Pam Air คือแอพพลิเคชั่นตรวจสอบคุณภาพของอากาศ เป็นผลงาน “ Make in Vietnam” ที่ผลิตโดยบริษัทสตาร์ทอัพ D&G และศูนย์นวัตกรรม IoT Innovation Hub ซึ่งใช้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 โดยขณะนี้ได้ใช้วัดมลพิษทางสภาพอากาศในสถานที่ 150 แห่งใน 30 จังหวัดและนครทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดสรรแผนที่คุณภาพอากาศในเวียดนามแบบ real time ดังนั้น ลูกค้าสามารถใช้แอพนี้เพื่อติดตามคุณภาพของอากาศผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกและมีราคาที่ถูกกว่าวิธีการวัดแบบเก่า นาง เหงียนทูหว่าย ลูกค้าในกรุงฮานอยให้ข้อสังเกตว่า “แอพนี้มีจุดแข็งต่างๆ เช่น สามารถวัดมลพิษในหลายระดับและอัพเดทคุณภาพของอากาศแบบ real time ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปกป้องสุขภาพได้ดีที่สุด”

เมื่อเร็วๆนี้ แอพ Pam Air ของสตาร์ทอัพเวียดนามได้รับรางวัลที่ 1 ในการประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศเอเชีย – แปซิฟิกปี 2019 นาย หว่างหยุง ผู้อำนวยการบริษัท D&L เผยว่า “ประชาชนสามารถใช้แอพ Pam Air เพื่อหาตรวจดูคุณภาพอากาศในสถานที่ต่างๆได้ เราได้ใช้อุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ผลิตเองเพื่อรวบรวมและอัพเดทข้อมูลคุณภาพอากาศช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่า คุณภาพอากาศรอบตัวเราเป็นอย่างไรเพื่อจะได้หาทางรักษาสุขภาพ”

อีกบริการที่น่าสนใจคือบริการแชร์การเดินทางของ dichung.vn ของบริษัทหุ้นส่วน Di chung ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ออกไซด์เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งลูกค้าสามารถใช้บริการได้ผ่านทางเว็บไซต์หรือบน mobile นาย เหงียนแถ่งนาม ผู้อำนวยการฝ่ายบริการของบริษัทฯ เผยว่า               “การแชร์การเดินทางมีประโยชน์มาก ซึ่งไม่เพียงแต่ลดค่าเดินทางเท่านั้น หากยังช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมในเวียดนามอีกด้วย”

ในด้านการเกษตร Green List ซึ่งเป็นแอพบริหารจัดการรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติผ่านสมาร์ทโฟน โดยอาศัยข้อมูลความชื้นของดิน อุณหภูมิ แสงอาทิตย์และสามารถตรวจดูการทำงานได้ผ่านทางกล้องวงจรปิด นาย หวูซวนลิงห์ ผู้คิดค้นแอพ Green List เผยว่า               “ผมอยากพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรในเวียดนาม จึงคิดว่า หาทางทำให้การผลิตเกษตรเป็นเรื่องง่ายและสะดวกที่สุดผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนั้น ผมจึงได้คิดค้นแอพนี้ขึ้นมา”

Pam Air, dichung.vn และ Green List… เป็นตัวอย่างของโครงการสตาร์ทอัพที่ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเวียดนาม โดยยุทธศาสตร์การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเวียดนามถึงปี 2020 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2050 เน้นผลักดันและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อช่วยให้สถานประกอบการขยายตัวอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นี่คือตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพสำหรับสถานประกอบการสตาร์ทอัพที่ดำเนินการตามแนวทางใช้เทคโนโยยีเพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.