การพยากรณ์ที่ดีเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี๒๐๑๕

(VOVworld) –  ปี๒๐๑๔ เศรษฐกิจเวียดนามมีอัตราการขยายตัวร้อยละ๕.๙๘ สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐสภาวางไว้คือร้อยละ๕.๘ ในปี๒๐๑๕ รัฐบาลวางเป้าไว้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ๖.๒ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกและภายในประเทศยังคงประสบความยากลำบากแต่ปัจจุบันได้มีปัจจัยที่ดีที่อำนวยความสะดวกเพื่อบรรลุอัตราการขยายตัวนี้

(VOVworld) –  ปี๒๐๑๔ เศรษฐกิจเวียดนามมีอัตราการขยายตัวร้อยละ๕.๙๘ สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐสภาวางไว้คือร้อยละ๕.๘ ในปี๒๐๑๕ รัฐบาลวางเป้าไว้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ๖.๒ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกและภายในประเทศยังคงประสบความยากลำบากแต่ปัจจุบันได้มีปัจจัยที่ดีที่อำนวยความสะดวกเพื่อบรรลุอัตราการขยายตัวนี้

การพยากรณ์ที่ดีเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี๒๐๑๕ - ảnh 1
รัฐบาลเวียดนามวางเป้าไว้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ๖.๒ในปี๒๐๑๕(Photo:VOV)

ปี๒๐๑๔ เวียดนามได้บรรลุเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมสำคัญๆ เงินเฟ้อ และดอกเบี้ยสินเชื่อลดลง การส่งออกมีการขยายตัวสูงโดยมูลค่าการส่งออกทำสถิติใหม่อยู่ที่๑แสน๕หมื่นล้านเหรียญสหรัฐและมีความได้เปรียบดุลการค้า จากผลสำเร็จในปี๒๐๑๔และปัจจัยที่สะดวกในปี๒๐๑๕ บรรดาผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจเห็นว่า การส่งออกยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญให้แก่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามซึ่งจนถึงปัจจุบัน นอกจากข้อตกลงพหุภาคีกับองค์การการค้าโลกหรือดับเบิลยูทีโอแล้ว เวียดนามยังเป็นสมาชิกของข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีและพหุภาคี๗ฉบับกับหุ้นส่วนสำคัญต่างๆ ในปี๒๐๑๕ เวียดนามจะปฏิบัติคำมั่นต่างๆตามข้อตกลงฉบับใหม่ที่ได้ลงนาม เช่น ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม– สาธารณรัฐเกาหลี ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม–สหภาพศุลกากรรัสเซีย เบลารุส คาซักสถานโดยเร็วและเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม–สหภาพยุโรปหรืออียู ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีต่อไปและเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน  การผสมผสานเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึกจะอำนวยความสะดวกในการเพิ่มมูลค่าการส่งออกและผลักดันการขยายตัวจีดีพี ดร.ฝ่ามเติ๊ตทั้งผู้เชี่ยวชาญระดับสูง สถาบันวิจัยการค้าแห่งกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์กล่าวว่า“กิจกรรมส่งออกของเวียดนามมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นเนื่องจากข้อตกลงการค้าเสรีที่ได้ลงนามกับบางหุ้นส่วน และพยากรณ์ว่า ในไตรมาสแรกปี๒๐๑๕ ข้อตกลงทีพีพีจะได้รับการลงนามซึ่งจะช่วยให้การส่งออกเวียดนามมีการพัฒนา แต่พวกเราจะสามารถใช้โอกาสนี้ได้หรือก็ขึ้นอยู่กับนโยบายสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค บรรยากาศการประกอบธุรกิจที่สะดวกและความพยายามของชมรมนักธุรกิจเพื่อมีส่วนร่วมให้แก่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ”

ปัจจัยสำคัญอีกประการที่มีส่วนร่วมผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี๒๐๑๕คือเศรษฐกิจมหภาคที่มีเสถียรภาพต่อไป เงินเฟ้อที่พยากรณ์ว่า จะอยู่ในระดับต่ำคือประมาณร้อยละ๔ และความสมดุลต่างๆของเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพจะอำนวยความสะดวกให้แก่การปฎิบัติเป้าหมายปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจซึ่งก็เป็นโอกาสสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่สะดวกให้แก่บรรดานักลงทุน โดยเฉพาะ นักลงทุนต่างชาติ  จากการพยากรณ์ว่า จากการขยายตัวของเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอจะช่วยให้การเบิกจ่ายเงินทุนนี้อยู่ที่กว่า๑หมื่น๗พันล้านเหรียญสหรัฐและการเบิกจ่ายเงินทุนเอฟดีไอที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เงินเอฟดีไอในปีต่อๆไปเพิ่มขึ้น ดร.เหงวียนหงอกเตวี๊ยน หัวหน้าสถาบันเศรษฐศาสตร์การเงินแห่งสถาบันการเงินกล่าวว่า“เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ การสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดี การเปิดเสรีของเศรษฐกิจที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้นและการผสมผสานเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึกทำให้การดึงดูดเงินทุนเอฟดีไอในปี๒๐๑๕เพิ่มขึ้น พวกเราเห็นว่า เงินทุนเอฟดีไอใน๕ปีข้างหน้าจะเป็นแหล่งพลังสำคัญให้แก่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำและเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้แก่การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ และสร้างความไว้วางใจเพื่อให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในเวียดนาม”

ในปี๒๐๑๕ยังมีความสะดวกคือ กฎหมายหลายฉบับ เช่น กฎหมายภาษี กฎหมายศุลกากร กฎหมายลงทุน กฎหมายสถานประกอบการฉบับแก้ไขมีผลบังคับใช้ซึ่งจะส่งผลกระทบในทางบวกต่อบรรยากาศการประกอบธุรกิจและช่วยดึงดูดเงินลงทุน นายเลดังยวันผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจกล่าวว่า“ปี๒๐๑๕ การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ๕.๕ถึงร้อยละ๖ พวกเราต้องพยายามอย่างเต็มที่จึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่วางไว้ในปี๒๐๑๕ที่ร้อยละ๖.๒ ดังนั้น รัฐบาลต้องผลักดันการปฏิรูประบบบริหารราชการ ลดการใช้จ่ายและลดระเบียบการให้แก่สถานประกอบเพื่อผลักดันการผลิตและประกอบธุรกิจเพราะในปี๒๐๑๕ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะมีความผันผวนยากที่จะคาดการณ์ได้  ปี๒๐๑๕ก็เป็นปีแห่งการผสมผสาน ดังนั้น สถานประกอบการต้องแข่งขันอย่างดุเดือดจึงสามารถรักษาตลาดอย่างมั่นคงได้”

ในเวลาที่ผ่านมา เศรษฐกิจเวียดนามขึ้นอยู่กับเงินลงทุน ค่าจ้างแรงงานที่ถูกและผลผลิตที่มีมูลค่าเศรษฐกิจไม่สูงและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นเพื่อสร้างก้าวกระโดด เวียดนามกำลังเปลี่ยนมาใช้รูปแบบการขยายตัวใหม่โดยอาศัยการเพิ่มผลผลิต มูลค่าสินค้าบริโภคภายในประเทศและขยายการส่งออกซึ่งเป็นแนวทางที่ดีเพื่อสร้างพื้นฐานให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด