ตลาดนัด จวง เปิดปีละ1ครั้งในวันตรุษเต๊ตที่6เดือนอ้ายตามจันทรคติ(internet)

ตลาดนัด จวง เปิดปีละ1ครั้งในวันตรุษเต๊ตที่6เดือนอ้ายตามจันทรคติ ไม่มีไครทราบว่าตลาดนัดนี้มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ตามเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้าน ในสมัยกษัตริย์เลเหลย ช่วงศตวรรษที่15 ในวันตรุษเต๊ตที่6มีนายพลคนหนึ่งพร้อมเหล่าทหารกำลังถูกกองกำลังศัตรูไล่ตามผ่านมาแถวนี้ นายพลคนนั้นก็ได้สั่งให้ทหารปลอมตัวร่วมกับชาวบ้านจัดตลาดนัดขึ้นเพื่อรอถึงจังหวะออกมาโจมตีศัตรูและในที่สุดก็สามารถเอาชนะได้ นับตั้งแต่นั้นมาตลาดนัดวันที่6ของตรุษเต๊ตก็ได้กลายเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตราบเท่าทุกวันนี้เพื่อรำลึกถึงชัยชนะในการสู้รบสมัยก่อน โดยตอนแรกะมีการจัดกิจกรรมละเล่นพื้นเมืองต่างๆรวมทั้งการแสดงศิลปะการป้องกันตัวหรือการแข่งขันมวยปล้ำเพื่อเชิดชูสปิริตนักกีฬา ต่อมาก็ได้กลายเป็นประเพณีของท้องถิ่นคือการตีกันแบบล้อเล่น นางฟานทินัม ชาวบ้านดงหว่างเล่าว่าการซื้อขายไม่ใช่กิจกรรมหลักของตลาดนัด จวง หากทุกคนที่มาเที่ยวตลาดต้องทำตามประเพณีคือเข้ามาตีกันสักหน่อยเพื่อเป็นการแสดงพลังที่เข้มแข็งและเป็นการไกล่เกลี่ยทุกความขัดแย้ง หากเป็นฝ่ายชนะก็จะมีสุขภาพแข็งแรงและโชคดีตลอดปี

ที่นี่ขายของหลายอย่างแต่มากที่สุดคือขายผัก(internet)

ตลาดนัด จวง  จัดกลางแจ้งในที่กว้างบริเวณริมฝั่งแม่น้ำหว่าง ไม่มีการขายของที่หรูหราราคาแพงหากเป็นสินค้าเกษตรประจำถิ่น อาหารพื้นเมืองและของเล่นที่ชาวบ้านทำเอง ซึ่งคุณเหงวียนทิเหมียน เเม่ค้าคนหนึ่งเผยว่า ที่นี่ขายของหลายอย่างแต่มากที่สุดคือขายผัก ขนมและของเล่นเด็ก นอกจากนี้ตลาดก็เป็นที่นัดพบของหนุ่มสาวในท้องถิ่นที่มาสังสรรค์ทำความรู้จักกันและหาคู่ ตั้งแต่เช้าตรู่ หนุ่มสาวจากหมู่บ้านหลายแห่งได้พากันมาเที่ยวตลาดและเข้าร่วมกิกรรมการละเล่นพื้นเมืองต่างๆโดยเฉพาะการปามะเขือเทศหรือสิ่งของที่นิ่มๆใส่กันเพื่อเป็นการรับโชคปีใหม่ ซึ่งหากใครโดนมากที่สุดก็ถือว่าปีนี้โชคดี และถึงแม้ผู้คนไปเที่ยวตลาดกันอย่างหนาแน่นแต่ก็ไม่เกิดปัญหาความวุ่นวายหรือมีใครได้รับบาดเจ็บ นาย โห่กิมโทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมของต.ดงหว่างเผยว่า    ตลาดนัดนี้เสมือนเป็นเทศกาลแห่งวัฒนธรรม เป็นโอกาสสังสรรค์อย่างสนุกสนานของชาวบ้าน ส่วนการตีกันก็เป็นเพียงพิธีการตามประเพณีเพื่อสร้างความเพลิดเพลินในช่วงปีใหม่

บรรยากาศที่สนุกสนานรื่นเริงของตลาดได้ช่วยให้จิตใจสงบสุข(internet)

แม้จะเป็นประเพณีที่เรียบง่ายแต่ชาวบ้านได้พยายามอนุรักษ์และสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง ไปตลาดต้นปีใหม่ก็เพื่อพบปะสังสรรค์กัน ลิ้มลองอาหารที่อร่อยๆและซื้อของขวัญมอบให้กันเพื่อความเป็นศิริมงคล ตลอดจนเพื่อแสดงความกตัญญูต่อผู้หลักผู้ใหญ่หรือพ่อแม่โดยการซื้อของที่ดีๆเป็นของฝากให้แก่ทุกคนในครอบครัวด้วย บรรยากาศที่สนุกสนานรื่นเริงของตลาดได้ช่วยให้จิตใจสงบสุขและทุกคนที่มีโอกาสไปเที่ยวตลาดแห่งนี้ต่างสัญญากับใจว่าจะต้องกลับมาในปีหน้า./.