบริการโดยไม่ใช้เงินสดหรือ e-payment ได้รับความนิยมมากขึ้น (Photo: TTXVN)

ตามตัวเมืองใหญ่ๆของเวียดนาม คนรุ่นใหม่จำนวนมากนิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ โดยไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศหรือฝากคนอื่นซื้อให้ โดยการจ่ายเงินนั้นก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยการจ่ายผ่านบัตรเครดิต

ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้ที่ซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านทางอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือก็นับวันเพิ่มมากขึ้น ประชาชนในตัวเมือง โดยเฉพาะ คนรุ่นใหม่มีความคุ้นเคยกับการจ่ายเงินด้วย E-Wallet  ไม่ว่าจะเป็นค่ากาแฟ ค่าไฟ หรือค่าแท็กซี่ ยกตัวอย่างเช่น Momo คือผู้ให้บริการ E-Wallet ที่มีลูกค้ากว่า 12 ล้านคน และมีร้านค้าที่เข้าร่วมกว่า 1 แสนแห่ง โดยทาง Momo ได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อเพิ่มจุดรับชำระด้วย E-Wallet  เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ นาย เหงวียนบ๊าเหยียบ รองประธานบริษัทE-Wallet Momoได้เผยว่า “การเปลี่ยนแปลงความเคยชินของผู้บริโภคไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเราดีใจเป็นอย่างมากเพราะปัจจุบัน จำนวนบริษัทที่ให้บริการ E-Wallet เพิ่มขึ้นและรัฐบาลก็สนับสนุนเรื่องนี้ พวกเราได้เริ่ม E-Wallet Momo เมื่อ 10 ปีก่อนและจนถึงปัจจุบันเมื่อร่วมมือกับหุ้นส่วนใด พวกเขาก็ให้การสนับสนุน”

ในแนวโน้มดังกล่าว ธนาคารต่างๆก็เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจบัตรเครดิต  ผ่านโปรโมชั่นต่าง ๆ เช่น การคืนเงิน ค่าธรรมเนียมบัตรฟรีในปีแรก ร่วมมือกับร้านอาหาร โรงแรมและบริษัทนำเที่ยวลดราคาค่าอาหารและบริการเมื่อชำระผ่านบัตรเครดิต

สำหรับธนาคาร VP Bank นอกจากการเพิ่มจำนวนลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตแล้ว ทางธนาคารยังจัดทำช่องทาง E-payment เพื่อให้บริการ นาง เลถิเหยียมเฟือง ผู้อำนวยการกลุ่มสถานประกอบการขนาดย่อมและขนาดเล็กของธนาคาร VP Bank ได้เผยว่า “สำหรับสถานประกอบการในปัจจุบัน การบริหารเงินสดต้องเสียค่าใช้จ่ายร้อยละ 4.7 – 15 ในการใช้จ่ายและการสั่งซื้อสินค้าของสถานประกอบการบนพื้นฐานการวิเคราะห์อุปสรรคและความท้าทาย พวกเราได้เสนอมาตรการที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถจ่ายเงินช้าได้ ส่วนผู้ขายสามารถรับเงินได้อย่างรวดเร็ว”

ตามข้อมูลสถิติ ในปี 2018 ตัวเลขการชำระระหว่างธนาคารของเวียดนามผ่านระบบ e-payment มีมูลค่า 7 หมื่น 3 พันล้านล้านด่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และมูลค่าการชำระผ่านระบบ mobile- banking เพิ่มขึ้นร้อยละ 169.5เมื่อเทียบกับปี 2017 ผลการสำรวจของบริษัทหุ้นส่วนจำกัด PwC ใน 27 ประเทศปรากฎว่า เวียดนามเป็นตลาดที่มีอัตราการขยายตัวของ mobile-banking มากที่สุด โดยมีผู้ใช้บริการอยู่ที่ร้อยละ 37 - 61

ถ้าหากผลักดันให้มีการใช้ e-payment ในบริการสาธารณะ เช่น สาธารณสุขและการศึกษา นอกเหนือจากการจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ เหมือนในปัจจุบัน แน่นอนว่า อัตราการใช้ e-payment จะเพิ่มสูงขึ้น โดยภาครัฐจะได้รับประโยชน์จากรูปแบบการชำระดังกล่าว โดยเฉพาะในด้านความโปร่งใส และความสะดวกในการเข้าถึงบริการของธนาคารและด้านการเงินของประชาชนทุกคน รองนายกรัฐมนตรี เวืองดิ่งเหวะได้เผยว่า“ต้องผลักดัน e-payment โดยเร็ว เพื่อช่วยลดช่องว่างกับประเทศต่างๆในภูมิภาค มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาการบริการ พวกเราต้องระบุ e-paymentในยุทธศาสตร์การเงินในทุกด้าน เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการนี้”

การผลักดัน e-payment เพื่อมุ่งสู่สังคมที่ไม่ใช้เงินสดเป็นแนวโน้มการพัฒนาในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 มีส่วนช่วยผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ช่วยเหลือการปฏิบัติยุทธศาสตร์การเงินในทุกด้าน เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการให้บริการของธนาคารพาณิชย์.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด