สถานที่ผลิตและประกอบธุรกิจกาแฟ Arabica – Catimor เหลือง Yũ M’nang ในตำบล Đạ Sar อำเภอหลากเยือง

ในเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่การผลิตและจัดสรรผลิตภัณฑ์กาแฟ Arabica – Catimor เหลืองภายใต้เครื่องหมายการค้า Langbiang ตามขั้นตอนการผลิตแบบครบวงจรของธุรกิจครัวเรือนต่างๆในอำเภอหลากเยืองยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่น นาง K’Chăm เจ้าของกิจการเผยว่า ผลสำเร็จนี้มาจากการที่ธุรกิจครัวเรือนของเธอได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการผลิตทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบ การผลิตและการจำหน่ายในตลาด

“การเปลี่ยนมาเป็นการผลิตกาแฟแบบครบวงจรแทนการผลิตแบบเก่าที่ขายแต่เมล็ดกาแฟสดให้แก่พ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหางานทำในครอบครัวและในท้องถิ่น เราผลิตกาแฟตามใบสั่งซื้อจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการจำหน่าย ส่วนรายได้ก็สูงกว่าการผลิตสินค้าการเกษตรอื่นๆ”

นาย Cill Poh รองประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอหลากเยืองเผยว่า เพื่อขยายผลรูปแบบนี้ต่อไป นอกจากผลักดันการฝึกอบรมและถ่ายทอดวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีให้แก่ชาวบ้านแล้ว ทางอำเภอฯ ยังจัดตั้งสโมสร OCOP และตั้งศูนย์แนะนำผลิตภัณฑ์ OCOP ที่ใช้เครื่องหมายการค้า Langbiang ให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นโอกาสให้ชาวบ้านและสถานประกอบการได้เชื่อมโยง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเรียนรู้ประสบการณ์เพื่อเปลี่ยนวิธีคิดในการผลิต เปลี่ยนจากการผลิตแบบรายย่อยมาเป็นการผลิตแบบเชื่อมโยงและร่วมมือเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ผลิตภัณฑ์เกษตรเฉพาะถิ่นของอำเภอ นาย Cill Poh เผยว่า

“เราได้ก่อสร้างศูนย์cotoeผลิตภัณฑ์ OCOP เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในท้องถิ่นต่อนักท่องเที่ยวเพื่อช่วยให้การจำหน่ายสินค้ามีเสถียรภาพทั้งในตลาดภายในและต่างประเทศ มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของท้องถิ่น”

ศูนย์แนะนำผลิตภัณฑ์ OCOP ในหลากเยือง

ปัจจุบันนี้ ในอำเภอหลากเยือง มีสินค้าการเกษตรที่บรรลุมาตรฐาน OCOP ระดับ 3-4 ดาวรวม 28 รายการและทางอำเภอกำลังเรียกร้องให้ทางการจังหวัดเลิมด่งรับรองผลิตภัณฑ์ OCOP อีก 19 รายการ ซึ่งล้วนแต่เป็นสินค้าการเกษตรที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและเทคโนโลยีดิจิทัล หลังจากที่ประยุกต์ใช้วิธีการผลิตที่ทันสมัย อำเภอหลากเยืองสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าเกษตรประมาณ 330 ล้านด่งต่อเฮกตาร์ต่อปี เพิ่มขึ้นเกือบ 60 ล้านด่งต่อเฮกตาร์เมื่อเทียบกับการผลิตแบบเก่า นาย สือหว่ายแทง ประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอหลากเยือง ยืนยันว่า

“อุตสาหกรรมการเกษตรยังคงเป็นหน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจของอำเภอฯ โดยจะมีโครงการสำคัญต่างๆ เพื่อพัฒนาการเกษตรต่อไป มุ่งสู่การเกษตรอัจฉริยะ สร้างสรรค์ห่วงโซ่การเชื่อมโยงพร้อมกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการผลิต การรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าและผลิตสินค้า OCOP เพื่อสร้างความได้เปรียบให้แก่ท้องถิ่น เราจะจัดตั้งศูนย์แนะนำผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นควบคู่กับการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงการเกษตรและดึงดูดนักลงทุนที่มีศักยภาพสูงมาก่อสร้างเขตแปรรูปสินค้าเกษตรต่างๆ”

หลังการเน้นพัฒนาการเกษตรและชนบทเป็นเวลา 15 ปี โดยเฉพาะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในการผลิตและประกอบธุรกิจ การเกษตรของอำเภอหลากเยืองได้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ในเวลาข้างหน้า ทางอำเภอฯ ได้วางแผนปฏิบัติแนวทางพัฒนาการเกษตรแบบอินทรีย์ ยกระดับประสิทธิภาพให้แก่สถานประกอบการ สหกรณ์และธุรกิจครัวเรือนเพื่อถ่ายทอดและขยายผลการประยุกต์ใช้เทคนิคการผลิตเกษตรปลอดสารพิษ สร้างสรรค์ห่วงโซ่การผลิตสินค้าเกษตรที่เชื่อมโยงกับตลาดเพื่อสามารถจำหน่ายผลผลิตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน.