ขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตร

(VOVworld) –  นับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรของเวียดนามอยู่ที่กว่า๑หมื่น๗พัน๔ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ๑๒เมื่อเทียบกับช่วงปีปลายปีที่แล้ว คาดว่า หลังจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีและข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปหรืออียูได้รับการลงนามในปลายปีนี้ ตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรของเวียดนามจะขยายกว้างมากขึ้นและการพึ่งพาตลาดบางแห่งจะลดลง ส่วนการส่งออกก็จะมีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน

(VOVworld) –  นับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรของเวียดนามอยู่ที่กว่า๑หมื่น๗พัน๔ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ๑๒เมื่อเทียบกับช่วงปีปลายปีที่แล้ว คาดว่า หลังจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีและข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปหรืออียูได้รับการลงนามในปลายปีนี้ ตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรของเวียดนามจะขยายกว้างมากขึ้นและการพึ่งพาตลาดบางแห่งจะลดลง ส่วนการส่งออกก็จะมีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน

ขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตร - ảnh 1
เกษตรกรจังหวัดลองอานดูแลแก้วมังกรที่ส่งออก

การส่งออกกาแฟ พริกไทย มะม่วงหิมพานต์ สัตว์น้ำและเครื่องเฟอร์นิเจอร์มีการขยายตัวทั้งปริมาณและมูลค่าและมีผลิตภัณฑ์เกษตรหลายชนิด เช่น ผักและผลไม้สามารถเจาะตลาดที่ต้องการสินค้าคุณภาพสูง เช่น อียู สหรัฐ ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี โดยเฉพาะ ส้มโอเขียวและแก้วมังกรได้เจาะตลาดของประเทศและดินแดน๔๐แห่ง โดยเมื่อปี๒๐๑๓ เวียดนามได้ส่งออกแก้วมังกร๓แสน๒หมื่น๖พันตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า๒๐๐ล้านเหรียญสหรัฐ  ส่วนใน๗เดือนที่ผ่านมา การส่งออกแก้วมังกรเพิ่มขึ้นร้อยละ๑๖เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นายเหงวียนซวนห่ง รองหัวหน้าคณะกรรมการชี้นำการพัฒนาตลาดส่งออกผัก ผลไม้ ดอกไม้แห่งกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทกล่าวว่า เพื่อขยายตลาดส่งออก สถานประกอบการต้องปรับปรุงการเข้าถึงตลาด รักษาและพัฒนาตลาดเดิมผ่านการยกระดับคุณภาพและมูลค่าของสินค้าเกษตรที่เป็นจุดแข็งของเวียดนามพร้อมทั้งต้องขยายการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีแปรรูปหลังการเก็บเกี่ยว“สถานประกอบการควรขยายการลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรภายในประเทศ เช่น ก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลจากมันสัมปะหลังและใช้เศษไม้เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องเฟอร์นิเจอร์แทนการนำเข้า”

การผลักดันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแปรรูปและการขยายการส่งเสริมการค้าในเวลาที่ผ่านมาทำให้สินค้าเกษตรของเวียดนามหลายชนิดสามารถเจาะตลาดใหม่พร้อมทั้งเปิดแนวทางการส่งออกให้แก่ผลไม้เวียดนาม ในขณะเดียวกัน ตลาดเกิดใหม่ในตะวันออกกลาง และแอฟริกากำลังมีความต้องการนำเข้าสูงซึ่งก็สร้างโอกาสให้แก่สถานประกอบการส่งออกของเวียดนามด้วย  ดร.ดั่งกิมเซิน หัวหน้าสถาบันนโยบายและยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตรและชนบทกล่าวว่า สถานประกอบการเวียดนามควรเป็นฝ่ายรุกในการเจาะตลาดใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเนื่องจากการพึ่งพาตลาดแห่งเดียวและย้ำว่า“เพื่อเจาะตลาดใหม่ ก่อนอื่นต้องเข้าใจโครงสร้างตลาดซึ่งหมายความว่า เข้าใจกำลังซื้อ และระบบการจำหน่ายของตลาดเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองตลาดนั้นๆ”

นายห่ากงต๊วนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเผยว่า ปัจจุบัน กระทรวงกำลังชี้นำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจตลาด ประสานกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับสมาพันธ์ และสถานประกอบการเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการ นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการผลักดันการผลิตผ่านการสำรวจและเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดอย่างทันการณ์เพื่อทำการปรับปรุงให้สอดคล้องกับขนาดการผลิต“ในเร็วๆนี้ ทางกระทรวงจะเน้นการบริหารของรัฐ แก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการต่อไป ผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างสถานประกอบการที่ส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดเพื่อธำรงตลาดและบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่หน่วยงานวางไว้ในปีนี้คือร้อยละ๓”

ในหลายปีที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกของสินค้าเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำคิดเป็นร้อย๒๐ของยอดมูลค่าการส่งออก เพื่อขยายตลาด ในเร็วๆนี้ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทจะเน้นยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และปรับปรุงสถานประกอบการใหม่ตามแนวทางผลิตสินค้าที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงเพื่อป้อนให้แก่ตลาดโลก  เพื่อปฏิบัติหน้าที่นี้ การปรับปรุงโครงสร้างแขนงานถือเป็นก้าวกระโดดเพื่อธำรงการขยายตัว อีกด้านหนึ่ง ทางกระทรวงก็ยกระดับคุณภาพอนามัยความปลอดภัยด้านอาหารและการบริหารวัตถุดิบเกษตรเพื่อสร้างเครื่องหมายการค้าและสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดโลกได้อย่างมั่นคง ./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด