การลงทุน FDI มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย
(VOVworld) - การเข้ามาลงทุนในเวียดนามของสถานประกอบการที่ใช้เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI มีส่วนร่วมสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามโดยในตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เงินทุน FDI ได้กลายเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญแก่การพัฒนาประเทศ มีส่วนร่วมไม่น้อยต่อการดึงดูดแหล่งเงินทุนอื่นๆ ตลอดจนผลักดันการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจเวียดนาม
(VOVworld) - การเข้ามาลงทุนในเวียดนามของสถานประกอบการที่ใช้เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI มีส่วนร่วมสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามโดยในตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เงินทุน FDI ได้กลายเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญแก่การพัฒนาประเทศ มีส่วนร่วมไม่น้อยต่อการดึงดูดแหล่งเงินทุนอื่นๆ ตลอดจนผลักดันการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจเวียดนาม
ตามรายงานของกระทรวงวางแผนและการลงทุน ในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา จากโครงการที่ยังดำเนินกิจการอยู่ 14.550 โครงการ รวมยอดเงินจดทะเบียนประมาณ 2 แสน 1 หมื่น 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีเงินทุนที่นำไปปฏิบัติแล้ว 9 หมื่น 7 พัน 6 ร้อย 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาคการลงทุนจากต่างประเทศถือว่าเป็นภาคที่พัฒนาคล่องตัวที่สุดโดยมีอัตราการขยายตัวจีดีพีสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศ ในปี 2012 ภาคนี้ได้สมทบเข้างบประมาณแผ่นดินประมาณ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 11.9 ของยอดรายรับของงบประมาณแผ่นดิน นอกจากนั้น การประกอบธุรกิจของสถานประกอบการ FDI ยังได้สร้างตำแหน่งงานหลักกว่า 2 ล้านตำแหน่งและอีกประมาณ 3-4 ล้านตำแหน่งสำหรับสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องซึ่งส่งผลเป็นอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแรงงานตามแนวทางพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย นอกจากนี้เงินทุน FDI ยังมีบทบาทสำคัญต่อยอดมูลค่าการส่งออกของประเทศโดยเมื่อปี 2012 ภาคเศรษฐกิจที่มีเงินลงทุน FDI มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 64 ของยอดมูลค่าการส่งออกของประเทศ ในการประชุมสรุป 25 ปีผลการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนามที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ท่าน Bùi Quang Vinh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้ชี้ชัดว่า “เงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อเวียดนาม เพราะพวกเราไม่ใช่แค่ได้รับเงินทุน สร้างงาน ผลักดันการส่งออกและเพิ่มรายรับให้แก่งบประมาณแผ่นดินเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการบริหารสถานประกอบการและได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอีกด้วย อาจกล่าวได้ว่า เงินทุนจากต่างประเทศได้มีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในตลอด 25 ปีที่ผ่านมา”
 |
| เงินทุน FDI ได้กลายเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญแก่การพัฒนาประเทศ (Internet) |
ในหลายปีที่ผ่านมา เงินทุน FDI ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่แต่ละท้องถิ่น โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศยังคงใช้แหล่งเงินทุน FDI อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นนครเด่นๆที่เป็นจุดดึงดูดนักลงทุนได้แก่ เมืองท่าไฮฟอง จังหวัด Thái Nguyên Vĩnh Phúc และ Hải Dương เป็นต้น โดยในปี 2012 เมืองท่าไฮฟองได้ดึงดูดเงินทุนกว่า 1.23 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศโดยโครงการใหม่ที่ได้จดทะเบียนส่วนใหญ่อยู่ในด้านการผลิตอุตสาหกรรมซึ่งในนั้นมีบางกลุ่มบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น เช่น โรงงานผลิตยางรถยนต์ Bridgestone มียอดเงินทุนเกือบ 575 ล้านเหรียญสหรัฐ กลุ่มบริษัทเภสัชภัณฑ์ Nipro Pharam Corporation และบริษัท Fuji Xerox ที่มาลงทุนฐานการผลิตเครื่องถ่ายสำเนาและหมึกพิมพ์ เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นการผลิตที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง อีกทั้งต้องไม่ก่อมลภาวะและต้องปฏิบัติในเวลาสั้นซึ่งแสดงให้เห็นว่าถึงแม้ในสภาวการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงประสบอุปสรรค์ แต่บรรดานักลงทุนต่างชาติยังคงมีความเชื่อมั่นต่อบรรยากาศการลงทุนและให้คำมั่นที่จะประกอบธุรกิจระยะยาวในเวียดนาม นาย Kyoshiro Ichikawa ประธานบริษัท I.B.C ประจำเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า “มี 3 ปัจจัยที่ดึงดูดใจนักลงทุน หนึ่งคือ แหล่งบุคคลากรเนื่องจากเวียดนามมีแรงงานฝีมือดีและอยู่ในวัยทำงานซึ่งเป็นปัจจัยที่สถานประกอบการญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก 2 คือ เวียดนามเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมืองและประเด็นสุดท้ายคือ เวียดนามมีบทบาทสำคัญในอาเซียน” นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยอื่นที่มีส่วนร่วมไม่น้อยต่อการดึงดูดแหล่งเงินทุน FDI ในท้องถิ่นต่างๆ นาย Dương Anh Điền ประธานคณะกรรมการประชาชนเมืองท่าไฮฟองได้เผยว่า “พวกเราถือว่า แหล่งพลังภายในมีบทบาทสำคัญดึงดูดแหล่งพลังภายนอก ดังนั้น ทางเมืองท่าไฮฟองจึงได้จัดทำแผนยุทธศสาตร์ที่ชัดเจน พวกเรามีแถวขบวนเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ทั้งด้านการบริหารเศรษฐกิจและสามารถใช้ภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว พวกเรายังเน้นการปฏิรูประเบียบราชการและให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานและพื้นที่เวนคืนที่ดินเพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนอย่างรวดเร็ว พวกเราเน้นดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ซึ่งจะทำให้นักลงทุนอื่นๆสนใจและพากันเข้ามาลงทุน”
 |
| เวียดนามให้ความสนใจต่อการดึงดูดเงินทุน FDI (Internet) |
อาจกล่าวได้ว่า ในตลอด 25 ปีที่ผ่านมา แหล่งเงินทุน FDI ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาของประเทศ ช่วยปรับปรุงภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามดีขึ้นบนเส้นทางแห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก แต่อย่างไรก็ดี ยังมีข้อจำกัดที่เวียดนามต้องแก้ไขเพื่อส่งเสริมแหล่งพลังภายในอย่างเต็มที่ สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติ ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมสรุปผล 25 ปีดึงดูดเงินทุน FDI ในเวียดนาม ท่าน Nguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีได้ชี้ชัดว่า “ผมขอย้ำว่า ต้องผลักดันการปฏิรูประบบบริหารราชการโดยก่อนอื่นคือระเบียบราชการ พวกเราได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างแต่เมื่อเทียบกับความต้องการในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อดึงดูดเงินทุน FDIแล้ว พวกเราต้องทำการปฏิรูประบบบริหารราชการโดยต้องเร่งเสร็จสิ้นการจัดทำเอกสารกฏหมาย ระเบียบนโยบายด้านการลงทุนตามแนวทางที่สะดวกและมีขีดความสามารถในการแข่งขันยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในภูมิภาค การปฏิรูประเบียบราชการตามแนวทางทุกนโยบายที่เสนอต้องเพื่อเป็นการดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนเงินทุนภายในประเทศที่สะดวกยิ่งขึ้น”
ในตลอด 25 ปีของการดึงดูดเงินทุนต่างประเทศ เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในหลายด้านและมีส่วนร่วมไม่น้อยต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ปี 2013 ถือเป็นปีที่เต็มไปด้วยความยากลำบากต่อเศรษฐกิจของหลายประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยาภาพการพัฒนา เวียดนามยังคงเป็นประเทศที่มีบรรยากาศการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติตามคำยืนยันของนายกรัฐมนตรี Nguyễn Tấn Dũng เวียดนามให้คำมั่นจะร่วมกับนักลงทุนต่างชาติร่วมแรงร่วมใจฟันฝ่าความท้าทายและอุปสรรค์เพื่อความสำเร็จและผลผลประโยชน์ร่วมกัน./.
Lê Phương – VOV5